
30 มิถุนายน 2566 จากเหตุการณ์ตายแล้วฟื้น ซึ่งถูกเปิดเผยจาก เพจเฟซบุ๊ก "บ้านดุงอัพเดต" โดย นายวีระพล รักเสมอวงศ์ แอดมิน เพจบ้านดุงอัพเดต ได้เดินทางไปรับร่างของ น.ส.ชฏาพร อายุ 49 ปี ชาวอ.บ้านดุง ที่ป่วยด้วยโรคมะเร็ง นำร่างกลับบ้าน ตามที่นางมะลิ ผู้เป็นแม่อยากเอาลูกสาวมาตายที่บ้าน ถือเป็นวาระสุดท้าย
ทั้งนี้ สาเหตุที่ คุณแม่ของน.ส.ชฏาพร พาลูกสาวกลับบ้าน เพราะหมอแจ้งว่าให้ทำใจ ขณะที่นำร่างของผู้ป่วยมาถึงกลางผ่านช่วง อ.หนองหาน ปรากฏว่า น.ส.ชฏาพร ได้หมดลมหายใจ เสียชีวิตกลางทาง ทางคุณแม่มะลิ เป็นแม่ของผู้ป่วยได้โทรหาญาติให้ไปเตรียมงานศพที่วัดทันที
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
แต่ปรากฏว่า เมื่อรถกำลังเลี้ยวเข้า วัดศรีผดุง หมู่ 7 เขตเทศบาลเมืองบ้านดุง ซึ่งเป็นวัดที่เตรียมจัดงานศพ ปรากฏว่า คนในรถตู้ทั้งคันต่างพากันตื่นตกใจและขนลุก เมื่อได้ยินเสียงเฮือกเหมือนหายใจกลับคืนมาของน.ส.ชฏาพร และเจ้าตัวลืมตาขึ้น ทุกคนในรถต่างมองหน้ากันเลิกลัก เกิดอะไรขึ้น
ขณะที่นางมะลิซึ่งเป็นคุณแม่ เมื่อรู้ว่าลูกสาวตายแล้วฟื้นกลับคืนมา ได้รีบนำลูกสาวส่งรพ.สมเด็จพระยุพราชบ้านดุงทันทีและรีบโทรบอกลูกสาวและลูกชายของ น.ส.ชฏาพร ทุกคนต่างพากันงงแต่ก็ดีใจที่แม่ยังไม่ตาย
ขณะที่ญาติที่เตรียมงานอยู่วัด ต่างพากันงงยกใหญ่ กำลังพากันเตรียมงานพร้อมนำโลงศพมาไว้แล้ว ซึ่งเมื่อเสียชีวิตกลางทางที่อ.หนองหาน กว่าจะมาถึง อ.บ้านดุง กระทั่งเลี้ยวเข้าวัด ระยะทางกว่า 40 กม. และใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 1 ชม. จะมาถึงกลับฟื้นมาได้อย่างไร
ทั้งนี้ ญาติๆ เชื่อว่า เจ้าตัวยังไม่อยากตาย เพราะรอลูกสาวที่จะเดินทางมาจากกรุงเทพฯ เพื่อกลับมาดูลมหายใจเป็นครั้งสุดท้ายของแม่ โดยตอนนี้น.ส.ชฏาพรยังนอนอยู่ที่รพ.บ้านดุง โดยมีลูกสาวดูแลอย่างใกล้ชิด
ล่าสุด มีรายงานว่า นางชฏาพรได้เสียชีวิตแล้วเมื่อ 2 ทุ่มคืนที่ผ่านมา หลังจากเห็นหน้าลูกสาวที่เดินทางไกลมาจากกรุงเทพฯ จากนั้นก็ได้จากไปอย่างสงบ โดยวันนี้ญาติๆก็ได้นำศพไปทำพิธีฌาปนกิจศพที่วัดศรีผดุง หมู่ 7 ต.ศรีสุทโธ อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี ทันที ท่ามกลางความโศกเศร้าเสียใจของบรรดาญาติ นางมะลิ ผู้เป็นแม่และลูกสาวและลูกชาย