ธารน้ำใจช่วย แม่ป่วยไตวาย ลูก 4 ขวบป่วยมะเร็ง ใกล้ได้เปลี่ยนถ่ายไขกระดูก
ครอบครัวรันทด แม่ป่วยไตวายระยะสุดท้าย ขณะที่ลูกวัย 4 ขวบ 6 เดือน ป่วยมะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิดรุนแรง ระดมเงินปลูกถ่ายไขกระดูก 1 ล้านบาท ล่าสุดใกล้ความจริง ธารน้ำใจหลั่งไหลบริจาคช่วยกว่า 7 แสนบาทแล้ว
27 มิถุนายน 2566 จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ชื่อ "จีระวดี อินทร์พะเนาว์" ได้โพสต์ภาพและข้อความระบุว่า “ขอรับบริจาคเงินจากเพื่อนๆ ในเฟสบุ๊ค คนละ 5 บาท 10 บาท เพื่อช่วยเหลือค่าใช้จ่ายของลูกชายคือ ด.ช.ภูดิท หาญทองหลาง หรือน้องภู อายุ 4 ขวบ 6 เดือน ที่ป่วยเป็นโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว ชนิดรุนแรง ชื่อว่า ฟิลาดิเฟีย เป็นในโครโมโซม การรักษาต้องใช้ยานอกบัญชีควบคู่ไปด้วย ราคาเม็ดละ1,400 บาท และไม่สามารถเบิกได้
" สวัสดีคะ เรา 2 แม่ลูกมาขอความช่วยเหลือเพื่อนชาวเฟสทุกท่าน ช่วยบริจาคเงิน 5 บ. 10 บ.ช่วย ด.ช.ภูดิท หาญทองหลาง เพื่อเป็นค่าให้จ่ายในการเดินทางมารักษาและค่าใช้จ่ายที่รพ. ลูกเราป่วยเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาว ชนิดรุนแรงชื่อว่าฟิลาดิเฟีย เป็นในโคโมโซม การรักษาต้องใช้ยานอกบัญชีควบคู่ราคาเม็ดละ 1400 บ.และไม่สามารถเบิกได้
ช่วงแรกเราจำนำของทุกอย่างที่อยู่ในบ้าน รวมถึงที่บ้าน รถ ทุกอย่างเพื่อมาซื้อยาและเป็นค่าใช้จ่ายในการเดินทางมารักษา เรารักษาน้องมา 1 ปีกว่าๆ ช่วงปีกว่าต้องไปรพ.ทุกอาทิตย์ และวันนี้คิดว่าจะเป็นยาเคมีรอบสุดท้าย แต่หมอดันบอกว่ามะเร็งมันผุดขึ้นมาอีก.. ทำไรไม่ถูกถ้าต้องเริ่มนับหนึ่ง
เราไม่มีกำลังทรัพย์พอสำหรับค่าใช้จ่ายที่มากมายขนาดนี้ เพราะคิดว่าพอน้องดี เราจะได้ทำงานแต่ระหว่างที่ลูกกำลังรักษาตัว.. เราได้ตรวจพบว่าเราเป็นไตวายระยะสุดท้าย ต้องฟอกไตอาทิตย์ละ 2 ครั้ง ค่าใช้จ่ายมีมากยุแล้วก็เพิ่มมากขึ้นอีก พ่อน้องต้องคอยดูแลทั้งแม่และลูกไม่สามารถทิ้งไปทำงานที่ไกลๆได้ เราจึงขอความกรุณาทุกท่านที่เห็นข้อความขอความช่วยเหลือนี้่ท่านที่มีจิตใจเมตตากรุณาช่วยบริจาคเงินคนละเล็กคนละน้อยช่วยครอบครัวเรา2แม่ลูกด้วยนะคะ ขอบคุณคะ เลขบัญชี ธ.กรุงศรี 8009508674 จีระวดี อินทร์พะเนาว์
#ขอให้ทุกท่านที่ช่วยเหลือมาไม่ว่าด้านใดๆมีสุขภาพร่างกายแข็งแรงเจริญรุ่งเรืองนะคะ "
หลังจากโพสต์เรื่องราวออกไป และผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้านหลังหนึ่งมนพื้นที่ ต.ประสุข อ.ชุมพวง จ.นครราชสีมา ด้วยนำความห่วงใยและกำลังใจมามอบให้กับครอบครัวของ น.ส.จีระวดี แม่ป่วยไตวาย ผู้โพสต์ โดยได้พบกับ นายจำนงค์ หาญทองหลาง ผู้เป็นสามี กับ ด.ช.ภูดิท หาญทองหลาง หรือ “น้องภู” ลูกชายป่วยมะเร็งของน.ส.จีระวดี วัย 4 ขวบ 6 เดือน กำลังนอนพักอยู่ในเปลใต้ถุนบ้าน
ล่าสุด วันนี้ (27 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวได้ติดตามความคืบหน้าการช่วยเหลือครอบครัวของ น.ส.จีระวดี มาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งน.ส.จีระวดี บอกว่า หลังจากข่าวได้เผยแพร่ออกไป มีผู้ใจบุญจำนวนมากที่โอนเงินมาช่วยเหลือเรื่องการรักษาอาการป่วยของน้องภู ซึ่งเป็นโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว ชนิดรุนแรง ตอนนี้ก็กินยารักษาอาการควบคู่กับให้เคมีบำบัด
อย่างไรก็ตาม เมื่อต้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา หมอบอกว่า มะเร็งผุดขึ้นมาอีก และน้องภูจะมีชีวิตอยู่ได้อีกประมาณ 6 เดือนเท่านั้นจน ซึ่งวิธีเดียวที่จะรักษาน้องภูได้คือการปลูกถ่ายไขกระดูก แต่ค่าใช้จ่ายประมาณ 4 ล้านบาท เนื่องจากน้องภูเป็นผู้ป่วยในโครงการโรคมะเร็งของ รพ.มหาราชนครราชสีมา จึงไม่ต้องเสียค่ารักษา แต่ยังต้องเสียค่ายานอกที่ไม่สามารถเบิก ทำให้ค่ารักษาลดลงมา เหลืออยู่ที่ประมาณ 1 ล้านกว่าบาท
ตอนนี้ ผู้ใจบุญได้โอนเงินบริจาคมาช่วยเหลือ ผ่านทางบัญชีธนาคาร ประมาณ 7 แสนบาทแล้ว แต่ก็ยังไม่เต็มจำนวนค่าใช้จ่ายปลูกถ่ายไขกระดูกให้กับน้องภู จะต้องหาเงินมาสมทบอีก 4 แสนกว่าบาท
"ครอบครัวเรารู้สึกดีใจและซาบซึ้งในน้ำใจของทุกๆ ท่านเป็นอย่างมากที่ให้การช่วยเหลือในครั้งนี้"
น.ส.จีระวดี กล่าวอีกว่า ในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมานี้ มีหลายคนที่โทร.มาสอบถามอาการป่วยของน้องภูและของตนด้วยความห่วงใย แต่ก็มีอีกหลายคนที่พยายามโทร.มาสอบถามเกือบ 20 สาย ถามว่า ตนและครอบครัวพักอยู่ที่ไหนและใช้บัญชีอะไรในการเก็บเงินบริจาค ซึ่งตนก็รู้สึกแปลกๆ เกรงว่าอาจจะเป็นมิจฉาชีพที่แกล้งโทร.มาสอบถามข้อมูล เพื่อดูดเงินในบัญชีบริจาคออกไป
ดังนั้นในวันนี้ ตั้งใจว่าจะป้องกันด้วยการไปถอนเงินบริจาคทั้งหมดออกจากบัญชีเดิม และจะเปิดบัญชีขึ้นใหม่อีกธนาคารหนึ่งในชื่อของสามี เพื่อนำเงินบริจาคไปฝากเอาไว้สำหรับไว้เป็นค่าใช้จ่ายปลูกถ่ายไขกระดูกให้กับน้องภู โดยจะไม่มีการทำบัตร ATM หรือผู้บัญชีกับแอพของธนาคารแต่อย่างใด ทั้งนี้เพื่อป้องกันมิจฉาชีพดูดเงินออกไป
ส่วนผู้ที่ประสงค์จะบริจาคช่วยเหลือยังสามารถบริจาคเข้าในบัญชีเดิมได้ ซึ่งตนจะทยอยถอนเอาเงินบริจาคในบัญชีเก่า ออกไปใส่ไว้ในบัญชีใหม่แทน ซึ่งน่าจะปลอดภัยกว่า
ส่วนอาการของน้องภู ขณะนี้ยังทรงๆ เพราะได้รับยาตัวใหม่มากิน เพื่อกดภูมิคุ้มกัน แต่ก็ทำให้มีอาการซึม ทานอาหารไม่ค่อยได้ วันพุธนี้ก็ต้องไปตรวจเลือดซ้ำที่ รพ.มหาราช เพื่อดูค่าเกล็ดเลือดว่ามีดีหรือไม่ จะได้ให้คีโม ต่อ แต่หากค่าเลือดไม่ดี ก็ต้องกลับไปพักฟื้นฟูร่างกายที่บ้าน กินไข่และอาหารตามที่แพทย์กำหนด เพื่อให้ค่าเลือดดีขึ้นแล้วจึงไปรับคีโม อีกครั้งเพื่อประคองอาการ
ส่วนการปลูกถ่ายไขกระดูกให้กับน้องภูก็ยังรอระดมเงินมาเป็นค่าใช้จ่ายในการรักษาอยู่ และเรื่องโรคไตของตน ตอนนี้ได้ไปขึ้นทะเบียนขอใช้สิทธิรักษากับสำนักงานประกันสังคมฯ ไว้แล้ว เพื่อเข้ารับการรักษาและเปลี่ยนไตที่ รพ.มหาราชฯ อยู่ระหว่างรอแจ้งความคืบหน้ากลับมา
