สาวแม่ลูกสอง ตกใจผัวทุบรถ หลังขับหนีแล้วถูกตาม ขับเก๋งพุ่งชนขอบทางพังยับ

5 มิถุนายน 2566 ที่ จ.เชียงใหม่ เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา ตำรวจ สภ.แม่ปิงเมือง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิรวมใจเชียงใหม่ ได้รับแจ้งเหตุรถยนต์ชนข้างทาง เหตุเกิดบริเวณถนนสายเชียงใหม่-เชียงราย (ขาเข้า) ก่อนถึงสี่แยกศาลเด็ก อ.เมืองเชียงใหม่  เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ พบรถยนต์เก๋งคันหนึ่ง ชนข้างทางได้รับความเสียหาย มีผู้หญิงคนหนึ่ง กำลังอุ้มลูกน้อย 2 คน ทางเจ้าหน้าที่กู้ภัย จึงเข้าไปอุ้มลูก ๆ ทั้งสองคน เพื่อปลอบอยู่ใกล้ ๆ 

 

เบื้องต้นทราบชื่อหญิงคนดังกล่าวคือ น.ส.พินทุณิชา มณีภัทราทิพากร อายุ 38 ปี เจ้าตัวเล่าว่า ก่อนที่จะมาเกิดเหตุรถชนในครั้งนี้ ได้มีปากเสียงกับสามี และพยายามบอกเลิกสามี เพราะว่าสามีมีหญิงอื่นมาโดยตลอด แล้วไม่ยอมรับ

กระทั่งเพื่อนของสามีเห็นว่า ตนต้องเลี้ยงดูลูกน้อย 2 คน จึงมาช่วยขายของ จากนั้นสามีก็ส่งข้อความมาหาตนว่า เชิญไปสมสู่กันเถอะ ตนและเพื่อนสามี จึงได้ขับรถไปตามหาสามี ที่ย่านสี่แยกรวมโชค เพื่อดูว่าเป็นยังไง 

จากนั้นเพื่อนสามีและสามี ก็ลงไปคุยอะไรกันไม่รู้ จากนั้นเพื่อนสามีก็ขึ้นรถ เมื่อขับรถออกมา มีการขับปาดหน้ากันไปมา กระทั่งมาถึงจุดเกิดเหตุ ได้จอดขวางแล้วก็กระโดดใส่หน้ารถ ก่อนจะใช้มือทุบกระจกจนแตก ทำให้ตกใจเหยียบคันเร่งรถเสียหลักมาชนป้ายข้างทาง 

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบ ของเจ้าหน้าที่กู้ภัย พบว่า น.ส.พินทุณิชา ได้รับบาดเจ็บบริเวณเหนือคิ้ว ส่วนลูกทั้งสองเป็นเด็กชายอายุ 6 เดือน 1 คน และเด็กหญิงอายุขวบกว่า 1 คน ทราบว่า ตอนเกิดเหตุแม่ได้อุ้มลูกชายเอาไว้ ส่วนลูกผู้หญิงนอนอยู่เบาะหลัง

เจ้าหน้าที่จึงได้นำตัวทั้ง 3 แม่ลูก ส่งโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ เพื่อตรวจดูอาการต่อไป ส่วนรถที่เกิดเหตุ เป็นรถยนต์เก๋งยี่ห้อ โตโยต้า รุ่นอัลติส สีบอนด์ ทะเบียนนครปฐม อยู่ในสภาพพังยับเยิน มีร่องรอยการทุบกระจกที่ด้านหน้า และร่องรอยการเฉี่ยวชนเสาป้ายขางทาง และยังพบป้ายบอกทาง ที่เป็นทรัพย์สินของราชการเสียหายอีกด้วย 
 

พนักงานสอบสวน จึงได้อายัดรถคันดังกล่าวไปไว้ที่ สภ.แม่ปิง เพื่อรอสอบปากคำต่อไป อย่างไรก็ตามในส่วนของข้อเท็จจริงทั้งหมดนั้น ทางพนักงานสอบสวนจะได้เชิญตัวทั้งสองฝ่าย คือฝ่ายสามีและภรรยา มาสอบสวนอีกครั้ง โดยต้องรอให้ทางฝ่ายภรรยา ออกจากโรงพยาบาลเสียก่อน เนื่องจากยังอยู่ในอาการตกใจ ให้การวกไปวนมา

ส่วนตัวสามีผู้ก่อเหตุ หลังจากก่อเหตุก็ได้หลบหนีไป และคาดว่าน่าจะได้รับบาดเจ็บเช่นเดียวกัน เนื่องจากมีคราบเลือดอยู่บริเวณกระจกหน้า และบริเวณที่จับประตูรถทั้ง 4 ข้าง ต้องรอให้ทั้งคู่ไปรักษาตัว ก่อนที่จะเชิญตัวมาพบพนักงานสอบสวน ตามขั้นตอนต่อไป