
29 พฤษภาคม 2566 ที่ จ.นครราชสีมา ชาวบ้านได้นำป้ายเขียนข้อความ “ห้ามลงทางชำรุด !!” มาตั้งขวางเส้นทางเข้าอุโมงค์ทางลอดรถไฟบ้านบุ หมู่ที่ 1 ต.ตลาด อ.เมือง จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นพื้นที่โครงการรถไฟทางคู่ ชุมทางถนนจิระ-ขอนแก่น ภายในตัวอุโมงค์ พบน้ำฝนไหลท่วมสูงเฉลี่ย 20 - 30 เซนติเมตร
ส่งผลให้รถยนต์ขนาดเล็ก และรถจักรยานยนต์ ไม่สามารถแล่นผ่านได้ ต้องเลี่ยงใช้ทางต่างระดับ สะพานเกือกม้าความสูงประมาณ 10 เมตร ข้ามทางรถไฟ เพื่อเดินทางเข้าสู่ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 2 ถ.มิตรภาพ ส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตประจำวัน ของชาวบ้านที่ต้องออกไปทำงาน ส่งบุตรหลาน และทำธุระในตัวเมือง นครราชสีมา ซึ่งมีจำนวนยานพาหนะสัญจรผ่านเฉลี่ยต่อวันหลายพันคัน
กรณีดังกล่าว ถือเป็นปัญหาซ้ำซาก ที่ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เจ้าของโครงการดังกล่าว ไม่สามารถแก้ปัญหาได้เป็นรูปธรรม ซึ่งมีสาเหตุจากการสำรวจออกแบบของบริษัทที่ปรึกษา ไม่ให้ความสำคัญเกี่ยวกับระดับความสูงต่ำของพื้นที่ และเส้นทางการไหลของน้ำฝน
โดยไม่เคยสอบถามองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) และชาวบ้าน รวมทั้งพื้นที่ติดตั้งเครื่องสูบน้ำ อยู่ระดับสูงกล่าวจุดต่ำสุด ของช่วงที่น้ำไหลผ่าน นอกจากนี้เครื่องสูบน้ำ ก็มีปัญหาขัดข้องบ่อยครั้ง สร้างความวิตกกังวลไม่มั่นใจในความปลอดภัย หากเกิดฝนตกหนัก น้ำฝนไหลท่วมระบายไม่ทัน ถ้าเครื่องสูบน้ำเสียก็ต้องรอให้ เจ้าหน้าที่ รฟท. มาแก้ไขซึ่งใช้เวลาหลายชั่วโมง
นายเฉลิม อายุ 67 ปี ชาวบ้านบ้านบุ ต.ตลาด อ.เมือง ผู้ใช้เส้นทางสัญจรเป็นประจำ เปิดเผยว่า ทางรอดไม่สามารถใช้งานได้มา 2 วัน เนื่องจากฝนตกในพื้นที่ทำให้เกิดน้ำท่วมขัง ประกอบกับเครื่องสูบน้ำขัดข้อง ไม่สามารถระบายน้ำได้ทันท่วงที ทำให้เดือดร้อนในการสัญจร ต้องขึ้นสะพานเกือกม้า เพิ่มระยะทางในการสัญจร
ล่าสุดเมื่อช่วงกลางดึกที่ ผ่านมาหลังฝนตกหนัก น้ำฝนไหลท่วมสูงกว่า 1 เมตร และได้เร่งสูบน้ำออกทำให้ปริมาณน้ำลดลง แต่ก็ยังสัญจรผ่านไม่ได้ ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องปรับปรุง แก้ไขประสิทธิภาพในการระบายน้ำให้ดีกว่านี้