22 พฤษภาคม 2566 ที่ จ.หนองคาย ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ บ้านโนนต้อง ม.4 ต.นาดี อ.เฝ้าไร่ เพื่อตรวจสอบกรณี หนุ่มคลั่งถือมีดพร้า ทุบทำลายบ้านเรือน และทรัพย์สินชาวบ้าน เสียหาย 4 หลัง ชาวบ้านต่างแตกตื่นกันทั้งหมู่บ้าน โดยผู้ที่ก่อเหตุทราบชื่อคือ นายพงษ์เพท สีหานาม หรือ อาร์ท อายุ 32 ปี
เหตุเกิดเมื่อช่วงบ่ายวานนี้ (21 พ.ค.) จุดแรกคือที่บ้านของ นางบังอร สีหานาม ประตูกระจกเสียหายสี่บาน จุดที่สองเป็นร้านของชำของ นางราตรี โพธิ์ศรีตา ทรัพย์สินที่เสียหายคือตู้เย็น จุดที่สาม ก่อเหตุช่วงกลางคืน ใช้มีดฟันกระจกรถยนต์ของ นายปฏิพล อินพันธุ์ และจุดที่ 4 คือบ้านของนางพวัน เบญจริน กระจกบ้านเสียหายหนึ่งบาน
ทั้งนี้ หลังเกิดเหตุ 2 จุดแรก ชาวบ้านได้แจ้งตำรวจ สภ.เฝ้าไร่ ให้เข้าระงับเหตุ โดยตำรวจเดินทางมาพร้อมอุปกรณ์ไม้ง่าม แต่ถูกนายอาร์ทใช้มีดฟันจนได้รับบาดเจ็บ 2 นาย จนต้องยุติการเข้าจับกุม นายอาร์ท จึงหลบหนีการจับกุมไปได้
ต่อมาเมื่อช่วงสายของวันนี้ (22 พ.ค.) ได้มีการระดมกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง , อส. และตำรวจ นำโดย ว่าที่ร้อยตรี พงษ์สิทธิ์ เปรยะโพธิเดชะ นายอำเภอเฝ้าไร่ และ พ.ต.อ.จารึก พุ่มระย้า ผกก.สภ.เฝ้าไร่ ปูพรมค้นหา จนกระทั่งทราบว่า นายอาร์ท ได้มาหลบซ่อนอยู่ที่บ้านญาติ เจ้าหน้าที่จึงนำกำลังเข้าไปจับกุม ก่อนจะนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เฝ้าไร่ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
สอบถามนางสำราญ อุดม อายุ 55 ปี เพื่อนบ้านที่เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ขณะเกิดเหตุช่วงบ่ายวานนี้ ตนกำลังนั่งกินข้าวอยู่ ผู้ก่อเหตุได้ทุบกระจกบ้านหลังแรก จากนั้นก็ไปก่อเหตุหลังที่สองที่เป็นร้านค้า ชาวบ้านและตนก็พากันวิ่งหนีตายไปหลบ ส่วนบ้านของตนมีกล้องวงจรปิดติดตั้งอยู่ จะเห็นแค่ใช้มีดพร้าฟันอยู่บริเวณหน้าบ้าน ลูกของตนก็เข้าไปหลบอยู่ใต้เตียง ตนมาถึงบ้านก็ได้มาปิดประตูบ้าน
ต่อมาตำรวจเดินทางมาถึง 5 นาย และพยายามเข้าจับกุมนายอาร์ท แต่กลับถูกฟันได้รับบาดเจ็บ 2 นาย ถูกฟันที่บริเวณศีรษะ เย็บ 6 เข็ม ส่วนอีกนายเย็บ 4 เข็ม กระทั่งช่วงเย็น ตำรวจได้เดินทางมาติดตามจับกุมตัวผู้ก่อเหตุ แต่ไม่พบตัว นจึงได้แจ้งให้ไปตามที่บ้านญาติอีกหลัง ที่อยู่ถัดกันไปอีกไม่ไกล เพราะตนได้ยินเสียงดึงประตูอยู่ แต่ก็พบตัว คาดว่าจะหลบหนีไปยังจุดอื่น เจ้าหน้าที่จึงได้ยุติการค้นหา
กระทั่งช่วงเช้าวันนี้ เจ้าหน้าที่ได้ระดมกำลังติดตามตาม จนรู้ว่ามาซ่อนตัวอยู่บ้านหลังดังกล่าว จึงได้เข้าจับกุมตัวโดยผู้ก่อเหตุพยายามหลบหนี แต่เนื่องจากอยู่ในสภาพที่อ่อนล้ามาก จึงถูกควบคุมตัวไว้ได้
ด้านแม่ผู้ก่อเหตุ เล่าให้ฟังว่า ก่อนหน้านี้ ลูกชายเป็นคนดีมาก มีอาชีพรับเหมาก่อสร้าง หลังมีครอบครัว ก็ได้พากันไปรับเหมาก่อสร้าง และส่งเงินมาให้ใช้เป็นประจำ มีลูกสาว อายุ 10 ปี เรียนอยู่ชั้น ป.3 ตอนนี้อยู่กับยาย แต่ต่อมาได้เลิกกับภรรยา ก็ได้เปลี่ยนเป็นคนละคน ทำตัวเรื่อยเปื่อยไม่มีจุดหมาย
ทั้งนี้ตนอยากให้นำตัวลูกชายไปรักษา ทุกอย่างอาจจะดีขึ้นกว่าเดิม อาจจะกลับตัวเป็นคนดี เหมือนคนอื่น ๆ หากยังอยู่แบบนี้ ชาวบ้านอาจจะเดือดร้อน พ่อ-แม่ ญาติ พี่น้อง ก็เดือดร้อนด้วย