เปิดโปง ออกโฉนดมิชอบ ป่าชายเลนกระบี่ 11 ไร่ ประกาศขาย 122 ล้าน

18 พฤษภาคม 2566 นายประเสริฐพงษ์ ศรนุวัตร์ ว่าที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดกระบี่ บัญชีรายชื่อลำดับที่ 18 พรรคก้าวไกล ได้ออกมาแฉการบุกรุกพื้นที่ป่าไม้ชายเลนที่เป็นผืนป่าไม้โกงกางถาวร ของพื้นที่ชุมน้ำปากแม่น้ำกระบี่ อยู่ใกล้กับเขาขนาบน้ำสัญลักษณ์จังหวัดกระบี่ ท้องที่หมู่ 4 บ้านบางขนุน ตำบลคลองประสงค์ อำเภอเมืองกระบี่ จังหวัดกระบี่ 

นายประเสริฐพงษ์ บอกว่า ได้รับการร้องเรียนมีข้อมูลเป็นที่ชัดเจนแล้วว่า  พื้นที่บริเวณใกล้เขาขนาบน้ำสัญลักษณ์ของเทศบาลเมืองกระบี่ ขณะนี้เป็นสัญลักษณ์จังหวัดกระบี่ เป็นพื้นที่ที่เป็นผืนป่าชุมน้ำปากแม่น้ำกระบี่ และเป็นพื้นที่ป่าถาวร และเป็นป่าชายเลน ปรากฏว่ามีการไปออกโฉนดและได้ประกาศขายในสื่อโซเชียล รวมเนื้อที่ 11 ไร่ ราคา 122 ล้านบาท 

จากการตรวจสอบข้อมูลยืนยันชัดว่า พื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ที่อยู่ในเขตป่าถาวรอย่างแน่นอน เพราะฉะนั้นขอเรียกร้องไปยังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายนฤทธิ์ ขันนุรักษ์ และอธิบดีกรมที่ดิน รวมทั้งผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ นายอำเภอเมืองกระบี่ องค์การบริหารส่วนตำบลคลองประสงค์ ถึงการออกโฉนดในเขตป่าไม้ถาวร

"คิดว่าเป็นเรื่องที่ผิดปกติแน่นอน เพราะว่าโดยสภาพของพื้นที่รอบๆบริเวณตรงนี้เป็นป่าโกงกางสวยงามมาก มีภาพถ่ายยืนยันและสามารถเข้าไปดูในกูเกิลเอิร์ทได้ "

นายประเสริฐพงษ์ กล่าวอีกว่า ขอเรียกร้องไปยังบรรดาข้าราชการ วันนี้เราสูญเสียพื้นที่สาธารณะประโยชน์ในพื้นที่จังหวัดกระบี่มากมาย  หน่วยงานราชการต้องเข้ามาตรวจสอบเรื่องนี้อย่างเร่งด่วน มิฉะนั้นจะเกิดเป็นกรณีตัวอย่างอีกเยอะ ก็ฝากถึงประชาชนคนทั่วไปได้ช่วยกระจายเรื่องนี้ด้วย เราต้องปกป้องทรัพยากรธรรมชาติ ที่ผ่านมามีความเหลวแหลกและเทะมากมายแล้วในพื้นที่กระบี่ ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่เกาะ พื้นที่เขา พื้นที่ชายหาด พื้นที่ป่าชายเลน ที่ถูกบุกรุกมีเยอะมาก 

ทั้งนี้ มีหลักฐานชัดเจนว่ามีการประกาศขาย มีการออกโฉนด โดยสภาพภูมิศาสตร์มันเป็นไปไม่ได้เลย ว่าพื้นที่ดังกล่าวอยู่ใจกลางพื้นที่ที่มีน้ำทะเลล้อมรอบและป่าโกงกางล้อมรอบอยู่ แล้วจะไปออกโฉนดแล้วประกาศขาย 122 ล้านบาท เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอนในการออกโฉนด อ้างมีการทำประโยชน์ในที่ดินดังกล่าวหรือไม่อย่างไร 

"ต้องรื้อเรื่องนี้ออกมาให้เปิดเผยขึ้นมาบนโต๊ะ ให้คนกระบี่ ให้คนไทยหลายคนเห็นว่าเราต้องช่วยกันดูแลปกป้องทรัพยากรธรรมชาติ ซึ่งล้มเหลวมาตลอด"นายประเสริฐพงษ์ ระบุ