เปิดใจ "สามีจุ๋ม ชะอำ" เหยื่อ "แอม" เผย ภรรยาเสียชีวิต ก่อนถึงนัดคืนเงิน 1 วัน

จากกรณีนางจันทร์รัตน์ วงศ์ไกรสิณ หรือ จุ๋ม เหยื่อ "แอม ไซยาไนด์" เสียชีวิตที่บ้านพักในพื้นที่ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2565 โดยวานนี้ (1 พฤษภาคม) ศาลจังหวัดเพชรบุรี ได้ออกหมายจับแอม ในข้อหา "ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน" หลังพยานเชื่อมโยงการเสียชีวิตของนางจันทร์รัตน์

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :

• ตร.ขอหมายจับคนสนิท "แอม" พรุ่งนี้ เผยมีคนแนะนำวิธีการสร้างพยานหลักฐาน
• ผลตรวจตู้เย็นเคส "ครูอ๊อด" พบสารไซยาไนด์ ปนเปื้อนในขวดน้ำ
• "แอม ไซยาไนด์" โดนแล้ว 12 หมายจับ จากเหยื่อ 12 ราย รอดชีวิต 1

นายอี๊บ สามีผู้เสียชีวิต เล่าว่า ตนและภรรยารู้จักกับแอม ผ่านเพื่อนซึ่งเป็นตัวแทนประกันชีวิตที่จังหวัดราชบุรี วันเกิดเหตุ แอมนัดเจอภรรยาที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง เวลาประมาณ 09.00 น. และกลับมาที่บ้านประมาณ 11.30 น. เมื่อภรรยากลับมาพบว่า มีอาการค่อยอ่อนเพลียจึงนอนพัก ช่วงเที่ยงตนเองกลับมากินข้าวที่บ้าน ก็เห็นภรรยานอนอยู่ในลักษณะคว่ำหน้า ลำตัวเขียว น้ำลายฟูมปากและเลือดไหลออกมา จึงรีบโทร 1669 ให้มารับตัวภรรยา เมื่อไปถึงทาง รพ. แจ้งว่า ภรรยาเสียชีวิตแล้ว โดยแพทย์ระบุสาเหตุการเสียชีวิต ระบบโลหิตล้มเหลว

นายอี๊บ กล่าวอีกว่า ตอนนั้นตนไม่ได้ติดใจ เพราะคิดว่าภรรยาเสียชีวิตจากปัญหาสุขภาพ แต่พอทราบข่าวคุณก้อย เสียชีวิตหลังจากการอยู่กับแอม ทำให้คิดถึงเหตุการณ์วันที่ภรรยาอยู่กับแอม ก่อนที่จะเสียชีวิต ทั้งนี้ ภรรยารู้จักกันสนิทกับแอมพอสมควร ไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อย จนเกิดความเชื่อใจ

ต่อมาได้แอมได้มายืมเงินไปลงทุนประมาณ 70,000 บาท บอกจะนำไปให้คนรู้จักลงทุนขายของในติ๊กต็อก นัดคืนเงินให้ในวันที่ 16 สิงหาคม 2565 แต่ภรรยาเสียชีวิต ในวันที่ 15 สิงหาคม 2565 ไม่คิดว่าแอม จะฆ่าภรรยาของตนแค่เงินไม่กี่หมื่นบาท โดยอยากให้แอม ได้รับโทษอย่างสาสมกับความผิด ที่ได้ทำลงไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2566 เจ้าหน้าที่สำนักงานยุติธรรมจังหวัดเพชรบุ รีได้ลงพื้นที่ไปพบทายาทของผู้เสียชีวิต ณ บ้านพักในพื้นที่อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี และดำเนินการแจ้งสิทธิตามพระราชบัญญัติค่าตอบแทนผู้เสียหายและค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา พ.ศ. 2544 (แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2559)

จากการวิเคราะห์เบื้องต้น หากผู้เสียชีวิตไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดมีสิทธิที่จะได้รับเงินช่วยเหลือเยียวยาในฐานะเป็นผู้เสียหายในคดีอาญา ตามมาตรา 3 ประกอบมาตรา 18 แห่งพระราชบัญญัติค่าตอบแทน กรณีความผิดต่อชีวิต ดังนี้

• 1.ค่าตอบแทนกรณีถึงแก่ความตาย จำนวน 50,000 บาท
• 2.ค่าจัดการศพ จำนวน 20,000 บาท
• 3.ค่าขาดอุปการะเลี้ยงดู จำนวน 40,000 บาท

รวมเป็นเงินทั้งสิ้น จำนวน 110,000 บาท ทั้งนี้ การพิจารณาจ่ายค่าตอบแทนผู้เสียหายในคดีอาญา เป็นดุลพินิจของคณะอนุกรรมการฯ ประจำจังหวัดพิจารณาเป็นสำคัญ