2 พฤษภาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งโพสต์ ข้อความเกี่ยวกับเหยื่อ "แอม ไซยาไนด์" ที่รอดชีวิตอยู่ที่จังหวัดบุรีรัมย์ ระบุว่า หลวงตาท่านหนึ่ง ซึ่งอยู่ที่สำนักสงฆ์ อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ เล่าให้ฟังว่า โยมแอม เข้ามาและมาถวายน้ำดื่ม หลังจากนั้นท่านก็ล้มหมดสติ เล็บมือ เล็บเท้าเขียว ลิ้นแข็ง พอท่านมาเห็นข่าว ท่านตกใจว่าโยมคนนี้เคยเข้ามาที่วัด มาคุยถึงจะหาคนมาช่วยสร้างวัด จากนั้นก็มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็น และแชร์เรื่องราวดังกล่าวต่ออย่างแพร่หลาย
เจ้าของโพสต์ บอกอีกว่า ตอนที่มาทำบุญถวายกุฏิ หลวงพ่อท่านก็พูดขึ้นมาเอง ว่า มีผู้หญิงเหมือนกับคนชื่อแอม ที่ปรากฏเป็นข่าววางยาคนตายหลายคน มาถวายน้ำและสมุนไพรให้ท่านเมื่อปลายปี 65 ที่ผ่านมา ด้วยความเป็นห่วงและอยากจะเตือนภัย จึงได้นำเรื่องราวตามคำพูดที่หลวงตา เล่าให้ฟังไปโพสต์ ส่วน น.ส.แอม เคยเดินทางมาที่พักสงฆ์แห่งนี้ หรือหลวงตาเคยเป็นเหยื่ออีกรายจริงหรือไม่ ตนเองไม่ทราบ แต่ยืนยันว่าหลวงตาท่านพูดแบบนี้จริง ไม่ใช่แค่ตนที่ได้ยิน มีชาวบ้านกว่า 10 คนที่มาทำบุญด้วยกัน ก็ได้ยินเหมือนกัน
ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่พักสงฆ์ดังกล่าว พบกับหลวงตา อายุประมาณ 70 ปี สภาพร่างกายท่านดูไม่ค่อยแข็งแรง พูดไม่ค่อยชัด ซึ่งท่านอยู่ที่ที่พักสงฆ์ดังกล่าวเพียงรูปเดียว มีญาติโยมจำนวนหนึ่งที่ทราบข่าวต่างมาเยี่ยมและสอบถามเรื่องราวจากท่านด้วยความเป็นห่วง พร้อมพาผู้สื่อข่าวเดินไปดูบริเวณที่หลวงตา ล้มหมดสติอยู่ฝั่งทิศตะวันออกของวัด
สอบถามนางณัฐพัช์ พาแกดำ อายุ 54 ปี และ น.ส.พัชรี นุรินรัมย์ อายุ 51 ปี บอกว่า พวกตนกับชาวบ้านอีกกว่า 10 คน ได้มาทำบุญถวายกุฏิให้กับหลวงตา ซึ่งตอนที่ถวายอาหาร จู่ ๆ หลวงตาก็พูดขึ้นมาว่า เมื่อปลายปีที่ผ่านมา เคยมีผู้หญิง 3-4 คน เอาน้ำและสมุนไพรมาถวายให้ที่สำนักสงฆ์ แล้วพอท่านกินสมุนไพรก็เกิดหน้ามืดเป็นลม พอท่านเห็นข่าวว่า แอม ไซยาไนด์ ที่เป็นข่าววางยาฆ่าคนตายหลายคน เคยมาถวายน้ำกับสมุนไพร ซึ่งทุกคนที่มาทำบุญก็ได้ยินเหมือนกัน
ท่านอาจจะพูดช้ากว่าคนปกติ แต่ก็พอจะจับใจความได้ว่าพูดอะไร พอได้ยินแบบนั้นต่างก็ตกใจ แต่พอมีคนนำเรื่องราวที่ท่านเล่าให้ฟังไปโพสต์ แล้วตำรวจมาสอบถามกับตัวท่านเอง หลวงตากลับบอกว่าจำไม่ได้ เพราะมันนานแล้ว
ต่อมา พ.ต.อ.วิษณุ อาภรณ์พงศ์ ผกก.สภ.กระสัง พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบข้อเท็จจริง พร้อมสอบถามหลวงตารูปดังกล่าวว่า เคยเห็นแอม เดินทางมาที่นี่ หรือนำสมุนไพรมาถวายจริงหรือไม่ ซึ่งหลวงตาก็บอกว่าจำไม่ได้ เพราะมีญาติโยมทั้งในพื้นที่และต่างจังหวัดมาทำบุญถวายสิ่งของอยู่เรื่อย ๆ ส่วนที่เป็นลมหมดสติก็เกิดขึ้นตอนที่ไปทำความสะอาดอยู่ฝั่งทิศตะวันออกของที่พักสงฆ์ ตั้งแต่ช่วงปลายปี 2565 กระทั่งมีญาติโยมที่มาทำบุญเห็นนอนหมดสติอยู่จึงรีบพาส่ง รพ.
อาจจะเพราะหลวงตาอายุมาก หรือหน้ามืดเพราะทำงานหนักหรือไม่ เพราะหลวงตาชอบทำอะไรด้วยตัวเอง ขณะนี้ยังไม่หลักฐานใดยืนยันว่า แอม เคยมาที่พักสงฆ์แห่งนี้หรือไม่