แม่ของทราย เหยื่อ"แอม ไซยาไนด์"ให้ปากคำตร. ลั่นอยากให้ลงโทษ"ประหารชีวิต"

1 พฤษภาคม 2566 เมื่อเวลา 09.25 น. ความคืบหน้าคดี "แอม ยาไซยาไนด์" ที่สโมสรตำรวจ ตำรวจจากกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกำแพงเพชร ได้นำ นางลัดดา แม่ของ นางสาวมณฑาทิพย์ ขาวอินทร์ หรือทราย ชาวจังหวัดกำแพงเพชร ที่เชื่อว่าเป็นเหยื่อของ "แอม สรารัตน์" เสียชีวิตเมื่อปี 2558 เดินทางมาให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนในคดีที่เกี่ยวข้องกับ นางสรารัตน์ รังสิวุฒาภรณ์ ผู้ต้องหาวางยา"ไซยาไนด์" 

นางลัดดา ยังมีความกังวล ให้สัมภาษณ์สั้นๆว่า อยากมาเรียกร้องความยุติธรรมให้ลูก และวันนี้รู้สึกเบาใจที่ตำรวจรับเรื่องไว้แล้ว เชื่อว่าลูกถูกทำให้เสียชีวิต แม้ตนเองจะไม่เห็นแต่ก็มั่นใจว่าแอมเป็นคนทำ ยอมรับว่าแอมกับทราย สนิทกันมาก 

ขณะที่ นักข่าวถามว่า "อยากให้ประหารชีวิตหรือไม่" นางลัดดา พยักหน้า

สำหรับความเชื่อมโยงของทรายเหยื่อ"แอม ไซยาไนด์"รายนี้ พบว่า "ทราย" เสียชีวิต วันที่ 7 กรกฏาคม 2558 ที่กรุงเทพมหานคร แพทย์ระบุสาเหตุที่เสียชีวิต เกิดจากหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน

ในวันดังกล่าว  แอมไปรับเหยื่อที่สนามบิน ขณะเดินทางกลับจากต่างประเทศ พบว่า ทรัพย์สินของเหยื่อ แอมบอกนำไปประมูลขาย โดยก่อนหน้านี้ ทราย เคยมาซื้อตึกที่นครปฐม คาดว่าจะรู้จักกันจากที่นี่ และรู้จักสนิทกับแอม ช่วยเหลือยืมเงินกันตลอดแต่ไม่เคยได้คืน และชอบไปทำบุญด้วยกัน วันที่ทรายเสียชีวิต แอมก็ไม่เคยมางานศพ

ก่อนหน้านี้ นางลัดดา มีความกังวลใจเกี่ยวกับคดีเพราะกลัวว่าตนเองจะไม่ปลอดภัย

  "รพี"เตรียมเปิดหลักฐานใหม่ บัญชีเหยื่อแอมที่เสียชีวิต  
เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (1 พ.ค.) นายรพี ชำนาญเรือ ผู้ประสานงานเหยื่อในคดีที่เกี่ยวข้องกับ "แอม สรารัตน์" หรือ "แอม ไซยาไนด์" เปิดเผยถึงความคืบหน้าว่า วันนี้จะมาถามทางตำรวจเรื่องศพของ น.ส.ศิริพร ขันวงษ์ หรือ "ก้อย ท้าวแชร์" ว่าจะสามารถดำเนินการอะไรได้บ้าง เพื่อจะได้ทำพิธีทางศาสนาเพราะศพยังไม่ได้เผา

นอกจากนี้ ในวันนี้ตนเองจะเดินทางไปรับหลักฐานบัญชีทางการเงิน ที่จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งเชื่อว่าจะเป็นประโยชน์ต่อรูปคดีที่เชื่อมโยงกับ"แอม สรารัตน์" โดยหลักฐานดังกล่าว เกี่ยวกับเรื่องของการเงินของผู้เสียชีวิตรายหนึ่ง ที่ขณะนี้ยังมีการเดินบัญชีอยู่และเชื่อมโยงกับแอม ซึ่งคนทำธุรกรรมไม่ใช่ญาติ 

"สงสัยว่าคนที่เสียชีวิตไปแล้ว ถ้ายังมีการเดินบัญชีอยู่ แต่ไม่ใช่ลูก ไม่ใช่เมีย จะเป็นใครกัน"

ส่วนเคสดังกล่าวผู้เสียชีวิตรายนี้จะรายเก่าใน 14 คน หรือไม่ นายรพี กล่าวว่า ขอไปตรวจสอบก่อน ซึ่งยังพบว่าบัญชีของผู้เสียชีวิตรายนี้ มีเงินหมุนเวียนหลายแสนบาท ส่วนตั้งแต่ปีไหนขอตรวจสอบอีกครั้ง โดยจะนำหลักฐานชิ้นนี้มามอบให้กับพนักงานสอบสวนต่อไป

นายรพี ยังบอกถึงเคสของ นางสาวมณฑาทิพย์ หรือ "ทราย" ด้วยว่า อยากให้ไปตามหาหลายคนชื่อทราย เพราะจากคำบอกเล่า หลานคนนี้มีเอกสารบางอย่างที่ให้แฟนของทรายดู และเชื่อมโยงกับการที่แอมไปตั้งตัวเป็นผู้จัดการมรดกด้วย

ขณะเดียวกันนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ได้เดินทางมามอบกระเช้ารังนกและเงินสดจำนวน 50,000 บาทให้กับ นายรพี โดยระบุว่า เป็นเงินที่รวบรวมจากแฟนคลับในชมรมและตนเอง ประสงค์มอบเงิน เป็นกำลังใจให้บุคคลตัวอย่างที่เก่ง กล้า ไม่เพิกเฉยต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะหากไม่มีนายรพีก็ไม่รู้ว่านางแอมไปฆ่าคนอีกจำนวนเท่าไร  โดยเงินจำนวน 50,000 บาท ต้องให้เป็นค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ส่วนกระเช้า รังนก เพื่อบำรุงร่างกายในการต่อสู้คดี 

ขณะที่ นายรพี ปฏิเสธไม่ขอรับเงินเนื่องจากกังวลว่าจะผิดอุดมการ ที่เคยประกาศตัวว่าจะอุทิศตัวช่วยเหลือสังคมที่ไม่ได้รับความถูกต้อง การช่วยเหลือสังคมในวันนี้ตนเองไม่ใช่ฮีโร่แต่อยากทำความจริงให้ปรากฏเพื่อให้ความเป็นธรรมเกิดขึ้นในสังคมไทย หลังจากนั้นนายระพีได้ยกมือไหว้กราบแนบอก ก่อนบอกกับนายอัจฉริยะว่าผมไม่ได้หยิ่งแต่ไม่อยากผิดอุดมการณ์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันพรุ่งนี้ (2 พ.ค.) พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร. จะเรียกประชุมทีมคลี่คลายคดี เพื่อสรุปคดีทั้งหมดอีกครั้ง หลังจากที่มีการมอบหมายงานให้ตำรวจในแต่ละท้องที่ไปรวบรวมข้อเท็จจริง พร้อมกับรับเรื่องเพิ่มเติมว่าจะมีผู้เสียหายรายอื่นๆเพิ่มด้วยหรือไม่ ซึ่งจะถือเป็นการประชุมใหญ่ครั้งที่ 2 ของคดี