svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ข่าวทั่วไทย

รวบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ปลอมเป็นตำรวจ โทรหลอกนักธุรกิจ สูญเงิน 42 ล้าน

โดนซ้อมหนีกลับไทย ก่อนเจอรวบ ตัวการใหญ่แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ปลอมเป็นร้อยเวร สภ.เมืองเชียงราย โทรหลอกนักธุรกิจ สูญเงิน 42 ล้าน อ้าง ได้เงินเดือน 2.5 หมื่น สัญญา 6 เดือน ช่วงหลังทำงานไม่เข้าเป้า ถูกขัง-ไม่ให้กินข้าว เลยหนีกลับไทย

25 เมษายน 2566 พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง ผบก.สอท.1 สั่งการให้ พ.ต.อ.ภูมิสิษฐ์ ตั้งวิทย์เดชา ผกก.2 บก.สอท.1 บช.สอท. พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน บก.สอท.1 ร่วมกันจับกุมตัว นายนวกร หรือขุน (สงวนนามสกุล) อายุ 27 ปี ชาวกรุงเทพมหานคร ผู้ต้องหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยจับกุมได้ภายในซอยเพชรสุวรรณ แขวงศิริราช เขต บางกอกน้อย กรุงเทพฯ

รวบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ปลอมเป็นตำรวจ โทรหลอกนักธุรกิจ สูญเงิน 42 ล้าน

สอบสวนนายนวกร ให้การว่า ตนทำงานอยู่ในแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ทำหน้าที่ปลอมสายเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ร้อยเวร สภ.เมืองเชียงราย, ปลอมสายเป็นพนักงานบริษัทส่งพัสดุ และปลอมเป็นนายตำรวจยศสารวัตร รวมทั้งเป็นคนรับเรื่องและเช็คยอดเงินที่หลอกจากเหยื่อ โดยให้โอนเงินเข้ามา และเป็นคนที่บังคับหน้าจอโดยใช้ทีมวิวเวอร์ โดยตนเองเคยหลอกนักธุรกิจพลังงานแสงอาทิตย์ ได้เงินมาจำนวน 42 ล้านบาท

สำหรับแก๊งที่ตนทำงานด้วยจะมีนายใหญ่ เป็นนายทุนจีน 2 คน คือ นายอาตี่ จะไปมาระหว่างประเทศจีน กับปอยเปต ประเทศกัมพูชา ซึ่งเป็นมือขวาของนายต้าเหว่ย นายทุนจีน ที่อยู่ในประเทศจีน

รวบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ปลอมเป็นตำรวจ โทรหลอกนักธุรกิจ สูญเงิน 42 ล้าน

นายนวกร บอกอีกว่า สมัครไปทำงานคอลเซ็นเตอร์ จากประกาศทางเฟซบุ๊ก รับสมัครตำแหน่งแอดมิน เงินเดือน 25,000 บาท มีที่อยู่ ที่กิน และค่าคอมมิชชั่น ให้อีก 4% ตนสนใจจึงสมัครไปทำงาน มีตนติดต่อมาให้ขึ้นรถข้ามไปฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชา ไปอยู่ในสถานที่ซึ่งเรียกกันว่า "บ่อตกปลา" มีสัญญา 6 เดือน ตนเดินทางไปเมื่อเดือน มีนาคม 2565 และทำงานอยู่จนครบสัญญา

จากนั้นได้อยู่รอภรรยาที่ตนได้ชักชวนให้ติดตามไปทีหลัง ต่อมาตนได้รับมอบหมายให้ทำงานไม่ตรงปก ทำไม่ได้ก็จะถูกขัง ถูกซ้อมและไม่ให้กินข้าว จึงหนีกลับมา และพยายามหาทางช่วยภรรยาที่ยังติดค้างออกมา กระทั่งมาถูกจับกุมดังกล่าว

รวบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ปลอมเป็นตำรวจ โทรหลอกนักธุรกิจ สูญเงิน 42 ล้าน

เบื้องต้นตำรวจแจ้งข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น, ร่วมกันเป็นอั้งยี่ ซ่องโจร, ร่วมกันมีส่วนร่วมในองค์การอาชญากรรมข้ามชาติ, ร่วมกันโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือ ข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน และร่วมกันฟอกเงิน นำตัวส่งพนักงานสอบสวน บก.สอท.1 ดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป