
13 เมษายน 2566 จากกรณีโลกออนไลน์มีการแชร์ภาพเกี่ยวกับพระลูกวัดแห่งหนึ่ง จ.นนทบุรี ถ่ายภาพติดวิญญานใบหน้าของหญิงสาวบนต้นไม้ได้ระหว่างออกมาเข้าห้องน้ำกลางดึก โดยพบว่า วัดแห่งนี้เป็นวัดเก่าแก่ถูกสร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 3 โดยคหบดีในสมัย นั้น
ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่วัดดังกล่าว เมื่อเวลา 20.30 น. วันที่ 12 เมษายน และได้พยายามติดต่อสอบถามข้อเท็จจริงเกี่ยวกับภาพถ่ายจากพระลูกวัดดังกล่าว แต่ไม่พบตัวพระที่เป็นคนถ่ายภาพ จึงได้สอบถามกับลูกศิษย์วัดรายหนึ่ง ให้ข้อมูลว่า ภาพดังกล่าวถูกถ่ายไว้เมื่อช่วงเวลาประมาณเที่ยงคืนของวันที่ 11 เมษายน ที่ผ่านมา
โดยพระลูกวัดองค์ดังกล่าว ออกจากกุฎิเพื่อจะลงมาเข้าห้องน้ำส่วนรวมที่อยู่นอกอาคารชั้นล่าง ปรากฎว่าระหว่างที่เดินลงมานั้น สายตามองไปเห็นใบหน้าหญิงสาวคนหนึ่งในพุ่มไม้ แต่ด้วยความไม่แน่ใจจึงได้หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาถ่ายรูปไว้แล้วรีบเข้าห้องน้ำทำธุระจนเสร็จ
จากนั้นเมื่อนำภาพที่ถ่ายไว้มาเปิดดูก็พบว่ามีภาพใบหน้าของหญิงสาวที่ดูแล้วน่าขนลุกอยู่ใต้ต้นไม้อย่างชัดเจน จึงรีบย้ายกุฎิไปขอนอนกับพระลูกวัดอีกห้องหนึ่ง จากนั้นก็มีข่าวว่าพระลูกวัดแห่งนี้ถ่ายรูปติดผีสาว ลือสะพัดไปทั่ววัดและมีผู้คนมาขอดูก่อนจะถูกส่งต่อ ๆ กันไป
ผู้ช่วยเจ้าอาวาส เปิดเผยว่า อาตมาได้เห็นภาพที่พระลูกวัดถ่ายติดวิญญานหญิงสาวแล้วนำมาให้อาตมาช่วยดูว่าภาพที่เห็นใต้พุ่มไม้นั้น เป็นภาพวิญญานของหญิงสาวใช่หรือไม่ ซึ่งอาตมาก็เชื่อว่าเป็นวิญญาณของหญิงสาวที่ยังคงเวียนวนอยู่ในวัดแห่งนี้ ส่วนสาเหตุที่มาปรากฎตัวให้เห็นนั้น คงจะมาขอส่วนบุญเนื่องจากใกล้กับเทศบาลสงกรานต์หรือปีใหม่ไทย
โดยวัดแห่งนี้มีอายุ 200 กว่าปี สร้างมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 3 ซึ่งที่ผ่านมาก็มีพระและญาติโยมในระแวกวัดหลายคนก็เคยเจอเรื่องสิ่งลี้ลับมาบ้างแล้ว โดยเฉพาะที่บริเวณด้านหลังท้ายวัดที่มีเจดีย์เก่าแก่อยู่คู่กับวัดมา ในตอนกลางคืนแทบจะไม่ใครกล้าเดินผ่าน ส่วนอาตมาเมื่อเดินผ่านก็จะรู้สึกเย็นยะเยือกชวนขนลุกเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงดึกด้วยแล้ว ที่วัดแห่งนี้จะไม่มีใครกล้าเข้ามาในตอนกลางคืน ยิ่งเป็นผู้หญิงแล้วจะมายืนในวัดตอนเที่ยงคืนจึงไม่น่าจะใช่
ผู้ช่วยเจ้าอาวาส ยังบอกอีกว่า ในอดีตวัดแห่งนี้พื้นที่ส่วนใหญ่จะใช้เผาศพแบบกองฟอน จึงทำให้พื้นที่เก่าของวัดส่วนใหญ่จะเป็นป่าช้าเก่ามาก่อน ก่อนจะถูกปรับปรุงจนเป็นอยู่ในสภาพปัจจุบัน ที่ผ่านมาทุกวันโกนหรือวันพระ หมาในวัดมักจะหอนประจำ จนชาวบ้านแถบไม่เดินทางผ่าน เพราะเคยมีชาวบ้านในละแวกวัดเขาเคยเจอเจอะสิ่งลี้ลับมาแล้วเหมือนกัน
ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวได้ทดลองถ่ายภาพบริเวณด้านหน้าอาคารกุฏิ ซึ่งเป็นจุดที่พระลูกวัดถ่ายติดใบหน้าดวงวิญญานหญิงสาว โดยพบว่ามีพุ่มไม้ปลูกอยู่เป็นจำนวนมาก แต่มีต้นไม้ใหญ่ขึ้นอยู่เพียงต้นเดียว ผู้สื่อข่าวจึงได้พยายามทดลองหามุมถ่ายให้ใกล้เคียงกับภาพถ่ายติดวิญญานดังกล่าวด้วยแต่ก็ไม่พบสิ่งแปลกปลอมใด ๆ ติดภาพออกมา
จึงคาดว่าภาพดังกล่าวน่าจะเกิดจากการหักเหของแสงประกอบกับการถ่ายภาพซูมในตอนกลางคืนของผู้ถ่าย จึงทำให้เกิดเป็นภาพดังกล่าวขึ้นมา แม้ว่าทางพระในวัดและชาวบ้านจะเชื่อว่าภาพดังกล่าวเป็นภาพวิญญานของหญิงสาวที่ชัดเจนก็ตาม เป็นเรื่องที่ต้องใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจ