svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ต่างประเทศ

ภาพถ่ายติดวิญญาณยุคโบราณ

27 กรกฎาคม 2561
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ภาพถ่ายที่มีบุคคลลึกลับหรือเหตุการณ์ที่อธิบายไม่ได้ปรากฏอยู่ในภาพด้วย เกิดขึ้นมานานเป็นเวลาหลายสิบปีแล้ว โดยเริ่มแรกเกิดขึ้นในหมู่ช่างภาพชาวตะวันตก เนื่้องด้วยวิทยาการทางการถ่ายภาพที่เกิดขึ้นก่อนและมีความล้ำหน้ามากที่สุดในโลกในยุคเดียวนั้น

ขณะเดียวกันก็มีความเคลือบแคลงเกิดขึ้นมาด้วยว่า มีช่างภาพหลายคนที่อาจใช้เทคนิคการตกแต่งภาพหรือฟิล์ม เพื่อหลอกลวงให้ผู้อื่นเชื่อถือ แต่ส่วนมากของภาพที่มีการนำเสนอและตีพิมพ์ในยุคข่วงปลายทศวรรษ 1800 ถึง ต้นยุค 1900 ซึ่งเป็นยุคเริ่มต้นของ ถือว่าน่าเชื่อถือมากที่สุดโดยนำเสนอรายละเอียดอย่างครบถ้วน และในแง่ของภาวะไร้การตกแต่งภาพหรือฟิล์ม เพื่อมีเจตนาหลอกลวง

ภาพถ่ายติดวิญญาณยุคโบราณ



ภาพที่ 1
ช่างภาพหญิงสมัครเล่นชื่อ ซีเบลล์ คอร์เบ็ต เมื่อ ค.ศ. 1891 ของห้องสมุดแห่งหนึ่งในเมืองเชสเชียร์ของอังฤษ ได้ถ่ายติดลอร์ด แชมเบอร์เลนผู้ล่วงลับ ซึ่งเป็นพี่เขยของเธอ โดยที่คอร์เบ็ต ตั้งถ่ายภาพนี้แบบเปิดหน้ากล้องแช่เอาไว้ ในขณะที่งานศพของลอร์ด แชมเบอร์เลน กำลังจัดขึ้นห่างออกไป 4 ไมล์จากห้องสมุดแห่งนี้


ภาพถ่ายติดวิญญาณยุคโบราณ



ภาพที่ 2
ภาพใบหน้าของ เฟร็ดดี้ แจ๊คสัน ช่างซ่อมเครื่องบินที่เสียชีวิตไปสองวันก่อนหน้านี้ มาปรากฏในภาพหมู่ของฝูงบินกองทัพอากาศอังกฤษในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 แจ๊คสันเสียชีวิตเพราะถูกใบพัดเครื่องบินฟาด และใบหน้าเขามาปรากฏอยู่ด้านหลังของทหารนายหนึ่งที่ยืนอยู่บนแถวหลังสุด เป็นคนที่ 4 จากด้านซ้าย


ภาพถ่ายติดวิญญาณยุคโบราณ


ภาพที่ 3
เป็นภาพที่มีชื่อเสียงซึ่งตีพิมพ์ในนิตยสารไลฟ์เมื่อ 77 ปีที่แล้ว ที่มีหน้าของสุนัขพันธุ์เทอร์เรียร์ตัวเล็กที่ตายไปแล้ว มาปรากฎอยู่เหนือโคนหางของเจ้าสุนัขตัวใหญที่เห็นในภาพ สุนัขทั้งสองตัวเป็นเพื่อนรักกันมาก่อนที่เจ้าตัวเล็กจะตายไปก่อนที่มีการถ่ายภาพนี้ขึ้น ซึ่งทำให้สุนัขตัวใหญ่เผชิญความเศร้าสร้อยถึงระดับหัวใจสลายอยู่เป็นเวลานาน

ภาพถ่ายติดวิญญาณยุคโบราณ



ภาพที่ 4เจ้าหน้าที่สุสานและช่างภาพสมัครเล่น นาย วิลเลียม ฮัมเลอร์ ได้ถ่ายภาพของนางแมรี่ ลินคอล์น ภริยาหม้ายของประธานาธิบดี อับราฮัม ลินคอล์น โดยมีภาพสามีผู้ล่วงลับไปแล้วมาปรากฎในภาพโดยโอบเธออยู่ที่หัวไหล่ ภาพนี้ภาพนี้เป็นหนึ่งในภาพถ่ายติดวิญญาณในช่วงแรกๆ ซึ่งทำให้ฮัมเลอร์ได้รับทั้งชื่อเสียงและคำตำหนิ จากผู้ที่เชื่อและไม่เชื่อว่า เขาอาจตกแต่งภาพถ่ายนี้ขึ้น


ภาพถ่ายติดวิญญาณยุคโบราณ


ภาพที่ 5
วิลเลียม โฮป ข่างภาพผู้บุกเบิกในแนวถ่ายติดวิญญาณ เริ่มเป็นที่รู้จักในทางบวกและลบจากภาพนี้ ซึ่งเขานำออกแสดงเมื่อราว ค.ศ.1931 หลังจากที่เขาเริ่มแสดงบทบาทในฐานะคนทรง ซึ่งเป็นสถานะซึ่งเป็นที่ต้องการอย่างมากจากครอบครัวที่ต้องการติดต่อกับญาติที่เสียชีวิตไปแล้ว


ภาพถ่ายติดวิญญาณยุคโบราณ


ภาพที่ 6
ในฐานะสมาชิกของกลุุ่ม Crewe Circle ในเมืองครูว์ในอังกฤษ วิลเลียม โฮปเริ่มอ้างว่าเขาสามารถถ่ายภาพวิญญาณได้ โดยในภาพนี้ที่เขานำออกเผยแพร่แสดงถึงสามีที่เสียชีวิตแล้วของนาง ฮอร์เทนส ลีเวอร์สัน มาปรากฎในภาพถ่ายของเธอ


ภาพถ่ายติดวิญญาณยุคโบราณ


ภาพที่ 7นักสืบสวนในเรื่องเหนือธรรมชาติพยายามที่จะเปิดโปง วิลเลียม โฮปว่า เป็นคนหลอกลวง แต่คนที่เชื่อว่าเขาเป็นของจริงไม่เคยแสดงความเคลือบแคลงในตัวเขา

นักสืบสวนชื่อ แฮร์รี่ ไพรซ์ ได้ออกมาแถลงเมื่อ ค.ศ.1922 อ้างว่าเขาพบว่า วิลเลียม โฮป ใช้วิธีซ้อนแผ่นฟิลม์หลายชั้นเพื่อแทรกภาพผู้ตายโดยหลอกลวงเข้าไปในภาพหลักเพื่อสร้างวิญญาณในภาพถ่าย แต่ผู้ที่ยังจงรักภักดีต่อเขาก็ยังไม่เสื่อมคลายศรัทธา และได้แสดงความเชื่อในภาพถ่ายหนึ่งภาพที่ถ่ายเมื่อเขาเสียชีวิตไปแล้ว ว่าภาพหน้าของชายคนหนึ่งที่อยู่ในภาพถ่ายของชายสามคน คือหน้าของ วิลเลียม โฮป


ภาพถ่ายติดวิญญาณยุคโบราณ


ภาพที่ 8
แสงสีขาวลึกลับในภาพถ่ายเมื่อ ค.ศ.1936 ของหอ เรนแฮม ภาพนี้เป็นที่เชื่อกันว่าเป็นวิญญาณของเลดี้ โดโรธี วอลโพล น้องสาวของนายกรัฐมนตรีอังกฤษคนแรก (นาย โรเบิร์ต วอลโพล) ซึ่งถูกจับได้โดยสามีของเธอได้ว่า ลอบเป็นชู้กับชายอื่น และถูกเขาขังตัวเอาไว้ที่หอ เรนแฮม แห่งนี้ จนเธอเสียชีวิตเมื่อ ค.ศ.1726 - (ช่างภาพคือร้อยเอก ฮิวเบิร์ต โปรแวนด์ ชื่อภาพ "Brown Lady of Raynham Hall")

ภาพถ่ายติดวิญญาณยุคโบราณ


ภาพที่ 9
นักบวชที่ชื่อ อาร์ เค ลอร์ด ได้ถ่ายภาพโบสถ์นิวบี้ ทางตอนเหนือของเมืองยอร์คเชียร์ของอังกฤษเมื่อ ค.ศ.1963 ซึ่งปรากฎภาพของรูปร่างของสิ่งที่คนมองว่าเป็นภาพปิศาจหนึ่งตน ลอร์ดยืนยันว่าเขาไม่ได้ตกแต่งฟิลม์หรือภาพถ่ายนี้ขึ้น ซึ่งต่อมาได้รับการตั้งชือว่าภาพ ""Specter of Newby Church"


ภาพถ่ายติดวิญญาณยุคโบราณ



ภาพที่ 10
ช่างภาพชื่อ ริชาร์ด บัวร์สเนลล์ ได้ถ่ายภาพของนักจิตวิญญาณที่ชื่อ วิลเลียม สตี๊ด และภาพวิญญาณของ เพี้ยต โบธ่า นายทหารของกลุ่มชาวนาผิวขาวที่ถูกฆ๋าในสงครามในทวีปแอฟริกาตอนใต้เมื่อคร้้งแรกเมื่อ ค.ศ.1880 หลังจากนั้นมีชายคนหนึ่งได้ขอเยี่ยมนายบัวร์สเนลล์ เมื่อ ค.ศ.1908 และพยายามเปิดโปงเขาว่าเขาหลอกลวง โดยกล่าวว่าแท้จริงแล้วนายบัร์สเนลล์ได้ถ่ายภาพที่อ้างว่าเป็นวิญญาณจากหนังสือเล่มหนึ่งซึงตีพิมพ์เรื่องราวเกี่ยวกับจักรพรรดินีเอลิซาเบธของออสเตรียที่ได้เสียชีวิตไปแล้ว

logoline