5 เมษายน 2566 เกาะติดสถานการณ์ฝุ่นPM2.5 จ.เชียงใหม่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวานนี้ 4 เมษายน ทางเจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่า ที่ ชม.13 (สันป่าตอง) เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองตำบลบ้านปง และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.หางดง ได้ร่วมกันจับกุมชายต้องสงสัยเผาป่า จากการตรวจสอบบ้านพักพบของกลางในการทำไม้เป็นจำนวนมาก
ในกรณีนี้สืบเนื่องจากการที่เมื่อเวลาประมาณ 12.30 น. วันที่ 4 เมษายน 2566 เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งว่าเกิดไฟไหม้ป่าบริเวณบ้านปางยาง ตำบลบ้านปง อำเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่ จึงได้เดินทางเข้าตรวจสอบพื้นที่เพื่อทำการดับไฟป่า ระหว่างเส้นทางพบชายต้องสงสัยขับรถจักรยานยนต์ออกมาจากบริเวณที่เกิดไฟป่า
โดยขณะที่คณะเจ้าหน้าที่ฯ ขับรถยนต์สามารถมองเห็น เมื่อชายคนดังกล่าวมองเห็นรถยนต์ของคณะเจ้าหน้าที่ฯ กำลังขับไปถึงที่เกิดเหตุไฟไหม้ป่า ก็แสดงลักษณะอาการตกใจและรีบทำการขับรถจักรยานยนต์ออกจากบริเวณดังกล่าวไปอย่างรวดเร็ว
จากพฤติการณ์ที่น่าสงสัยดังกล่าว คณะเจ้าหน้าที่ จึงได้ทำการบันทึกภาพไว้เป็นหลักฐานและส่งให้ จนท.สืบสวน สภ.หางดง ติดตามหาชายคนดังกล่าวเพื่อสืบสวนหาสาเหตุที่แท้จริงที่ทำให้เกิดไฟไหม้ป่า
จากนั้นคณะเจ้าหน้าที่ฯ ก็ได้เข้าดำเนินการดับไฟป่าจนเสร็จสิ้นเมื่อเวลา 18.00 น. และต่อมาเมื่อเวลา 19.00 น. จนท.ชุดสืบสวน สภ.หางดง แจ้งว่าพบชายต้องสงสัยคนตามภาพบันทึกบริเวณบ้านพักใกล้กับเขตอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย คณะเจ้าหน้าที่ฯ จึงได้เดินทางเข้าตรวจสอบที่พักอาศัยของชายคนดังกล่าวร่วมกัน
เบื้องต้นทราบชื่อ คือนายอรัญ คำสุข โดยจาการตรวจสอบรอบบริเวณที่พักอาศัยพบ เลื่อยโซ่ยนต์ 1 เครื่อง เลื่อยไฟฟ้า 1 เครื่อง เลื่อยวงเดือนพร้อมแท่น ไม้แปรรูปขนาดต่าง ๆ ซุกซ่อนไว้ในบริเวณบ้าน และพบยาบ้าจำนวน 30 เม็ด
จากพฤติการณ์และของกลางต่างๆ ที่พบในบริเวณที่พักอาศัย ทำให้เชื่อได้ว่านายอรัญฯ ได้ทำการลักลอบเผาป่า ซึ่งเป็นการกระทำเพื่อจุดประสงค์ในการลักลอบทำไม้ในเขตป่า คณะเจ้าหน้าที่ฯ จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดพร้อมจัดทำบันทึกเรื่องราวนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.หางดง ดำเนินคดีต่อไป
ออกประกาศพื้นที่ภัยพิบัติเพิ่ม
ขณะที่จังหวัดเชียงใหม่ได้ออกประกาศเรื่อง เขตพื้นที่ประสบสาธารณภัยและเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินอัคคีภัย ไฟป่า ในพื้นที่อำเภอเชียงดาว
เนื่องจากได้เกิดเหตุอัดคีภัย ไพป่า ขึ้นในเขตพื้นที่อำเภอเขียงดาว เมื่อวันที่ 4 เมษายน 2566 ซึ่งภัยดังกล่าวเป็นสาธารณภัย/ภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินก่อให้เกิดความเสียหายต่อชีวิต ร่างกาย หรือทรัพย์สินของประชาชน หรือก่อให้เกิดวัตถุมลพิษหมอกควันที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพอนามัย และการดำรงชีวิตของประชาชนเพื่อประโยขน์ในการจัดการสาธารณภัยให้เป็นไปตามแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติและการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินเร่งด่วน
อาศัยอำนาจตามความ ข้อ 20 วรรคสาม ของระเบียบกระทรวงการคลัง ว่าด้วยเงินทดรองราซการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. 2562ประกอบกับแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ ผู้ว่าราชการจังหวัดผู้อำนวยการจังหวัดจึงประกาศให้พื้นที่ดังต่อไปนี้
ให้หมู่ที่ 1, 2,3,13 ตำบลเมืองนะ หมู่ที่ 2, 4,6 ตำบลทุ่งข้าวพวงเป็นเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัย/เขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน เพื่อให้ส่วนราชการ หน่วยงานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และภาคเอกซนที่เกี่ยวข้อง เข้าดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ในเขตพื้นที่ประสบภัยดังกล่าวตามพระราชบัญญัติป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ. 2550 แผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด และแผนอื่นที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนกฎหมาย ระเบียบ คำสั่ง ประกาศและมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องโดยเร็ว และดำเนินการช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กระทรวงการคลังกำหนด ทั้งนี้ ต้องไม่เกิน 3 เดือน นับแต่วันที่เกิดภัย
สำหรับค่าคุณภาพอากาศของจังหวัดเชียงใหม่ยังคงมีค่าคุณภาพอากาศเกินค่ามาตรฐานซึ่งอยู่ในระดับที่มีผลกระผลต่อสุขภาพของประชาชน และบรรยากาศภายในตัวเมืองและพื้นรอบนอกก็ยังคงถูกปกคลุมไปด้วยหมอกควันสีขาวขุ่น ซึ่งสามารถมองเห็นด้วยตาเปล่าได้อย่างชัดเจนโดยในเวลา 10.00 น.
แอปพลิเคชัน “AirVisual” ได้รายงานคุณภาพอากาศของจังหวัดเชียงใหม่ ว่า เชียงใหม่มีค่า AQI อยู่ที่ 292 ซึ่งถือว่า อยู่ในระดับที่อันตราย ควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้ง และควรหลีกเลี่ยงเข้าพื้นที่ที่มีมลพิษทางอากาศสูง หากจำเป็นต้องใช้อุปกรณ์ป้องกันฝุ่นPM2.5
สำหรับจุดตรวจวัดค่า PM2.5 ของแอปพลิเคชั่น Air4Thai รายงานว่า ตำบลช้างเผือกวัดได้ 130 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ตำบลศรีภูมิวัดได้ 115 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งถือว่าเป็นค่าที่สูงและอยู่ในระดับที่มีผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน