รวบโจรโรคจิต ตระเวนขโมยชุดชั้นใน มาดมสำเร็จความใคร่ ประวัติโชกโชน

21 มีนาคม 2566 จากกรณีที่สาวใหญ่วัย 51 ปี ภรรยาชาวต่างชาติ สุดทนนำคลิปกล้องวงจรปิดขึ้นโพสต์บนโลกโซเชียลเพื่อแจ้งเตือนชาวบ้าน พบว่ามีโรคจิตออกอาระวาด แอบย่องบุกเข้ามาขโมยชุดชั้นภายในบ้านหายไปแล้วนับไม่ถ้วน จนเหลือไม่พอจะใส่แล้ว จึงไปเปิดดูภาพจากกล้องวงจรปิดภายในบ้านพัก


พบว่า เมื่อเวลา 11.00น. วันที่ 14 มีนาคม 2566 ขณะตนเดินทางออกไปทำธุระนอกบ้าน ได้มีคนร้ายเป็นชายวัยรุ่น อายุประมาณ 20-30 ปี ปั่นรถจักรยานสีดำ สวมเสื้อยืดสีดำกางเกงสีขาว บุกเข้ามาภายในบ้านพักฯแล้วลักเอาเสื้อชั้นในและกางเกงในของตนไป ครั้งแรกคิดว่าจะไม่แจ้งตำรวจ แต่เกรงว่าคนร้ายจะย่ามใจกลับมาก่อเหตุอีก และตนจะได้รับอันตราย จึงมาแจ้งตำรวจให้ช่วยติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีโดยเร็ว

โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นช่วงกลางวันแสกๆที่บ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่ หมู่ 1 บ้านหนองโง้ง ต.หนองนาแซง อ.เมือง จ.ชัยภูมิ และหลังเข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองชัยภูมิ ล่าสุด เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2566 พ.ต.อ.สมิต นันท์นฤมิตร ผกก.สภ.เมืองชัยภูมิ ได้รับรายงานจากเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ว่า จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดภายในบ้านเกิดเหตุ ทราบว่าผู้ต้องหาก่อเหตุรายนี้คือ นายนพ อายุ 27 ปี พักอาศัยอยู่ในพื้นที่บ้านโนนสมบูรณ์ ต.หนองนาแซง อ.เมือง  จ.ชัยภูมิ ที่เคยก่อเหตุลักษณะดังกล่าวมาแล้วหลายครั้งในพื้นที่ดังกล่าว และเพิ่งพ้นโทษออกจากเรือนจำชัยภูมิ จึงนำกำลังออกติดตามจับกุมตัว ได้ที่ป่าระเมาะท้ายหมู่บ้าน พร้อมของกลางชุดชั้นในจำนวนมาก และนำตัวไปค้นบ้านพักเพื่อหาหลักฐานเพิ่มเติม

จากการสอบสวนนายนพ ผู้ก่อเหตุ ให้การรับสารภาพว่า วันเกิดเหตุระหว่างที่ตนนอนอยู่ที่บ้านพักได้เกิดอารมณ์เปลี่ยว จึงได้ปั่นจักรยานตระเวนไปตามบ้านเรือนประชาชนและตามหอพักต่างๆเพื่อขโมยชุดชั้นใน กระทั่งพบชุดชั้นในตากอยู่ภายในบ้านพักหลังใหญ่ ในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง จึงได้เข้าไปขโมยเสื้อชั้นในผู้หญิง (ยกทรง) มาได้ 4 ตัวและกางเกงในจำนวน 1 ตัว ก่อนที่ปั่นจักรยานกลับมาบ้านพัก เพื่อดมและสำเร็จความใคร่ ซึ่งเคยก่อเหตุมาแล้วหลายครั้ง และกลับมาก่อเหตุดังกล่าวอีก

นายนพ ยังกล่าวอีกว่า ตนเองเคยมีภรรยามาแล้วและได้เลิกรากันไป และก่อนหน้านี้เคยถูกจับคดีลักทรัพย์ชุดชั้นใน ในลักษณะนี้มาแล้วหลายครั้งและเพิ่งพ้นโทษออกมา และยอมรับว่าเมื่อตนเองเห็นชุดชั้นในแล้ว ก็มักจะเกิดอารมณ์ทางเพศ จึงออกตระเวนลักชุดชั้นในมาสูดดมและสำเร็จความใคร่ 2-3 ครั้งต่อวัน โดยครั้งล่าสุดที่ไปลักชุดชั้นในที่บ้านหลังดังกล่าว ตนเองไม่รู้ว่ามีกล้องวงจรปิด ซึ่งเมื่อตนก่อเหตุ และรู้ว่าคนในหมู่บ้านมีการนำภาพจากกล้องวงจรปิดไปแชร์ประกาศตามหาตัว จึงได้หนีเข้าไปหลบหนีเข้าไปอยู่ในป่าละเมาะ ท้ายหมู่บ้านจนกระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจตามมาจับกุมได้ดังกล่าว

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหาว่า บุกรุกเคหะสถานและลักทรัพย์ผู้อื่น ก่อนควบคุมตัวพร้อมของกลางส่งตัวให้พนักงานสอบสวน สภ.เมืองชัยภูมิ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป