อนาถ! วัดไร้เมรุเผาศพ ชาวบ้านต้องขนไปเผาแบบเชิงตะกอน วอนผู้ใจบุญช่วย

15 มีนาคม 2566 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งพบวัดไม่มีเมรุเผาศพ ประชาชนในหมู่บ้านได้รับความเดือดร้อนต้องนำศพไปเผา ที่นอกหมู่บ้านกว่า 3 กิโลเมตร หน้าฝนลำบากมากเผาไม่ได้ ต้องนำร่างผู้เสียชีวิตไปเผาและเสียเงินที่วัดหมู่บ้านข้างๆกัน จากนั้น จึงเดินทางไปตรวจสอบที่วัดเทพธิดาราม บ้านดอนหัน ต.หัวนา อ.เมือง จ.หนองบัวลำภู 


เมื่อไปถึงพบนายกิตติพงษ์ บุรีเลิศ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน กล่าวว่า หมู่บ้านดอนหันมีทั้งหมด 219 หลังคาเรือน ประชากร 967 คน โดยในหนึ่งเดือนจะมีสถิติผู้เสียชีวิต แล้วต้องไปเผาที่ป่าช้าของหมู่บ้านที่ห่างออกไปประมาณ 3 กิโลเมตร 3-4 ศพ โดยจะเผาแบบโบราณคือ ใช้ท่อนไม้มาเรียงกันคล้ายๆเชิงตะกอน โดยภาษาอีสานจะเรียกว่ากองฟอน ช่วงฤดูหน้าแล้งก็ยังนำศพไปเผาได้ แต่ถ้าเป็นฤดูฝนจะเข้าไปเผาไม่ได้เลย เพราะฟืนจะเปียกน้ำจุดไฟไม่ติด และบริเวณที่ทำพิธีจะเป็นผืนดิน ทางเข้าก็เล็กๆลำบากมาก 


และถ้าเป็นช่วงฤดูฝนที่มีลม และพายุเข้า จะต้องนำร่างผู้เสียชีวิตไปเผาวัดหมู่บ้านใกล้ๆกัน เพราะรถก็ไม่สามารถที่จะวิ่งเข้าไปได้ ทางญาติผู้เสียชีวิตจะต้องจ่ายศพละ 500 บาท ซึ่งถือว่าเยอะสำหรับชาวบ้านละแวกนี้ เพราะส่วนใหญ่จะมีฐานะยากจน มีอาชีพทำการเกษตร และหมู่บ้านอยู่ติดกับเทือกเขาภูเก้า ซึ่งมีสภาพแห้งแล้ง ทำการเกษตรก็ไม่ได้ผลผลิตตามเป้า ก่อนหน้านี้ทางวัดได้เคยลงเสาปูนไว้ แต่ต้องถูกปิดร้างไป เนื่องจากขาดแคลนทุนทรัพย์ จึงต้องหยุดไว้ก่อน 

ด้าน พระอาจารย์ประยูร ยะสาธะโร หรือพระครูกิตติธรรมาณุวัตร เจ้าคณะตำบลหัวนา เขต 2 กล่าวว่า วัดเทพธิดาราม ได้ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2484 เป็นเวลา 82 ปี และมีผู้บริจาคที่ดินด้านข้าง ซึ่งอยู่ติดกับวัดให้ 1ไร่ เพื่อให้สร้างเมรุ เพราะตั้งแต่ก่อตั้งวัดมาเรายังไม่มีเมรุเผาศพเลย โดยงบประมาณการก่อสร้างเมรุทั้งหมดประมาณ 500,000 บาท (ห้าแสนบา ) โดยได้นำเงินของวัดมาก่อสร้างแล้ว แต่ตอนนี้ต้องหยุดชะงักลง เพราะว่าเงินในการก่อสร้างหมด ซึ่งได้หยุดมาได้ประมาณหนึ่งเดือน เนื่องจากชาวบ้านนั้นก็มีฐานะยากจน เศรษฐกิจก็ไม่ดี พร้อมกับมีคนมาทำบุญน้อยลง จึงขาดแคลนเงินก่อสร้างเมรุดังกล่าว ต้องทนอย่างนี้มาหลายสิบปีแล้ว

"บอกบุญผ่านผู้สื่อข่าวให้ช่วยเป็นกระบอกเสียง ให้ฝากถึงญาติโยมสาธุชนคนใจบุญทั้งหลาย ช่วยกันมาเป็นเจ้าภาพสร้างเมรุ ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับชุมชนบ้านดอนหัน ต.หัวนา อ.เมือง จ.หนองบัวลำภู เป็นอย่างมาก มากน้อยแล้วแต่ศรัทธา นับได้ว่าเป็นการทำบุญเพื่อสะเดาะเคราะห์ ต่อชะตาตามความเชื่อ" พระครูกิตติธรรมาณุวัตร ระบุ