svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ภูมิภาค

โจรใต้เหิมหนัก ปาบึ้มฐานทหารที่เรือเสาะ มทภ.4 เข้มกันคนร้ายใช้แผนเดิม

05 มีนาคม 2566
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

โจรใต้เหิมหนัก ปาไปป์บอมบ์ใส่ฐานทหารที่เรือเสาะ มทภ.4 เข้มกันคนร้ายใช้แผนเดิมหลอกล่อเจ้าหน้าที่ หวั่นซ้ำรอยสูญเสียเหมือนศรีสาคร

5 มีนาคม 2566 เมื่อเวลา 19.50 น. ของวานนี้ (4 มี.ค.) พ.ต.อ.ธัญญะ ลัภบุญ ผกก.สภ.รือเสาะ จ.นราธิวาส รับแจ้งมีเหตุคนร้าย ขว้างระเบิดแสวงเครื่องแบบไปป์บอมบ์ ใส่ฐานปฏิบัติการกองร้อยทหารพรานที่ 4601 ซึ่งตั้งอยู่บ้านลูโบะปูโละ ม.3 ต.สามัคคี จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ พร้อมประสานไปยังฐานปฏิบัติการ กองร้อยทหารพรานที่ 4601 เพื่อขอทราบรายละเอียดที่เกิดขึ้นโดยสรุป 

จากการตรวจสอบเบื้องต้น ได้รับรายงานว่า ได้มีคนร้ายไม่ทราบจำนวน อาศัยความมืด แฝงตัวมาจากป่ารกทึบด้านหลังของฐาน จากนั้นคนร้ายได้ขว้างระเบิดแสวงเครื่องแบบไปป์บอมบ์ จำนวน 1 ลูก มาตกที่บริเวณด้านหลังของฐาน เสียงดังสนั่นหวั่นไหว 

เจ้าหน้าที่ทหารพรานที่ 4601 ซึ่งปฏิบัติหน้าที่เวรยามด้านหลังของฐาน และกำลังอีกจำนวนหนึ่ง ที่แยกย้ายเข้าเวรยามรอบฐาน เมื่อได้ยินเสียงระเบิดดังขึ้น จึงได้วิ่งเข้าบังเกอร์ประจำจุดภายในฐาน พร้อมใช้อาวุธปืนประจำกาย ยิงสุ่มเข้าไปในป่ารกทึบ ที่คาดว่าเป็นจุดที่คนร้ายได้ขว้างระเบิด ไปจำนวนหลายชุด ก่อนที่คนร้ายจะอาศัยความมืดหลบหนีไป ส่วนระเบิดที่เกิดขึ้นไม่ได้สร้างความเสียหาย ต่อทรัพย์ของทางราชการ และไม่มีกำลังพลได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิตแต่อย่างใด 
โจรใต้เหิมหนัก ปาบึ้มฐานทหารที่เรือเสาะ มทภ.4 เข้มกันคนร้ายใช้แผนเดิม

 

ต่อมาเวลา 09.00 น. วันนี้ ผู้สื่อข่าวจำนวนหนึ่ง ได้เดินทางไปติดตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เหมือนในทุก ๆครั้งที่ผ่านมา พบเจ้าหน้าที่ทหารพราน เจ้าหน้าที่ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน หรือ ชรบ. บางจุดมีกำนันผู้ใหญ่บ้าน ได้ตั้งจุดตรวจจุดสกัดบนถนนเส้นทาง ที่ไปสู่ฐานปฏิบัติการณ์ กองร้อยทหารพรานที่ 4601 ในการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชน ได้รับทราบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ถ้าไม่จำเป็นให้หลีกเลี่ยงไปใช้เส้นทางอื่น เกรงจะได้รับอันตรายถึงชีวิต 

ส่วนกรณีเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยที่เกี่ยวข้อง อาทิ เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน รวมทั้งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวในการรวบรวมประจักษ์พยานในที่เกิดเหตุ ไม่มีเจ้าหน้าที่เพียงแต่สังกัดเดียว ที่มักเดินทางมาร่วมตรวจที่เกิดเหตุพร้อม ๆ กัน
โจรใต้เหิมหนัก ปาบึ้มฐานทหารที่เรือเสาะ มทภ.4 เข้มกันคนร้ายใช้แผนเดิม

เมื่อทราบข้อมูลข้อเท็จจริง ผู้สื่อข่าวจึงโทรศัพท์ทำการประสาน ไปยังผู้บังคับบัญชาระดับสูงของ จ.นราธิวาส หลายท่าน ได้รับคำตอบไปในทิศทางเดียวกันว่า ทางผู้บังคับบัญชาระดับสูง จากกองทัพภาคที่ 4 มีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ในการตรวจสอบจุดเกิดเหตุ ห้ามเดินทางเข้าไปตรวจสอบจุดเกิดเหตุเป็นอันขาด จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง

เนื่องจากเกรงกลุ่มคนร้ายจะวางแผนลวง เพื่อลอบดักทำร้าย และดักสังหารเจ้าหน้าที่ เหมือนกับเคสพื้นที่บ้านไอร์กาแซ ม.6 ต.ศรีสาคร อ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส ที่คนร้ายได้วางแผนใช้อาวุธปืนยิง และขว้างระเบิดซ้ำใส่ฐาน เมื่อวันที่ 2 มี.ค. 66 และวันรุ่งขึ้นในวันที่ 3 มี.ค. 66 พล.ต.ไพศาล หนูสังข์ รองแม่ทัพภาค 4 และ รอง ผอ.กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ได้เดินทางเข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุ

โดยขอสนับสนุนเจ้าหน้าที่ชุด อี.โอ.ดี. นำขบวน และช่วงขากลับคนร้ายได้จุดชนวนระเบิด ที่นำไปฝังไว้บริเวณใต้ผิวถนน ซึ่งห่างจากฐาน ประมาณ 800 เมตร ส่งผลทำให้ พ.ต.ลิขิต วิทยประภารัตน์ หน.ชุด และ จ.ส.อ.อิสระ เลิกนอก เสียชีวิต ส่วน ส.อ.ศักย์ศรณ์ สายน้ำ ได้รับบาดเจ็บ 

นอกจากนี้ยังได้รับคำชี้แจงจากผู้บังคับบัญชาระดับสูงของ จ.นราธิวาส เพิ่มเติมอีกด้วยว่า จากนี้การเข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุ อันเกี่ยวเนื่องจากปัญหาความมั่นคง เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องต้องรออีก 1 ถึง 2 วัน จนกว่าจะให้กำลังพลที่เกี่ยวข้อง ทำการเคลียร์พื้นที่ถนนหนทางทุกสาย ที่มุ่งสู่จุดเกิดเหตุ

เพื่อเป็นการป้องกัน ไม่ให้เกิดประวัติซ้ำรอยเหมือนเคส อ.ศรีสาคร และเมื่อเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ทำการตรวจสอบอย่างรายละเอียด จนมั่นใจว่าปลอดภัย ก็จะให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยว ทำการตรวจสอบเหมือนทุกครั้งทุกผ่านมา 
โจรใต้เหิมหนัก ปาบึ้มฐานทหารที่เรือเสาะ มทภ.4 เข้มกันคนร้ายใช้แผนเดิม

ด้าน พล.ต.เฉลิมพร ขำเขียว ผบ.ฉก.นราธิวาส กล่าวว่า สำหรับความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ ที่เข้าไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ ทางแม่ทัพภาค 4 ได้เน้นย้ำมาว่า จะเข้าไปตรวจสอบจุดเกิดเหตุได้ เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องต้องปลอดภัยก่อน

นั่นหมายถึงว่า หน่วยที่รับผิดชอบพื้นที่ใดก็แล้วแต่ ที่เป็นเส้นทางที่จำเป็นต้องใช้ ในการอำนวยความสะดวกให้กับเจ้าหน้าที่ จะต้องมีการวางกำลัง และตรวจสอบเส้นทางอย่างละเอียด จะด้วยการใช้กำลังเดินลาดตระเวน หรือเครื่องมือเพิ่มเติมก็แล้วแต่

รวมทั้งไม่ใช่เฉพาะเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบพื้นที่เพียงอย่างเดียว ให้บูรณาการในส่วนของกำลังภาคประชาชน ก็คืออาสาสมัครประจำพื้นที่ หรือกำลังชุดคุ้มครองตำบล ที่เป็นเส้นทางผ่านก็แล้วแต่ ให้ออกมาดูแลเส้นทางกันมากขึ้น

ย้ำว่าต้อง 100 เปอร์เซ็นต์ และจบที่การปฏิบัติอย่างแท้จริง ไม่ใช่เป็นแค่การรายงานว่า ทุกอย่างเรียบร้อย ๆ เรามีบทเรียนซึ่งเป็นความสูญเสีย ที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นใจของเจ้าหน้าที่พอสมควร 

พล.ต.เฉลิมพร ขำเขียว ผบ.ฉก.นราธิวาส

logoline