
16 กุมภาพันธ์ 2566 นางณิรดา พรมสุวรรณ นายอำเภอทองแสนขัน จ.อุตรดิตถ์ พร้อมเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง รุดลงพื้นที่โรงเรียนบ้านวังปรากฏประชานุกูล ซึ่งเป็นโรงเรียนขยายโอกาส ต.ป่าคาย อ.ทองแสนขัน เพื่อสำรวจความเสียหาย และขอความร่วมมือคณะครู นำเชือกพร้อมเขียนข้อความ “ห้ามเข้า” กั้นอาคารเรียนสายชั้น ป.3 – ป.6 ซึ่งเป็นอาคารปูน 2 ชั้น เนื่องจากอาคารเรียนดังกล่าวได้รับความเสียหายและไม่ปลอดภัย
ก่อนหน้านี้ เมื่อเวลาประมาณ 15.00 น. วันที่ 15 ก.พ.ที่ผ่านมา เกิดพายุลมกระโชกแรง จากสภาพอาการแปรปรวน ลมฝนพัดกระหน่ำเข้ามาอย่างเร็วและแรงมาก พัดถล่มหอบเอาสังกะสีพร้อมโครงหลังคาของอาคารพัสดุ ปลิวกระแทกชนเสาไฟฟ้าหัก ล้มทับอาคารเรียน ในขณะที่ครูนักเรียนกำลังเตรียมตัวเลิกเรียน ออกจากห้องเรียน ต่างตกใจ บางส่วนวิ่งหนีลงจากอาคารเรียน บางส่วนนั่งกอดกันร้องไห้ในห้องเรียน ขณะคุณครูตั้งสติ ใช้แผนเผชิญเหตุ ให้นักเรียนหลบได้โต๊ะหนังสือ รอจนกว่าพายุสงบ จึงอพยพกันออกจากอาคาร ส่งผลครูนักเรียนปลอดภัย มีเพียงอาการตกใจและเสียขวัญ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการลงพื้นที่พบว่าหลังคาพร้อมโครงเหล็กของอาคารพัสดุ ปลิวจากแรงพายุตกบริเวณหน้าอาคารเรียน หลังคาของอาคารเรียนได้รับความเสียหาย แต่ทางโรงเรียนยังคงเปิดการเรียนการสอนปกติ เนื่องจากยัง มีอาคารอื่นๆ ที่สามารถจัดการเรียนการสอนได้
นายกมล เมิดไธสง ผอ.โรงเรียนบ้านวังปรากฏประชานุกูล กล่าวว่า นับเป็นความเสียหายที่รุนแรงครั้งแรกรอบกว่า 100 ปี นับจากก่อตั้งโรงเรียนแห่งนี้มา ยอมรับครูนักเรียนกว่า 100 คนตกใจจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และชื่นชมคุณครูที่มีสติ ให้เด็กๆหลบใต้โต๊ะ แม้จะมีเสียงกรีดร้องเพราะตกใจ แต่ทุกคนปลอดภัย ความเสียหายกำลังอยู่ระหว่างการประเมิน
นายอำเภอทองแสนขัน กล่าวว่า ยังคงประกาศเตือนให้ประชาชนเฝ้าระวังภัยธรรมชาติทั้ง ฝนตก พายุลมแรง และอากาศหนาว จากสภาพอาการที่แปรปรวนต่อไปอีก 2-3 วัน พร้อมสำรวจความเสียหายนอกจากโรงเรียนบ้านวังปรากฏประชานุกุลแล้ว ยังมีบ้านเรือนชาวบ้านหมู่ 1 และ หมู่ 9 เสียหายสิ้นเชิญเบื้องต้นรับแจ้ง 15 หลังคา และพื้นที่การเกษตรไร่ข้าวโพดเสียหายกว่า 50 ไร่ และอยู่ระหว่างสำรวจเพิ่มเติมเพื่อเสนอจังหวัดประกาศเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัย (วาตภัย) ให้ความช่วยเหลือประชาชนต่อไป
อย่างไรก็ตาม ต.ป่าคาย อ.ทองแสนขัน จ.อุตรดิตถ์ เป็นพื้นที่แรกที่ได้รับผลกระทบจากสภาพอากาศแปรปรวนดังกล่าว