ตร. เผย หากหนุ่มจีนเหยื่อสรรพสามิต พลิกลิ้นจริง เข้าข่าย "แจ้งความเท็จ"
ผกก.สภ.เมืองสมุทรปราการ เผย หนุ่มจีนเหยื่อสรรพสามิต ยังไม่เข้ามาให้ปากคำเพิ่มเติม ระบุ หากกลับคำให้การจริง เข้าข่าย "แจ้งความเท็จ" ขณะที่สำนวน จนท. รีดส่วย ส่งให้ ป.ป.ช. ดำเนินการแล้ว
19 มกราคม 2566 จากกรณีตำรวจ สภ.เมืองสมุทรปราการ ซ้อนแผนจับเจ้าหน้าที่กรมสรรพสามิต 2 ราย และพลเรือน 1 ราย หลังนาย WU Yieen นักธุกิจชาวจีน อายุ 31 ปี เข้าแจ้งความถูกกลุ่มชายอ้างเป็นเจ้าหน้าสรรพสามิต เข้ามาตรวจค้นภายในร้านจำหน่ายอุปกรณ์โทรศัพท์มือถือ ภายในซอยอู่ทอง 37/2 ต.ท้ายบ้านใหม่ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ และจับผู้จัดการร้านพร้อมลูกน้องชาวเมียนมา ไปเรียกรับเงิน 3 แสนบาท แลกกับการปล่อยตัว
ต่อมา นาย WU Yieen ผู้เสียหาย อ้างว่า ที่ตนเข้าแจ้งความนั้น เพราะตนไม่รู้ว่ากลุ่มชายฉกรรจ์ที่มาคือเจ้าหน้าที่จริง ๆ และเมื่อทราบว่า เป็นเจ้าหน้าที่จริง ตนจึงเดินทางมาเสียค่าปรับ จำนวน 80,000 บาท ส่วนสินค้าที่ถูกยึดนั้น ทางสรรพสามิต ก็ได้คืนมาให้หมดแล้ว ส่วนที่เจ้าหน้าที่สรรพสามิต ที่ถูกดำเนินคดี และตั้งกรรมสอบนั้น ตนก็ต้องขอโทษด้วย ตามที่มีการนำเสนอข่าวไปแล้วนั้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
20 มกราคม 2566 พ.ต.อ.เติมรัศมิ์ จินดาวัฒน์ ผกก.สภ.เมืองสมุทรปราการ กล่าวว่า นาย WU Yieen ผู้เสียหาย ยังไม่ได้เดินทางมาให้ปากคำเพิ่มเติม แต่หากกลับคำให้การจริง ก็จะเข้าข่าย "แจ้งความเท็จ" ส่วนสินค้าภายในร้านเป็นอำนาจของสรรพสามิต ไม่ได้ส่งมาดำเนินคดีที่โรงพัก
สำหรับเจ้าหน้าที่สรรพสามิต 2 ราย ถูกแจ้งดำเนินคดี 3 ข้อหา
- 1.มาตรา 149 ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน เรียกรับหรือยอมจะรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเอง หรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่ง ไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่
- 2.มาตรา 157 ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้น การปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต
- 3.มาตรา 337 กรรโชกทรัพย์ผู้ใดข่มขืนใจผู้อื่นให้ยอมให้หรือยอมจะให้ตนหรือผู้อื่นได้ประโยชน์ในลักษณะที่เป็นทรัพย์สิน โดยใช้กำลังประทุษร้าย หรือโดยขู่เข็ญว่าจะทำอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ
