"พระพยอม" ชี้ พระสงฆ์ไว้เครายาว ไม่ผิดวินัยสงฆ์ แต่ไม่สง่างาม

จากกรณีวัดบ้านคูบ ต.คูบ อ.น้ำเกลี้ยง จ.ศรีสะเกษ จัดกิจกรรมวันครบรอบวันละสังขาร หลวงปู่ทอง ปภากโร ครบรอบ 2 ปี โดยได้รับความเมตตาจากพระญาณวิเศษ (หลวงปู่สุพรรณ กนโก) ที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งในการจัดงานครั้งนี้ ปรากฏว่าประชาชนที่มาร่วมงานต่างพากันให้ความสนใจ หลวงพ่อพรชัย พุทธสาโร หัวหน้าสำนักสงฆ์น้ำย้อย ต.บักดอง อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ เป็นอย่างมาก

เนื่องจาก "หลวงพ่อพรชัย" มีเอกลักษณ์ที่แตกต่างไปจากพระสงฆ์ไทยทั่วไป เพราะท่านมีเครายาวมาก โดยเครายาวถึงตัก เป็นสีเงิน และมัดม้วนรวมกันยาวลงมา ทำให้พุทธศาสนิกชนที่มาร่วมงานนี้ พากันมากราบไหว้ด้วยความเคารพศรัทธาเป็นอย่างมาก และพากันขนานนามท่านหลวงพ่อพรชัยว่า "หลวงปู่เคราเงิน"

16 ธันวาคม 2565 พระพยอม กัลยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว เปิดเผยว่า เรื่องของการโกนหนวดเป็นข้ออ้างที่คนโกนจะไม่สบายปวดหัวตัวร้อนเจ็บไข้ได้ป่วย ถ้าไม่โดนก็จะสบายดี ซึ่งแบบนี้จะเรียนว่าเป็น อจินไตย เป็นบุพกรรมเก่าของท่านที่เกิดมาจะต้องลำบาก เกี่ยวกับเรื่องหนวดเคราส่วนใหญ่จะไม่มีพระไว้หนวดไว้เครา จะมีแต่พระจีนบางสำนักที่ไว้หนวด

เพราะฉะนั้นเรื่องนี้จะเป็นเรื่องของอจินไตย ถ้าปล่อยหนวดไว้ไม่โกนแล้วรู้สึกสบายก็ปล่อยเขาไป แต่ถ้าเป็นพระปกติไม่ควรไว้ เพราะตามหลักคำสอนของพระพุทธเจ้าต้องละทิ้ง โกนเส้นผมและมีกำหนดถ้ายาวห้ามเกินตามกำหนด ถ้ามีเหตุจำเป็นก็ต้องละเว้นอย่าไปตำหนิติเตียน เพราะบางคนไม่รู้เรื่องบุพกรรมของเขาที่ทำให้ต้องลำบากกว่าพระท่านอื่นที่ต้องไว้หนวดเครารุงรัง ถ้ามีเหตุจำเป็นที่ต้องไว้หนวดเคราก็ต้องเป็นกรณียกเว้น 

ซึ่งในกฏของสงฆ์ถือว่าไม่ผิด แต่แค่ดูไม่เรียบร้อย ชาวบ้านมองมาดูไม่ดี ยกตัวอย่างพระแสนองค์ คงมีองค์เดียวที่ไว้หนวด ซึ่งแต่ก่อนก็ไม่เคยมีใครไว้หนวด ถึงไว้หนวดก็ไม่ผิดเข้าขั้นปาราชิก แค่ดูแลไม่งาม เพราะพระต้องดูดีดูสง่า

ด้าน หลวงพ่อพรชัย พุทธสาโร บอกว่า ตนเองบวชมาตั้งแต่ พ.ศ.2537 และอยู่สำนักสงฆ์นี้มาตลอด ส่วนหนวดเครานี้ ช่วงที่เดินธุดงค์กลับมาจากกัมพูชา มาพักที่นี่ องค์หลวงปู่สรวง มาหาเมื่อปี พ.ศ.2538 และบอกว่า หากไว้หนวดเครา จะมาอยู่ด้วย ตนก็รับปาก จากนั้นก็ไม่ได้โกนหนวด โกนเคราเลย มีครั้งหนึ่งที่โกนด้านข้าง ๆ ออก ปรากฏว่า ป่วยหนักเจียนตาย นอนไข้อยู่ 3 วัน ก่อนอธิษฐานจิตใหม่ ก็หยุดโกน แล้วก็หายไข้ จากนั้นจึงไม่ได้โกนอีกเลย

มีญาติโยมทำมาบุญบ้างตามศรัทธา ส่วนหนึ่งก็จะมาให้ทำพิธีสะเดาะเคราะห์ ตนก็ทำตามที่เรียนมาจากอาจารย์ ตนเองก็ไม่มีอะไรพิเศษไปกว่าพระสงฆ์องค์อื่น ๆ อยู่ตามปกติในสำนักสงฆ์นี้ และถือปฏิบัติธรรมไปเรื่อย ๆ

ภาพและข่าว : สุรสิทธิ์ สินประเสริฐ นนทบุรี / พงษ์พัฒน์ ไตรพิพัฒน์ จ.ศรีสะเกษ