
นายสมศักดิ์ ฤทธิ์จันอัด อายุ 44 ปี ชาวตำบลหนองกระทุ่ม อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา บอกว่า เมื่อก่อนเขามีอาชีพเป็นช่างลายไทย แต่เป็นคนที่ชื่นชอบการเลี้ยงปลากัดมาตั้งแต่เด็กๆ จนมาถึงปัจจุบันนี้ ได้หันมาเลี้ยงปลากัดส่งขายเป็นอาชีพหลัก เพราะปลากัดสามารถสร้างรายได้นับหมื่นบาทต่อเดือน
โดยมีวิธีเลี้ยงไม่ยาก เมื่อได้พ่อแม่พันธุ์แล้วให้แยกเพศขวดละตัว วางขวดใส่ปลาให้ชิดกันไม่ต้องมีกระดาษปิดคั่น เพื่อให้ปลามองเห็นกัน เรียกว่า “การเทียบ” เทียบไว้นาน 4-7 วัน เพื่อให้ปลาเกิดความเคยชินกัน ก่อนจะนำมาปล่อยลงบ่อเพาะ ที่มีเส้นผ่าศูนย์กลาง 30-40 เซนติเมตร ใส่น้ำสะอาดลงให้มีระดับสูง 10-15 เซนติเมตร จากนั้นใส่ไม้น้ำ เช่น ผักบุ้ง ผักตบชวา ผักกระเฉด เพื่อให้ปลากัดสร้างหวอด หลังจากนั้นก็ปล่อยปลาลงบ่อเพาะ หาแผ่นวัสดุกระดานแข็ง หรือแผ่นกระเบื้อง ปิดบนภาชนะไว้ 2 ใน 3 ของพื้นที่ปากภาชนะ เพราะปลากัดชอบวางไข่ในที่มืด ต้องการความเงียบสงบ วัสดุที่นำมาปิดจะช่วยบังแสงและกันลมไม่ให้หวอดของปลากัดแตก
ทั้งนี้ไม่นานปลากัดก็จะวางไข่หลังจากนั้นก็คัดแยกลูกปลาจากบ่ออนุบาล โดยคัดเอาเฉพาะปลาเพศผู้มาเลี้ยง เนื่องจากปลาเพศผู้เป็นที่ต้องการของตลาดมากกว่า และราคาสูงกว่า ควรปล่อยเลี้ยงในอัตรา 150-200 ตัว ต่อเนื้อที่ 1 ตารางเมตร เวลาเลี้ยง 50-60 วัน ปลาที่มีขนาด 5 เซนติเมตร ก็สามารถคัดแยกใส่ขวดเพื่อจำหน่ายได้ ในราคาตัวละประมาณ 20-100 บาทตามขนาด และสายพันธุ์ โดยชาวต่างชาติส่วนใหญ่สนใจปลากัดของไทยมาก ทำให้มีรายได้ดี ใครสนใจต้องการเลี้ยงปลากัดสามารถโทรสอบถามได้ที่เบอร์โทร 085-243-6773