22 พฤศจิกายน 2565 เรื่องราวของลูกทรพี ฆ่าปาดคอพ่อเสียชีวิตรายนี้ เกิดขึ้นเมื่อช่วงค่ำของวันที่ 21 พ.ย.ที่ผ่านมา พ.ต.ท.ปฎิวัติ ยอดขวัญ สว.(สอบสวน) สภ.ถลาง จ.ภูเก็ตได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า เกิดเหตุลูกฆ่าพ่อ ภายในบ้านหลังหนึ่ง ซอยรอบบางโจ ม.4 ต.ศรีสุนทร อ.ถลาง จ.ภูเก็ต หลังรับแจ้งได้รายงานผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้น จากนั้นพร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานจังหวัดภูเก็ต และเจ้าหน้าที่มูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ตประจำจุดท่าเรือ ตรวจสอบที่เกิดเหตุ
บริเวณหน้าบ้านหลังเกิดเหตุซึ่งเป็นบ้านปูนชั้นเดียว พบชาวบ้านจับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตรวจสอบภายในบ้านบริเวณห้องครัว ซึ่งแบ่งเป็นห้องนอน พบศพนายอุทัย คำมะโนชาติ อายุ 51 ปี สวมเสื้อยืดลายพรางสีเขียวแขนสั้น นุ่งกางเกงกีฬาขาสั้นสีน้ำเงิน นอนเสียชีวิตอยู่บนเตียงนอน
จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบบริเวณลำคอถูกของมีคมปาดจนเป็นแผลลึก คาดเสียชีวิตมาแล้วไม่เกิน 30 นาที
ภายในห้องรับแขกยังพบ "ลูกทรพี" นายอานนท์ คำมะโนชาติ อายุ 25 ปี ซึ่งเป็นลูกชายผู้เสียชีวิตที่ก่อเหตุ ฆ่าปาดคอพ่อ นั่งรอมอบตัวด้วยใบหน้าที่เรียบเฉย พร้อมบอกตำรวจว่า เป็นคนลงมือใช้มีดทำครัวปาดคอนายอุทัย เสียชีวิต เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงควบคุมตัวไปสอบปากคำเพิ่มเติมถึงมูลเหตุที่ทำร้ายพ่อ ที่ สภ.ถลาง
นอกจากนี้ยังพบหม้อต้มใบกระท่อมวางอยู่ในครัว 1 ใบ และมีดทำครัวซึ่งใช้ก่อเหตุ ความยาวราว 8 นิ้ว วางอยู่ที่ล้างจาน เจ้าหน้าที่ฯ จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน จากนั้นเจ้าหน้าที่มูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ต ได้นำร่างของนายอุทัย ส่งชันสูตรที่โรงพยาบาลถลาง เพื่อหาสาเหตุการตายที่แน่ชัดอีกครั้ง
จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุนายอุทัย ผู้เป็นพ่อได้ให้นายอานนท์ ซึ่งเป็นบุตรชายออกไปซื้อใบจาก โดยให้ไปขอเงินจากยาย แต่ยายไม่ให้ จึงกลับบ้านมาบอกนายอุทัย แต่กลับถูกถีบหน้าจนล้มลงไปกองกับพื้นบ้าน ด้วยความโมโหจึงหันไปคว้ามีดทำครัวเข้าไปหวังจะทำร้ายนายอุทัย และเกิดการยื้อแย่งกันขึ้นก่อนที่ นายอานนท์ จะใช้มีดทำครัวปาดลำคอนายอุทัย จนเสียชีวิต
จากนั้นนายอานนท์ ได้นำมีดที่เปื้อนเลือดไปล้างแล้ววางไว้ที่ล้างจาน และเปลี่ยนเสื้อผ้าที่เปื้อนเลือดแล้วเดินไปบอกกับญาติว่า ได้ฆ่านายอุทัย เสียชีวิตแล้ว ขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย
จากนั้นนายอานนท์ ได้นำมีดที่เปื้อนเลือดไปล้างแล้ววางไว้ที่ล้างจาน และเปลี่ยนเสื้อผ้าที่เปื้อนเลือดแล้วเดินไปบอกกับญาติว่า ได้ฆ่านายอุทัย เสียชีวิตแล้ว ขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ทั้งคู่ไม่ได้ทำงานอะไร และมักจะซื้อใบกระท่อมมาต้นดื่มกินกันประจำ ขณะเดียวกันมีข้อมูลด้วยว่า ทั้งคู่จะมีปากเสียงกันบ่อยๆ แต่ไม่คาดคิดว่าจะเกิดเหตุร้ายขึ้น โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำการสอบปากคำนายอานนท์ อย่างละเอียดถึงมูลเหตุของการลงมือในครั้งนี้ ก่อนจะแจ้งข้อกล่าวหาและดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
ข่าวและภาพ : สาลินี ปราบ
สำนักข่าวเนชั่น จ.ภูเก็ต