จับแล้ว พระเมาขออึ๊บเมียเพื่อน อ้างโดนใส่ร้าย แค่ไปห้ามผัวเมียทะเลาะกัน
รวบแล้ว พระเมาแล้วขออึ๊บเมียเพื่อน พร้อมนำตัวสึกทันที เจ้าตัวยืนยันไม่ได้ทำตามข้อกล่าวหา อ้างโดนใส่ร้าย ไปห้ามผัวเมียทะเลาะกัน แต่ยอมรับกินเหล้าและเสพกัญชา
19 พฤศจิกายน 2565 ตำรวจรวบแล้ว พระเมาขออึ๊บเมียเพื่อน จากกรณี น.ส.สันธิลา (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 17 ปี ชาวอุดรธานี แจ้งตำรวจว่า น.ส.สาวดี พุทธผาย แม่ของน.ส.สันธิลา อายุ 48 ปี โดนพระอนุชา ทับประดิษฐ์ อายุ 48 ปี เพื่อนพ่อเลี้ยง ทำร้ายร่างกายหลังจากขอร่วมหลับนอน แต่เจ้าตัวไม่ไม่ยินยอม ตามที่เสนอข่าวไปก่อนหน้านี้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
ทั้งนี้ในวันเกิดเหตุ พระอนุชา เดินทางจาก จ.กาญจนบุรี กลับมาเยี่ยมบ้าน ได้ปักกลดที่กระท่อมนาพ่อเลี้ยงของ น.ส.สันธิลา โดยขอร่วมวงก๊งเหล้าด้วย พอเมาได้ที่ขอร่วมหลับนอนกับน.ส.สาวดี แต่ถูกปฎิเสธและบอกให้ไปร่วมหลับนอนกับสุนัข ทำให้พระอนุชาโกรธ ชกหน้าน.ส.สาวดี จนล้มแล้วกระทืบซ้ำจนซี่โครงร้าว เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี และพระอนุชา ได้หลบหนีไป
ล่าสุดผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.อุดรธานี ว่า ร.ต.อ.พงศ์พล ผิวผ่อง รอง สวป.สภ.เมืองอุดรธานี ได้รับแจ้งว่าพบ พระอนุชา ทับประดิษฐ์ อายุ 48 ปี ผู้ถูกกล่าวหาว่า พระเมาขออึ๊บเมียเพื่อน ทำร้ายร่างกาย น.ส.สาวดี พุธผาย อายุ 28 ปี ได้รับบาดเจ็บสาหัสตาปูดบวม ซี่โครงร้าว เดินอยู่ในป่าหลังกระท่อมนานายศิลา ทบประดิษฐ์ อายุ 75 ปี ตำรวจจึงนำตัวมาโรงพัก ให้ พ.ต.ท.พัฒนวงศ์ จันทร์พล รอง ผกก.ป.สภ.เมืองอุดรธานี ทำการสอบสวน
พระอนุชา เล่าว่า ปี 2555 ตนเคยถูกจับกับเพื่อนข้อหาลักทรัพย์ยางรถไถ ติดคุก 9 เดือน พอพ้นโทษออกมา ได้ไปบวชอยู่ที่วัดแห่งหนึ่งใน จ.กาญจนบุรี ต่อมามีสีกามาติดพันธ์ จึงได้สึกมาอยู่กินกับสีกา แต่อยู่ได้ไม่ถึงปีก็แยกทางกัน จึงกลับมาบวชอีกได้ 2 พรรษา เมื่อ 3 วันก่อน ได้เดินทางมาเยี่ยมพ่อที่บ้านสามพร้าว อ.เมือง จ.อุดรธานี แต่ได้ไปปักกลดที่กระท่อมนาเพื่อน ซึ่งกำลังพากันเกี่ยวข้าว ตกค่ำเพื่อนได้ตั้งวงดื่มเหล้า คืนแรกไม่ได้เข้าไปร่วมวง
พระอนุชา เล่าต่อว่า แต่พอคืนที่สอง ตนทนไม่ไหวจึงเข้าไปขอร่วมวงก๊งเหล้าด้วย โดยอ้างว่า "แก้เหนื่อย" ดื่มเหล้าทั้งคืนจนมีอาการมึนเมา ส่วนเรื่อง เมาแล้วขออึ๊บเมียเพื่อน และเมื่อไม่ยอมได้ทำร้ายเมียเพื่อน ตนขอปฎิเสธไม่ได้ทำ แต่ น.ส.สาวดี กับสามี ดื่มเหล้าจนเมาแล้วทะเลาะกันเอง จึงเข้าไปห้ามปราม แต่บางครั้งก็พลั้งเผลอชกบ้าง ไม่คิดว่าเมียเพื่อนจะมาใส่ร้าย ตนก็แค่ดื่มเหล้าและสูบกัญชา แต่ไม่ได้เสพยาบ้าแต่อย่างใด
ตำรวจจึงได้ขอดูใบสุทธิ แต่พระอนุชาไม่มีมาแสดง โดยอ้างว่าลืมที่วัด มีเพียงบัตรประชาชนมาแสดง ตำรวจจึงนำตัวไปสึกที่วัดมัชฌิมาวาส ต.หมากแข้ง อ.เมือง จ.อุดรธานี เสร็จแล้วแจ้งข้อหา “ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนได้รับบาดเจ็บสาหัส” ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ข่าวและภาพ : เศกสันติ กัลยาณวิสุทธิ์, ยุทธพงษ์ ดลสิริฤทธิกุล
สำนักข่าวเนชั่น จ.อุดรธานี