รวบแล้ว! เฒ่าควบกระบะ ชนเด็ก 4 ขวบดับ อ้างไม่ได้เมา ตร.แจ้ง 2 ข้อหา

ความคืบหน้ากรณีกระบะนายฮ้อย ขับชนรถกระบะ ยี่ห้อฟอร์ดเรนเจอร์ สีดำ จากนั้นเหินข้ามเลนมาชนร้านค้าริมทาง บริเวณบ้านไทยโยง ต.กระสัง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ เป็นเหตุให้ ด.ช.ธีรดล "น้องแสตมป์" วัย 4 ขวบ ซึ่งกำลังนั่งกินข้าวอยู่ที่โต๊ะม้าหินอ่อนเตรียมไปโรงเรียน ถูกรถชนเข้าอย่างจัง ได้รับบาดเจ็บสาหัส และเสียชีวิตในเวลาต่อมา ส่วนคนขับกระบะนายฮ้อย อาศัยจังหวะชุลมุนหลบหนีไป ตามที่มีการนำเสนอข่าวไปแล้วนั้น 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง : 

• กระบะตีนผีเหินข้ามเลน พุ่งชนร้านค้าข้างทางพังยับ เด็ก 4 ขวบ ดับสลด

7 พฤศจิกายน 2565 ตำรวจ​ สภ.เมืองบุรีรัมย์​ จับกุมนายสมรวย​ (สงวนนามสกุล) อายุ​  65​ ปี​ ชาว ต.เสม็ด​ อ.เมือง​บุรีรัมย์​ ได้แล้ว โดยนายสมรวย อ้างว่าหลับในเพราะพักผ่อนน้อย​ และปฏิเสธไม่ได้เมา เพราะดื่มเหล้าไปแค่เป๊กเดียวเท่านั้น​ เบื้องต้นพนักงานสอบสวนแจ้ง​ 2​ ข้อ คือ 1.ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้เฉี่ยวชนรถคันอื่นมีผู้อื่นถึงแก่ความตาย​ ทรัพย์สินของผู้อื่นเสียหาย​ 2.ขับรถในทางซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายแก่บุคคลหรือทรัพย์สินของผู้อื่นโดยไม่หยุดรถและให้ความช่วยเหลือตามสมควรและไม่แจ้งเหตุต่อตำรวจที่ใกล้เคียงทันทีและแสดงตัวแจ้งชื่อตัวชื่อสกุล และที่อยู่ของตน และหมายเลยทะเบียนแก่ผู้ได้รับความเสียหายด้วย​ 

พร้อมทั้งมีการตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์​ หากเกินปริมาณที่กฎหมายกำหนด ก็จะแจ้งข้อหาเพิ่มเติม​

ขณะที่บรรยากาศงานศพ "น้องสแตมป์" เป็นไปด้วยความโศกเศร้า​ นายนพดล (สงวนนามสกุล) อายุ 33 ปี และ น.ส.พัชรวรรณ (สงวนนามสกุล) อายุ 29 ปี พ่อกับแม่ และน้องสตังค์ พี่สาววัย 5 ขวบ ได้นำข้าวเหนียวหมูปิ้งที่น้องชอบ และเค้กรูปสไปเดอร์แมนที่น้องอยากได้ก่อนเสียชีวิต มาวางให้น้องแสตมป์หน้าโลงศพ จากนั้นก็ร่วมกันร้องเพลงแฮปปี้เบิร์ดเดย์ ซึ่งบรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า

ทั้งนี้ ครอบครัวตั้งใจจะจัดงานวันเกิดครบรอบ​ 4​ ขวบ ให้น้องแสตมป์ ในวันที่​ 25​ พฤศจิกายน แต่น้องมาเสียชีวิตก่อน 

นายนพดล (สงวนนามสกุล) อายุ 33 ปี พ่อน้องสแตมป์ บอกว่า ส่วนตัวไม่เชื่อว่าคนขับรถกระบะจะหลับในเพราะตอนเกิดเหตุยังเช้าอยู่ อีกทั้งภรรยาและคนที่อยู่ในเหตุการณ์ก็เห็นว่าคนขับเดินเซคล้ายกับคนเมา จึงเชื่อว่าน่าจะเมามากกว่า

ก็อยากให้ยอมรับความจริง และหากผลตรวจว่ามีระดับแอลกอฮอล์เกินกว่ากฎหมายกำหนดจริงก็อยากให้ตำรวจลงโทษตามกฎหมายจนถึงที่สุด ถึงแม้ว่าความจริงหากเป็นไปได้ก็อยากจะให้แลกด้วยชีวิต เพราะตนสูญเสียลูกไปไม่มีวันกลับ และอยากจะฝากถึงผู้ขับขี่ว่าถ้าเมาก็ไม่ควรจะขับรถเพราะจะสร้างความสูญเสียให้กับคนอื่น