คลื่นมหาชนนับแสนเฮลั่นลำน้ำโขง "บั้งไฟพญานาค" มาตามนัด กว่า 280 ลูก (มีคลิป)

11 ตุลาคม 2565 เมื่อคืนที่ผ่านมา 10 ต.ค.ที่ผ่านมา งานประเพณีออกพรรษาไหลเรือไฟ ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 1-11 ตุลาคม 2565 ในแต่ละปีจะมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากหลั่งไหลเข้าพื้นที่ริมแม่น้ำโขง เพื่อรอชมปรากฏการณ์ “บั้งไฟพญานาค” ในคืนวันออกพรรษาเป็นจำนวนมาก รวมถึงการจัดประกวดเรือไฟประยุกต์

จ.หนองคาย ที่ลานนาคาเบิกฟ้า ริมแม่น้ำโขง เขตเทศบาลตำบลโพนพิสัย อ.โพนพิสัย นายณัฐวัสส์ วิริยานภาภรณ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย เป็นประธานเปิดงานประเพณีออกพรรษาบั้งไฟพญานาคโลก ซึ่งเทศบาลตำบลโพนพิสัย ร่วมกับชาวอำเภอโพนพิสัยจัดขึ้น โดยไฮไลท์ของงานเป็นพิธีบวงสรวงบูชาพญานาค เมื่อเสร็จสิ้นพิธีบวงสรวงแล้ว ได้มีการรำบวงสรวง ซึ่งปีนี้มีนักแสดง นางแบบชื่อดัง แพนเค้ก เขมนิจ มาร่วมรำบวงสรวงกับนางรำชาวโพนพิสัยกว่า 1,000 คน ด้วยท่ารำที่อ่อนช้อยสวยงาม

ล่าสุดเมื่อคืนที่ผ่านมาเกิดปรากฏการณ์บั้งไฟพญานาคอย่างไม่เป็นทางการ ใน 2 อำเภอ คือ ที่ อ.โพนพิสัย บริเวณบ้านหนองกุ้งใต้ ต.กุดบง จำนวน 10 ลูก และ บ้านหนองกุ้งเหนือ ต.กุดบง จำนวน 10 ลูก รวมของเภอโพนพิสัยจำนวน 20 ลูก

ส่วนที่ อ.รัตนวาปี ซึ่งเป็นจุดที่บั้งไฟพญานาคเกิดขึ้นมากกว่า ที่บ้านน้ำเป ต.รัตนวาปี 10 ลูก บ้านท่าม่วงใกล้สถานีเรือรัตนวาปี 14 ลูก บ้านตาลชุม 14 ลูก บ้านหนองแก้ว 15 ลูก บ้านโพนแพง บ้านอาญา ต.โพนแพง 16 ลูก

บ้านเปงจาน บ้านโนนโพธิ์ทอง 36 ลูก บ้านต้อนน้อย ต.บ้านต้อน 31 ลูก บ้านต้อนใหญ่ 35 ลูก บ้านเปงจานนคร 25 ลูก บ้านดงมดแดง 20 ลูก และบ้านดงตาล 24 ลูก รวม 240 ลูก

รวม 2 อำเภอ 280 ลูก

นอกจากการตั้งตารอคอยชมบั้งไฟพญานาคแล้ว บรรยากาศการท่องเที่ยวงานประเพณีไหลเรือไฟของจังหวัดนครพนม ในค่ำคืนวันที่ 10 ต.ค. ซึ่งเป็นคืนวันเพ็ญขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 ถือเป็นไฮไลท์ของงาน มีการจัดประกวดเรือไฟประยุกต์ ทั้งเป็นการสืบสานประเพณีบูชาพระแม่คงคาของชาวลุ่มน้ำโขง โดยมีตัวแทนชาวบ้านและศิลปินเรือไฟจาก 12 อำเภอ รวม 12 ลำ ประดับประดาด้วยลวดลายตามจินตนาการของศิลปินเรือไฟ พร้อมส่งเข้าประกวดชิงถ้วยรางวัลพระราชทาน และเงินรางวัล

โดยเรือไฟทั้ง 12 ลำ เน้นแสดงออกถึงความสามัคคีร่วมมือร่วมใจ เป็นพลังศรัทธาของชาวบ้าน หน่วยงานภาครัฐ เอกชน ทุ่มทุนสร้างใช้งบประมาณ เกือบ 1 ล้านบาท ส่งประกวดในประเภทความสวยงาม เพื่อสร้างความประทับใจให้กับประชาชน นักท่องเที่ยว ที่จะมาเที่ยวชมในคืนวันออกพรรษา

อีกทั้งเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวในพื้นที่ ให้ประชาชน นักท่องเที่ยว ได้ตื่นตากับเรือไฟยักษ์ที่สวยงามที่สุดในโลก ที่สำคัญตะเกียงไฟทุกดวงก่อนที่จะไหลเรือไฟจะต้องใช้แรงงานคน ร้อยเรียงจุดตะเกียงทีละดวง ก่อนไหลโชว์

สำหรับการประกวดเรือไฟแยกเป็น 2 ประเภท เหมือนทุกปีที่ผ่านมา ทั้ง ความคิดสร้างสรรค์ และความสวยงาม เรือไฟลำหนึ่งมีขนาดความยาว ตั้งแต่ 50 – 88 เมตร ความสูงประมาณ 20 -30 เมตร ประดับตกแต่งด้วยตะเกียงไฟ ประมาณ 20,000 – 25,000 ดวง เรือไฟบางลำทุ่มทุนสร้าง นับล้านบาท โดยชาวบ้านศิลปินเรือไฟ ต่างทุ่มเทแรงกายแรงใจ ไม่เน้นค่าจ้างรางวัล แต่ได้ความภาคภูมิใจ ที่ได้สืบสานประเพณี และสร้างความประทับใจให้กับประชาชน นักท่องเที่ยว ได้ชื่นชมความสวยงามตระการตา

นางสาวกนกวรรณ ดุงศรีแก้ว ผู้อำนวยสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) สำนักงานนครพนม เปิดเผยว่า สำหรับปีนี้ต้องยอมรับว่างานประเพณีออกพรรษาไหลเรือไฟ ยิ่งใหญ่กว่าทุกปี หลังจาก 2 ปีที่ผ่านมา ได้รับผลกระทบจากโควิดระบาด ทำให้ซบเซา ปีนี้ จ.นครพนม ร่วมกับ ททท. รวมถึงหน่วยงานเกี่ยวข้อง จึงจัดพิเศษยิ่งใหญ่กว่าทุกปี รวมถึงการทำเรือไฟ ส่วนใหญ่จะมีการออกแบบที่สวยงามอลังการ

นอกจากนี้ ในส่วนของผู้ประกอบการ ร้านค้า ร้านอาหาร โรงแรม ที่พัก ได้มีความพร้อม ในการต้อนรับนักท่องเที่ยว และเป็นเจ้าภาพที่ดี โดยปีนี้ถือว่าคึกคักเป็นพิเศษ เชื่อว่าเงินสะพัดไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท ในช่วงงานประเพณีออกพรรษาไหลเรือไฟ บวกกับช่วงหยุดยาวต่อเนื่องยิ่งส่งผลดีต่อเศรษฐกิจการท่องเที่ยวในพื้นที่

สำหรับผลการตัดสินประกวดเรือไฟประยุกต์ ประจำปี 2565 ประเภทสวยงาม รางวัลชนะเลิศที่ 1 คือ อ.ธาตุพนม ที่ 2 อ.โพนสวรรค์ และที่ 3 อ.เมือง ส่วนประเภทความคิด รางวัลชนะเลิศที่ 1 ได้แก่ อ.ปลาปาก ที่ 2 อ.นาหว้า และที่ 3 อ.ศรีสงคราม

กำธร กองสมบัติ  รายงานจาก จ.หนองคาย

พงศ์สุคนธ์ คุณธรรมมงคล รายงานจากจ.นครพนม