ความคืบหน้าคดีพบศพหญิงสาว ถูกฆ่านัดกระเป๋าทิ้งแม่น้ำโขง ลอยอืดมาติดแพจอดเรือลาดตระเวน กองบังคับการหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง เขตนครพนม (บก.นรข.เขตนครพนม) ซึ่งจากผลชันสูตรพบถูกทุบ - ยิงหัว 2 นัด โดย ตร.ธาตุพนม ยันถูกฆาตกรรมมาจากฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน และมีรายงานว่า ผู้เสียชีวิตคือ นางวิภาพร (ไม่ทราบนามสกุล) อายุประมาณ 40 ปี ประธานบริษัทเอกชนขนาดใหญ่ ทำธุรกิจเกี่ยวกับโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ที่สุดในนครหลวงเวียงจันทน์ สปป.ลาว ที่หายตัวไป รวมถึง ลูกสาววัย 5 ขวบ กับสามีใหม่ก็หายตัวไปด้วยเช่น (อ่านข่าว)
ล่าสุด พ.ต.อ.ถวิล คำเกษ ผกก.สภ.ธาตุพนม เปิดเผยว่า ในการสืบสวนสอบสวนนั้น ล่าสุดหลังเกิดเหตุทางตำรวจได้ส่งศพไปชันสูตรที่สถาบันนิติเวช จ.ขอนแก่น จากนั้นทางญาติได้มายืนยันตำหนิรูปพรรณ มั่นใจว่า เป็นคนเดียวกันที่สูญหาย นอกจากนี้ตามขั้นตอนของกฎหมาย ได้มีการตรวจดีเอ็นเอ เทียบเคียงกัน ซึ่งได้มีการเก็บดีเอ็นเอส่งไปตรวจที่สถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ กทม. เพื่อความสะดวกรวดเร็ว หลังผลตรวจดีเอ็นเอ ยืนยันออกมาจะได้ ส่งศพให้ญาตินำไปบำเพ็ญกุศล
เบื้องต้นทางญาติได้แจ้งความประสงค์กับตำรวจว่า เพื่อความสะดวกจะขอทำพิธีฌาปนกิจศพที่ฝั่งไทย หลังผ่านขั้นตอนการดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยจะได้มีการส่งศพผู้เสียชีวิต ไปที่สุสานมูลนิธิการกุศลมุกดาหาร เพื่อรอการฌาปนกิจศพตามประเพณี ส่วนหลักฐานสำคัญจากการชันสูตรบ่งชี้ว่า ถูกฆาตกรรมก่อนนำศพยัดกระเป๋าโยนลงน้ำโขง คือ มีหัวกระสุนคาดว่า เป็นอาวุธปืนสงครามฝังที่ศีรษะ 2 นัด อาจเป็นการยิงทางด้านหน้า หลังเสียชีวิตจึงนำศพยัดกระเป๋า และมีหลักฐานเป็นเบาะว่า คนร้ายใช้พลาสติกรองศีรษะก่อนยิง ทำให้หัวกระสุนฝังใน
อย่างไรก็ตามทางตำรวจท้องที่พบศพ มีอำนาจเพียงชันสูตรสาเหตุการเสียชีวิต ไม่มีอำนาจสอบสวนเชิงลึกติดตามหาคนร้าย เนื่องจากเป็นคดีระหว่างประเทศ และทางญาติยืนยันจากหลักฐานต่าง ๆ รวมถึงหนังสือเดินทางมั่นใจว่า เกิดเหตุที่นครหลวงเวียงจันทน์ ก่อนนำศพทิ้งลงน้ำโขง จนถูกกระแสน้ำพัดมาติดที่ฝั่งไทยเขต อ.ธาตุพนม จ.นครพนม ซึ่งทางตำรวจจะได้ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายของฝั่งไทยเท่านั้น และมอบให้ญาติประสานทางการลาวดำเนินการต่อไป
ทางด้าน นายประทีป พ่อค้าช้าง เจ้าหน้าที่ดูแลรักษาศพ รพ.นครพนม เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ได้รับศพหญิงสาวที่ถูกฆาตกรรม เมื่อวันที่ 30 ก.ย. ที่ผ่านมา ก็ยังไม่มีใครนำเอกสารหลักฐานใดมายื่นขอดูศพ ที่ติดต่อมาก็อ้างแค่ปากเปล่า ไม่มีหลักฐานยืนยัน ซึ่งตามนโยบายของ รพ.ฯ จะไม่ให้ใครเข้าดูศพโดยไม่มีเอกสารหลักฐานมาแสดง เพราะอาจเป็นช่องว่างของกลุ่มมิจฉาชีพ ที่เข้ามาหากินกับศพ นำไปแอบอ้างกับญาติของผู้เสียชีวิต เพื่อขอเงินเป็นค่าดำเนินการ
ข่าว : พงศ์สุคนธ์ คุณธรรมมงคล จ.นครพนม