ความคืบหน้ากรณีที่ เพจดัง "Survive - สายไหมต้องรอด" โพสต์รูปหมายเรียกผู้ต้องหา และรูปภาพเด็กนักเรียน หลังถูก ผอ.โรงเรียนดังใน จ.กำแพงเพชร แจ้งความดำเนินคดี นักเรียนชั้น ป.6 ที่ทำกล้องวงจรปิดในโรงเรียนพัง และเรียกค่าเสียหายกว่า 3,000 บาท ทำให้ชาวเน็ตเสียงแตกถามว่า ผอ.ทำเกินไปไหม เด็กจะมีคดีติดตัว ขอให้ถอนแจ้งความ เดี๋ยวรวมเงินช่วยเคลียร์ค่าเสียหาย
อย่างไรก็ตาม ภายหลังได้มีการออกมาเปิดเผยอีกว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดที่ จ.กำแพงเพชร เด็กที่ถูกแจ้งความคือ น้องมะพร้าว อายุ 11 ปี นักเรียนชั้น ป.6 โรงเรียนชื่อดังแห่งหนึ่งใน อ.เมือง จ.กำแพงเพชร ถูก ผอ.โรงเรียน แจ้งความดำเนินคดี หลังน้องและเพื่อน ๆ นักเรียนเล่นบอลไปโดนกล้องวงจรปิดโรงเรียน ได้รับความเสียหาย เด็ก ๆ กลัวความผิด จึงไปตัดสายไฟขาด โรงเรียนเรียกเก็บค่าซ่อม 3,300 บาท โดยให้หารกับเพื่อนนักเรียน 2 คน คนละ 1,650 บาท ซึ่งน้องอีกคนครอบครัวหาเงินมาจ่ายได้ ส่วนน้องมะพร้าว ครอบครัวยากจนไม่มีเงินจ่าย จึงถูกดำเนินคดี
ล่าสุดวันนี้ (30 ก.ย.) นายสมชาย ศรีสุข ผู้อำนวยการโรงเรียนนารีราษฎร์สามัคคี (บ้านแม่นารี) ม.24 ต.นาบ่อคำ อ.เมือง จ.กำแพงเพชร ได้ให้ข้อมูลถึงเรื่องดังกล่าวว่า กรณีดังกล่าวเกิดจากที่เด็ก 2 คน คือ ด.ช.สิงหา และ ด.ช.มะพร้าว ไปเล่นวอลเลย์บอล แล้วไปโดนกล้องวงจรปิดของโรงเรียนพังเสียหาย เด็กทั้งสองคนนั้นกลัวความผิด เลยตัดสินใจนำไม้มาตี เพื่อทำลายกล้องวงจรปิด พร้อมทั้งตัดสายไฟ และสายสัญญาณ เพื่อปกปิดความผิด ปรากฏว่า กล้องวงจรปิดยังสามารถบันทึกภาพได้ จึงเรียกผู้ปกครองของเด็ก ที่ทำกล้องวงจรปิดพังเสียหาย เข้ามารับทราบแล้ว พร้อมตกลงที่จะชดใช้ค่าเสียหายประมาณ 3,000 บาท
โดยผู้ปกครองของทั้ง 2 ฝ่าย ยินดีชดใช้ค่าเสียหายให้ และจบเรื่องดังกล่าว แต่พอวันต่อมา เมื่อพ่อของ ด.ช.มะพร้าว ทราบเรื่องก็บอกว่า ขอไม่ชดใช้ อ้างว่า ลูกตนเองไม่เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าว หน่วยงานปกครอง และตำรวจในพื้นที่ก็ทราบดี และเข้ามาไกล่เกลี่ยเจรจา จนสุดท้ายมีความเห็นว่า ควรจะแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ที่ไม่รับผิดชอบคือ "ด.ช.มะพร้าว" ส่วน ด.ช.สิงหา ได้จ่ายค่าเสียหายแล้ว
สำหรับเหตุผลที่ต้องดำเนินการทางคดีนั้น เพราะต้องการปรามเด็กไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง เนื่องจาก ด.ช.สิงหา เพื่อนของ ด.ช.มะพร้าว มีวีรกรรมในโรงเรียน และชุมชนในลักษณะนี้หลายครั้ง จนเอือมระอา ทั้งงัดเข้าไปขโมยของในร้านค้าสหกรณ์ และงัดห้องเรียน ในศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก เพื่อเข้าไปขโมยกระปุกออมสินและขนม
ล่าสุด ด.ช.สิงหา เคยมีปัญหากับเพื่อนในโรงเรียนด้วยกัน ถึงขนาดพกมีดดาบเข้ามาจะทำร้ายกันในโรงเรียน โดยทางปกครองได้เข้าห้ามปราม เรียกผู้ปกครองมารับทราบ จนมีกระแสดราม่าในเพจดัง "Survive - สายไหมต้องรอด" ซึ่ง ด.ช.มะพร้าว เป็นเพียงหนึ่งในกลุ่มที่สร้างความเดือดร้อน เพียงแค่เรื่องนี้เรื่องเดียวเท่านั้น และมี ด.ช.ตูมตาม ร่วมกับ ด.ช.สิงหา ตีกล้องวงจรปิดหน้าห้องศูนย์เด็กเล็ก เพื่อเข้าไปขโมยกระปุกออมสินและขนม
ทั้งนี้ ทางโรงเรียนยังได้พาสื่อไปดูจุดที่เด็กเล่นวอลเลย์บอลจนกล้องวงจรปิดพัง เหตุเกิดเมื่อวันที่ 5 ก.ย. ที่ผ่านมา และการงัดห้องสมุด และขังน้องนักศึกษาฝึกสอนผู้หญิงไว้ในห้อง วันที่ 6 ส.ค. 65 (วีรกรรมของ ด.ช.สิงหา)
นายธวัชชัย ไทยตัน กำนันตำบลนาบ่อคำ กล่าวว่า เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องจริง ถือเป็นอันตรายกับชุมชน ซึ่งคณะกรรมการโรงเรียน ได้เรียกมาตักเตือนแล้ว แต่ยังมีพฤติกรรมอีก ในการที่แจ้งความ ไม่ใช่แจ้งจับอะไร เป็นการป้องปรามไม่อยากให้เด็กโตขึ้นมาเป็นปัญหาของสังคม จึงฝากผู้ปกครองช่วยกันดูแลสั่งสอนลูกหลาน
ขณะที่ น.ส.อริสรา สระทองแพ แม่ค้าสหกรณ์ในโรงเรียน กล่าวว่า ร้านตนเองถูก ด.ช.สิงหา ขโมยของในร้านถึง 3 ครั้ง พร้อมทั้งทำลายกลอนประตู กล้องวงจรปิด และสายอินเตอร์เน็ต ซึ่งตนเพิ่งจะเข้ามาขายในสหกรณ์ เพียง 2 เดือนเท่านั้น จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนไม่รู้จะพูดอย่างไร ไม่คิดว่าเด็กอายุเพียงแค่นี้แต่ทำได้ถึงขนาดนี้