svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ภูมิภาค

ศาลออกหมายจับ ผตห. คดี "พระชาตรี" ยักยอก 4 ล้าน ทนายเชื่อเป็นกุญแจสำคัญ

26 กันยายน 2565
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ทนายเผย ศาลสั่งออกหมายจับผู้ต้องหาคดี "พระชาตรี" ยักยอก 4 ล้าน เป็นอดีตเหรัญญิกยุคพระชาตรีเป็นรักษาการเจ้าอาวาส คาดหากได้ตัวจะทราบเส้นทางการเงินว่าเบิกจ่ายใครบ้าง

ความคืบหน้าปมดราม่า ระหว่าง "แพรี่" อดีตพระมหาไพรวัลย์ วรรณบุตร กับ "พระชาตรี เหมพันธ์" เจ้าอาวาส วัดพุทธวิหาร ในรัสเซีย ที่มีการแฉว่า พระชาตรี เคย ยักยอกเงินวัดพุทธปัญญา จ.นนทบุรี ไป 4 ล้านบาท สมัยที่เป็นรักษาการเจ้าอาวาส ก่อนที่จะถูกเจ้าคณะตำบล สั่งปลดและถูกแจ้งความดำเนินคดี โดยวันนี้ (26 ก.ย.) ผอ.สำนักพุทธฯ นนทบุรี เข้าพบเจ้าคณะตำบลบางเขน ขอข้อมูลคดี "พระชาตรี" ยักยอกเงินวัดพุทธปัญญา 4 ล้านบาท เจ้าคณะตำบลเผย รอทนายและเจ้าอาวาสรูปปัจจุบัน รวบรวมเอกสาร เพราะมารับตำแหน่งหลังเกิดเรื่องเกือบปี (อ่านข่าว)

 

ล่าสุด เมื่อเวลา 17.00 น. ที่ วัดพุทธปัญญา นายปัญญา จารุมาศ ทนายความของวัด เปิดเผยถึงความคืบหน้าในคดียักยอกเงินจากบัญชีวัดพุทธปัญญาเมื่อปี 2558 ว่า จากการไปขอคัดสำนวนที่ศาลจังหวัดนนทบุรีเมื่อเช้านี้พบว่า คดียังอยู่ในการพิจารณาของศาล ซึ่งหลังจากมีการยื่นฟ้องในปี 58 แล้ว มีการเรียกเบิกความจำเลยทั้ง 4 คนได้แก่ จำเลยที่ 1 พระชาตรี ในฐานะรักษาการเจ้าอาวาสขณะนั้น จำเลยที่ 2 เป็นพระลูกวัดรูปหนึ่ง จำเลยที่ 3 เป็นกรรมการวัด และจำเลยที่ 4 เป็นหญิงที่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเหรัญญิกของวัด ในระหว่างที่พระชาตรีดำรงตำแหน่งเป็นรักษาการเจ้าอาวาส 
 

 

นายปัญญา จารุมาศ ทนายความของวัดพุทธปัญญา

จากการตรวจสอบเอกสารหลักฐานทั้งหมดพบว่า มีการเบิกเงินจากบัญชีของวัดภายในระยะเวลาหนึ่งเดือนกว่า ไปจำนวน 4.3 ล้านบาท โดยทำการเบิกครั้งละประมาณ 2 - 3 แสนบาทต่อครั้ง โดยมีจำเลยที่ 4 เป็นผู้เซ็นเบิกรับเงินเพียงคนเดียว และไม่ยอมเดินทางมาเบิกความในชั้นศาลเพียงคนเดียวด้วย ศาลจึงพิเคราะห์ออกหมายจับจำเลยที่ 4 เมื่อปี 60 แต่จนถึงปัจจุบันก็ยังไม่สามารถจับกุมจำเลยที่ 4ได้ เนื่องจากพบเบาะแสว่า ผู้ต้องหารายนี้เดินทางออกนอกประเทศไปแล้ว โดยเดินทางไปยังประเทศสหรัฐอเมริกาตั้งแต่ปี 2558 แล้ว 
 

 

"พระชาตรี เหมพันธ์" เจ้าอาวาส วัดพุทธวิหาร ในรัสเซีย

นายปัญญา เปิดเผยอีกว่า อย่างไรก็ตามจากการตรวจสอบเส้นทางการเงินของจำเลยที่ 4 แม้จะยังไม่พบความเชื่อมโยงไปถึงจำเลยที่ 1 ก็คือพระชาตรีก็ตาม แต่พระชาตรีเองได้เบิกความต่อศาลไว้ว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเป็นเพียงผู้มอบอำนาจให้จำเลยที่ 4 เป็นผู้ไปเบิกเงินเท่านั้น โดยให้เหตุผลต่อศาลว่า มีการอนุมัติให้ถอนเงินเพื่อนำไปจ่ายค่าน้ำค่าไฟ และค่าบำรุงกิจการของวัด

 

นอกจากนั้นยังยื่นฟ้องจำเลยที่ 4 กับศาลแขวงนนทบุรี พร้อมเขียนจดหมายแถลงต่อศาลให้จำเลยที่ 4 เป็นผู้นำเงินมาคืนด้วย โดยเงินจำนวน 4.3 ล้านบาท ที่ถูกยักยอกไปนั้น ทางวัดก็ยังมีโอกาสจะได้คืน เนื่องจากคดีนี้มีอายุความถึง 20 ปี เมื่อเกิดการฟ้องร้องในปี 60 หมายความว่า อายุความจะสิ้นสุดในปี 80 สิ่งสำคัญที่สุดในตอนนี้ คือการหาตัวจำเลยคนที่ 4 ที่เป็นผู้เซ็นรับเงินไป ถึงจะรู้เส้นทางว่า มีการกระจายโยกย้ายเงินไปที่ใครบ้าง

 

ศาลออกหมายจับ ผตห. คดี "พระชาตรี" ยักยอก 4 ล้าน ทนายเชื่อเป็นกุญแจสำคัญ

 


 

ฟังเสียงของทนายความถึงคดีพระชาตรียักยอกเงินวัด

 

logoline