25 กันยายน 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเกิดฝนตกหนักในพื้นที่ตัวเมืองเชียงใหม่ ติดต่อกันหลายวัน ทำให้ ประตูช้างเผือก ตำบลช้างเผือก อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็น 1 ใน 4 ประตูเมืองเชียงใหม่ ที่มีอายุกว่า 700 ปี พังถล่ม เป็นแนวยาว กว่า 30 เมตร เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา โดยกำแพงที่ถล่มนั้นเป็นแนวกำแพงชั้นนอกที่สร้างขึ้นเพื่อคลอบกำแพงเดิมชั้นใน ในช่วงประมาณปี 2500 เช่นเดียวกับประตูเมืองอีก 3 แห่ง คือ ประตูสวนดอก ประตูเชียงใหม่ และประตูสวนปรุง
นายอัศนีย์ บูรณุปกรณ์ นายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ล่าสุดต้องทำการปิดกั้นบริเวณพื้นที่ไว้ก่อนเพื่อความปลอดภัยกับประชาชนและนักท่องเที่ยว ล่าสุดมีการปรึกษากับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อตรวจสอบ ความแข็งแรงของ ประตูเมืองเชียงใหม่ อีก 3 แห่ง ที่มีการบูรณะซ่อมแซม พร้อมๆ กับประตูช้างเผือก เพื่อป้องกันการเกิดเหตุคล้ายๆกัน
ด้าน นายเทอดศักดิ์ เย็นจุระ ผู้อำนวยกลุ่มอนุรักษ์โบราณสถานสำนักศิลปากรที่ 7 เชียงใหม่ เปิดเผยว่า ทางกรมศิลปากร จะเป็นเจ้าภาพในการบูรณะซ่อมแซมให้ประตูช้างเผือกให้กลับมาเหมือนเดิม แต่ จะทำกำแพงแบบมีระบบฐานรากให้แข็งแรงกว่าเดิม เพราะในการบูรณะซ่อมแซมตั้งแต่ปี 2509 ไม่ได้มีการทำระบบฐานรากให้แข็งแรง และจะได้ สำรวจและแจ่งสี่มุมเมืองเชียงใหม่ หลายจุดที่เริ่มมีรอยร้าว เพื่อป้องกันการเกิดเหตุซ้ำ โดยร่วมกับเทศบาลนครเชียงใหม่
ล่าสุด เจ้าหน้าที่จากสำนักศิลปากรที่ 7 เชียงใหม่ ร่วมกับเทศบาลนครเชียงใหม่ ได้นำอุปกรณ์เข้ามาเพื่อทำการเข้าเฝือกหรือที่เรียกว่าวิธีการ "รัดดามเฝือก" ตัวกำแพงเอาไว้เพื่อช่วยเสริมความมั่นคงไว้ชั่วคราวของตัวโบราณสถานและยังเป็นการป้องกันการพังทลายเพิ่มเติมของตัวผนังกำแพงประตูช้างเผือก
ส่วนตอนนี้มีความหวั่นใจบริเวณรอยต่อของผนังแต่ละด้านเพราะผนังกำแพงแต่ละด้านไม่มีการโยงยึดกันแต่อย่างใดซึ่งทำให้มีโอกาสที่จะล้มเพิ่มมีสูงและตอนนี้ยังตรวจพบผนังกำแพงประตูช้างเผือกอีกด้านที่ยังไม่ถล่มพบมีรอยร้าวแนวดิ่งซึ่งเป็นรอยร้าวลักษณะเดียวกันกับผนังกำแพงที่พังถล่มลงมาซึ่งตอนนี้ก็แค่รอเวลาที่จะผังถล่มลงมาได้ทุกเมื่อจึงมีความจำเป็นต้องได้รีบดำเนินการซ่อมแซมรัดดามเฝือกเอาไว้ก่อนเป็นการด่วน
ภาพ-ข่าว: วสันต์ ปัญญาเรือน