ผวา “ร่างสาวนิรนาม” โผล่ทิ้งคลอง ที่แท้ฝีมือแฟนใหม่ ตร.รวบทันควัน

วานนี้ (1 ก.ย.65) เวลา 17.20 น. พ.ต.ท.ปัณฑิวัฒน์ เพชรหล่อ พนักงานสอบสวน สภ.ห้วยยอด รับแจ้งเหตุพบร่างผู้เสียชีวิตที่บริเวณสะพานท่าประดู่  ม.11 ต.เขากอบ อ.ห้วยยอด จ.ตรัง

หลังรับแจ้งได้รายงาน พ.ต.อ.สานิตย์ พลเพชร ผกก.สภ.ห้วยยอด และรีบประสาน เจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างภักดีตรัง จุดห้วยยอด จุดนาวง แพทย์เวรโรงพยาบาลห้วยยอด รุดไปยังจุดเกิดเหตุ เห็นชาวบ้านจำนวนมากกำลังยืนดูร่างผู้เสียชีวิต พบเป็นผู้หญิง อายุประมาณ 30 ปี สีผิวขาวเหลือง สูงประมาณ 160 ซม. สภาพลอยมาติดโขดหิน สวมเสื้อสีดำ กางเกงลายขาวดำ บริเวณหน้าท้องมีรอยสักรูปขนนก และมีรอยสักไม้เลื้อยบริเวณหลังเอว ตามลำตัวพบมีบาดแผล ที่บริเวณ คิ้วขวา หน้าแข้งซ้าย น่องซ้าย มีรอยช้ำทั่วตัว คาดเสียชีวิตมาไม่ต่ำกว่า 12 ชั่วโมง

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตรวจสอบสภาพศพ ยังไม่ทราบชื่อ ไม่มีเอกสารยืนยันบุคคลติดตัวอยู่ระหว่างการตรวจสอบและชันสูตรของแพทย์ คาดถูกฆ่ามาจากที่อื่นแล้วนำศพมาโยนทิ้ง  จากการตรวจสอบในพื้นที่ไม่พบมีการแจ้งความคนหาย ซึ่งหากมีผู้ใดเคยพบเห็นหรือสงสัยว่าจะเป็นญาติ ก็สามารถติดต่อได้ที่พนักงานสอบสวน สภ.ห้วยยอด 

จากการสอบถามนายธนกฤติ ไสเพี้ย หัวหน้ากู้ภัยสว่างภักดีตรัง จุดห้วยยอด กล่าวว่า เจอศพที่บริเวณสะพานท่าประดู่ห่างจากสะพานประมาณ 100 เมตร ในส่วนของศพสภาพติดอยู่ที่บริเวณตลิ่งโขดหินอยู่ในลักษณะก้มหน้า บาดแผลพบที่บริเวณคิ้วด้านขวามีรอยฉีกขาดผิวเรียบประมาณ 4-5 นิ้ว ส่วนบริเวณขามีบาดแผลเล็กๆ น้อยๆ คาดว่าโดนของมีคม สภาพทั่วร่างกายมีรอยฟกช้ำ ส่วนของเสื้อผ้าเป็นผู้หญิงแต่ไม่มีชุดชั้นใน สวมกางเกงสามส่วนและเสื้อยืด ตอนนี้รายละเอียดลักษณะหน้าตายังไม่มีบุคคลใดมายืนยันว่าเป็นญาติหรือเป็นบุคคลในพื้นที่

ต่อมาเวลาประมาณ 20.30 น. ญาติเห็นข่าวทางเฟซบุ๊คจึงรีบติดต่อตำรวจ สภ.ห้วยยอด เพื่อขอตรวจสอบศพ และยืนยันว่าเป็นศพของนางพรทิพย์ เทพธานี อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 143 หมู่ที่ 1 ต.นาท่ามใต้ อ.เมือง จ.ตรัง และเชื่อว่าเป็นฝีมือของนายวิษณุ อินนุรักษ์ หรือ นายเจ อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 146 หมู่ 3 ต.หนองปรือ อ.รัษฎา จ.ตรัง ซึ่งเป็นแฟนใหม่

ทางเจ้าหน้าที่จึงเร่งติดตามตัว จนกระทั่งสามารถจับกุมตัวที่บ้านพัก พร้อมรถยนต์กระบะ มิตซูบิชิไทรทัน ของนายเจ หลังจากศพเพียงประมาณ 3 ชม.เท่านั้น

ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ห้วยยอด สอบปากคำเข้มนายวิษณุ อินนุรักษ์ และรับสารภาพเป็นคนลงมือฆ่านางพรทิพย์ เทพธานี หลังขับรถออกจากงานศพภายในวัดศรีสุวรรณาราม หรือวัดพ่อท่านคลิ้ง ต.นาท่ามใต้ อ.เมือง จ.ตรัง เวลาประมาณ 23.00 น.คืนวันที่ 31 สิงหาคม เพื่อจะกลับบ้านที่ อ.รัษฎา แต่เกิดทะเลาะวิวาทกันรุนแรงภายในรถจนมีการลงมือทำร้ายร่างกายกัน และชกหน้าฝ่ายหญิงจนสลบ ตั้งแต่ช่วงสี่แยกบ้านนานอน จากนั้นจึงเลี้ยวรถนำไปจอดบนสะพานคลองประดู่ แม่น้ำตรัง ต.เขากอบ อ.ห้วยยอด ในเวลาประมาณ 02.00 น. คืนวันที่ 1 กันยายน ลากร่างนางพรทิพย์ลงจากรถแล้วโยนทิ้งแม่น้ำตรัง แล้วขับรถยนต์กลับบ้านพักที่บ้านลำช้าง ต.หนองปรือ อ.รัษฎา จ.ตรัง จนกระทั่งตำรวจตามไปจับกุมได้

จากนั้น ทางตำรวจ สภ.ห้วยยอด พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ได้คุมตัวนายวิษณุออกจาก สภ.ห้วยยอด ไปตรวจค้นบ้านพักที่บ้านลำช้าง เพื่อหาหลักฐานต่างๆ โดยพบแหวนวงที่สวมใส่ ซึ่งนายวิษณุระบุว่า แหวนหัวแหลมทำให้ร่างกายผู้ตายเกิดแผล และตรวจค้นภายในรถมิตซูบิชิ ไทรทัน สีบรอนซ์เงิน เพื่อหาร่องรอยพยานหลักฐานภายในรถคันที่เกิดเหตุ จากนั้นตำรวจจึงคุมตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่บริเวณกลางสะพานคลองประดู่ แม่น้ำตรัง ซึ่งเป็นจุดเกิดเหตุ

ผู้ก่อเหตุ เล่าว่า ขับรถมาจอดบนสะพาน และถอดเสื้อผู้ตายออก รวมทั้งเสื้อชั้นใน เพื่อต้องการจะปั๊มหัวใจช่วยชีวิต เนื่องจากไม่กล้านำไปส่งโรงพยาบาลเพราะกลัวความผิด จากนั้นจึงเอาเสื้อกล้ามของตัวเองสวมใส่ให้ แล้วลากศพลงจากรถ นำขึ้นไปพาดกับราวสะพานแล้วผลักตกลงไปในแม่น้ำตรัง จากนั้นก็โยนเสื้อและเสื้อชั้นในของผู้ตายทิ้งน้ำตามลงไปด้วย

หลังทำแผนประกอบคำรับสารภาพแล้ว ทางตำรวจได้คุมตัวกลับไปที่ สภ.ห้วยยอด เพื่อสอบปากคำเพิ่มเติมต่อไป เพราะยังมีหลายประเด็นสงสัยในคำให้การ เบื้องต้น ตำรวจยังไม่ตั้งข้อกล่าวหา เพราะยังไม่มีการสอบสวนอย่างละเอียด รวมทั้งสอบพยานฝ่ายผู้ตายและผู้ต้องหา

ส่วนศพของนางพรทิพย์ ทางตำรวจจะส่งไปผ่าพิสูจน์ที่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ (ม.อ.)หาดใหญ่ เพื่อหาสาเหตุการตายที่แน่ชัด เพราะต้องทราบว่าผู้ตายเสียชีวิตก่อนที่จะถูกผลักร่างทิ้งแม่น้ำ หรือว่าสิ้นใจหลังจากนั้น หรือจากการจมน้ำ รวมทำตรวจสอบบาดแผลอย่างละเอียด และรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อประกอบสำนวนคดีเอาผิดผู้ก่อเหตุต่อไป สำหรับนางพรทิพย์ เคยแต่งงานมีลูกเกิดกับสามีเก่า จำนวน 3 คน จนกระทั่งมาคบกับนายเจได้ประมาณ 3-4 เดือน ก็มาถูกฆ่าตายดังกล่าว

นายอุทัย เทพธานี น้าชาย บอกว่า หลานสาวทำงานเป็นพนักงานบริษัท หลังจากปู่เสียชีวิตออกจากงาน ซึ่งคืนวันที่ 31 สิงหาคม ที่ผ่านมา นายเจ พร้อมกับหลานสาวของตนได้มาร่วมงานศพปู่ ซึ่งภายในวัดมีการจัดงานครบรอบ 22 ปี มรณภาพอดีตเจ้าอาวาส จนงานใกล้เลิกมีคนเห็นหลานสาวถูกนายเจลากตัวออกไปขึ้นรถกลับบ้าน และหลังจากนั้นก็ไม่ได้กลับบ้าน

นายอุทัย บอกว่า โทรหาหลานหลายครั้ง แต่ไม่มีคนรับสายจึงผิดสังเกต จนกระทั่งมีคนเห็นภาพข่าวทางหน้าเฟซบุ๊ค จึงได้รีบเดินทางมาดูศพ และเข้าพบตำรวจ ยืนยันว่าเป็นหลานสาว ซึ่งนายเจกับหลานสาวคบกันได้ประมาณ 3-4 เดือน โดยนายเจมีประวัติติดคุกมาแล้ว 2 ครั้ง และเพิ่งพ้นโทษออกมา ซึ่งหลานสาวมีลูกที่เกิดจากสามีเก่าจำนวน 3 คน ชาย 2 คน หญิง 1 คน