เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเย็นวานนี้ พ.ต.ท.อุดมศักดิ์ ศาลาจันทร์ สารวัตร(สอบสวน) สภ.สุวรรณภูมิ จ.ร้อยเอ็ด ได้รับแจ้งว่ามีการวางเพลิงเผาบ้านตนเองที่บ้านเลขที่ 9 หมู่ 1 บ้านห้างหว้า ต.หัวช้าง อ.สุวรรณภูมิ หลังรับแจ้งจึงประสานขอรถดับเพลิงจากหน่วยงานในท้องที่แล้วรุดไปยังที่เกิดเหตุพร้อมด้วยรถดับเพลิงจาก อบต.หัวช้าง อบต.ช้างเผือก อบต.สระตู และ ทต.จำปาขัน และหน่วยกู้ภัยฮุกสุวรรณภูมิ
ที่เกิดเหตุพบว่าเพลิงกำลังลุกไหม้ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงก็ระดมฉีดน้ำเพื่อดับเพลิงและป้องกันไม่ให้ลุกลามไปหลังอื่นอีก ซึ่งบ้านหลังดังกล่าวเป็นของนางอ่อนศรี นิลสระคู อายุ 60 ปี แต่เจ้าตัวไม่ได้อยู่บ้านไปทำงานรับจ้างที่กรุงเทพฯ ส่วนสามีก็ไปขับรถแท็กซี่ ปล่อยให้ลูกชายชื่อนายนรินทร์ นิลสระคู อายุ 30 ปี อยู่บ้านเพียงคนเดียว
จากนั้นเพลิงได้ยังลุกลามไปไหม้บ้านเลขที่ 7 หมู่ 1 ซึ่งเป็นบ้านของนายสมบูรณ์ ชุมสนาม อายุ 58 ปี ซึ่งอยู่ด้านหลัง วอดไปอีก 1 หลัง เจ้าหน้าที่ดับเพลิงใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงจึงควบคุมเพลิงไว้ได้ แต่ทรัพย์สินในบ้านทั้งสองหลังไม่สามารถเอาออกมาได้ส่วนค่าเสียหายต้องรอเจ้าของบ้านมาประเมินอีกครั้งหนึ่ง
จากการสอบสวนในเบื้องต้นทราบว่าสาเหตุเกิดจากการวางเพลิงบ้านตนเองของนายนรินทร์ นิลสระคู ลูกชายของนางอ่อนศรี ซึ่งติดยาบ้าอย่างหนัก โดยเพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้กันบอกว่าเห็นเพลิงลุกไหม้จากด้านบนของบ้านด้านทิศตะวันตก จากนั้นก็เห็นนายนรินทร์เดินออกมาจากบ้านอย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาวแล้วหลบหนีไป ซึ่งเมื่อคืนที่ผ่านมานายนรินทร์ก็ได้ก่อเหตุทุบขวดและแก้วหน้าบ้านเพื่อนบ้านที่อยู่ข้างเคียง แต่เพื่อนบ้านซึ่งเป็นญาติกันยังไม่แจ้งตำรวจเพราะรอจะพูดคุยกับพ่อแม่ของนายนรินทร์ให้หาทางนำตัวไปรักษาก่อน แต่แล้วนายนรินทร์ก็มาก่อเหตุซ้ำโดยจุดไฟเผาบ้านตนเองแล้วลุกลามไปไหม้บ้านญาติอีก 1 หลังก่อนหลบหนีไป ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ติดตามตัวมาสอบสวนต่อไป