เปิดวงจรปิดเผาบิ๊กซี “หอการค้ายะลา” เผยปมหลัง “BRN” อ้างระเบิด 17 จุด (คลิป)
เปิดกล้องวงจรปิดคนร้ายวางเพลิงบิ๊กซี พบคนร้ายใส่เสื้อ “BRN” ด้าน “หอการค้ายะลา” เปิดใจปมระเบิดป่วนใต้ 17 จุด หลังอ้าง “BRN” เป็นผู้ก่อเหตุเพื่อขับไล่นายทุนใหญ่
จากกรณีเหตุระเบิดและวางเพลิงร้านสะดวกซื้อในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนใต้กว่า 17 จุดในวันที่ 17 ส.ค. ที่ผ่าน ซึ่งเวลาต่อมา (18 ส.ค.) เพจเฟซบุ๊ก “BRN Barisan Revolusi Nasional Melayu Patani” ซึ่งเป็นเพจที่อ้างเป็นของ BRN ได้โพสต์ข้อความอ้างว่าเป็นผู้ก่อเหตุ โดยมีข้อความว่า ต้องขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ที่กองกำลัง BRN โจมตีสัญลักษณ์ของอำนาจทุนนิยมรัฐไทย ที่เข้ามาทำลายระบบเศรษฐกิจชุมชน ซึ่งเป็นกลุ่มอำนาจรายเดียวที่กำลังจะทำลายระบบเศรษฐกิจของชุมชน ทำให้ร้านค้าชุมชนเป็นจำนวนมากที่ต้องปิดตัวลง
โดยในประเด็นนี้ นายกันต์พงษ์ ลิ่มกาญจนา ประธานหอการค้าจังหวัดยะลา ได้เปิดใจว่า ยังไม่ทราบ แต่ถ้าดูจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นน่าจะมีส่วน ที่จะบ่งบอกได้ว่ามันก็เหมือนกับที่เขาออกมาระบุ แต่จะบอกชัดเจนนั้นเราในฐานะภาคเอกชนเราไม่สามารถจะชี้ชัดได้ ในส่วนของ ข้อเท็จจริง ต้องรอให้เจ้าหน้าที่ 3 ฝ่าย ทหาร ตำรวจและปกครองเป็นฝ่ายตรวจสอบดีกว่าเพราะถ้าเราภาคเอกชนไปชี้นำด้วยมันก็เหมือนกับไปสร้างแล้วไปทำลายเศรษฐกิจ
ร้านสะดวกซื้อแบรนด์ดังเขาได้ขายแฟรนไชส์มาให้กับผู้ประกอบการรายหนึ่งของจังหวัดยะลา ซึ่งธุรกิจนี้เขาได้ขายแฟรนไชส์มาเป็นระยะเวลานานพอสมควร แต่ธุรกิจของแฟรนไชส์แบรนด์ดัง เขาก็ขยายสาขาไปเรื่อยขยายอย่างไม่มีที่สิ้นสุด เพราะเขาถือว่าเป็นธุรกิจของเขา คนเราทำธุรกิจก็อยากจะให้ธุรกิจของตัวเองขยายเพื่อให้ตัวเองเติบโตได้เงินมาแบบเต็มเจ้าเดียวในพื้นที่
"วันนี้ก็คือเราจะเห็นได้ชัดเลยว่าเซเว่นเปิดทั่วพื้นที่ภาคใต้ โดยเฉพาะใน 3 จังหวัดซึ่งเป็นเจ้าของเดียวกัน นอกจากร้านสะดวกซื้อแบรนด์ดังเปิดแล้ว ยังมีกลุ่มทุนอีกกลุ่มหนึ่ง ลงมาสู้ ถามว่าแบบนี้ โชว์ห่วยในพื้นที่จะอยู่ได้ยังไง มันอยู่ไม่ได้ เพราะการที่ผู้ประกอบการรายใหญ่ ไม่ว่าจะทำอะไร ต้องคำนึงถึงโชว์ห่วยด้วย ถึงคุณไม่เปิดคุณก็ขายได้อยู่แล้ว ผู้ประกอบการโชว์ห่วยในพื้นที่ 3 จังหวัดก็ต้องวิ่งไปซื้อของคุณมา เข้าร้านอยู่แล้ว แต่ทำไมจะต้องให้ผู้ที่ได้รับสัมปทาน ขยายอาณาจักรจนไม่มีที่สิ้นสุด"
"อยากถามผู้ประกอบการธุรกิจร้านสะดวกซื้อ และ ห้างสรรพสินค้า ว่าทำไมพวกคุณไม่เห็นใจโชว์ห่วยบ้าง คุณขยายจนโชว์ห่วยไม่มีที่ยืนพอมีปัญหาอย่างนี้ขึ้นมา BRN ออกมาแถลงการณ์ ผมก็เหมือนจะคล้อยตามแต่ก็ไม่อยากจะไปเจาะจงว่าจริงหรือไม่"
"อย่าว่าแต่โชว์ห่วยไม่ว่าธุรกิจอะไรก็แล้วแต่ถ้าทุกคนทำอะไร จนระดับรากหญ้าไม่มีที่ยืน ผมคิดว่าวันหนึ่งมันก็เกิดปัญหาเหมือนอย่างที่มันเกิดขึ้น มันเป็นสัจธรรมจริงๆ และ แต่ถ้าโชว์ห่วยเปิดขายไม่ได้ เลย เซเว่นเปิดพักเดียวไม่มีที่สิ้นสุดว่าจะหยุดเมื่อไหร่ ปัญหามันเกิดแน่นอนและเป็นปัญหาใหญ่ด้วย"
"ลองคิดง่ายๆร้านแบรนด์ดังใหญ่ๆ กอดเงินสดวันละแสน 1 เดือน 3 ล้าน แล้วสามจังหวัดชายแดนภาคใต้มีร้านสะดวกซื้อแบรนด์ดังเปิดเกือบ 200 แห่ง เขากอดเงินสดวันนึง เป็น 10 ล้านๆ แล้วดอกเบี้ยที่ได้ส่วนต่างนี้อีก เขาไม่ต้องเอากำไรจากค้าขายหรอก เขาเอากำไรจากส่วนต่างตรงนี้ก็ได้เยอะมากแล้ว ก็เลยทำให้เขาขยายกิจการอยู่เรื่อย"
"ร้านแบรนด์ดังมีทุกซอกทุกมุม ในยะลา หน้าบ้านผม ตรงข้ามบ้านผม มีเต็มไปหมดทั้งๆที่ไม่น่าจะเปิดแต่เขาถือว่าเขาได้เงิน ไม่ให้เข้าโชว์ห่วยขายได้เลย อยากจะฝากว่าถ้า BRN ออกมาเตือนจะจริงหรือไม่จริง แต่ร้านสะดวกซื้อแบรนด์ดังก็ต้องทบทวนบทบาทตัวเองแล้ว" นายกันต์พงษ์กล่าว
เปิดกล้องวงจรปิดคนร้ายวางเพลิงบิ๊กซี
ขณะที่กล้องวงจรปิดที่อยู่ด้านหน้าและข้างในของร้านสะดวกซื้อมินิบิ๊กซี 1 ใน 17 แห่ง ได้จับภาพชัดเจนในขั้นตอนการก่อเหตุของกลุ่มคนร้ายที่เข้ามาลอบวางเพลิงทอย่างละเอียด โดยเวลาประมาณ 00.06 น.ของวันที่ 17 ส.ค.65คนร้ายคนร้าย 3 คน ได้ขี่รถจักรยานยนต์ 1 คัน โดย 2 คนแรกได้ใส่ชุดเครื่องแบบของกลุ่มบีอาร์เอ็น โดยมีการติดธงของกลุ่มขบวนการไว้ที่แขนซ้าย
ส่วนคนร้ายคนที่ 3 ใส่ชุดดำ พร้อมด้วยอาวุธสงคราม เมื่อมาถึงคนร้ายก็แยกย้ายโดยคนใส่ชุดดำเดินแยกออกไปเพื่อดูต้นทาง ส่วนคนร้ายอีก 2 คน เดินเข้าไปในร้าน พร้อมทั้งถือขวดบรรจุน้ำมัน และที่จุดไฟเข้าไปในร้าน ซึ่งขณะนั้นมีพนักงานกำลังจัดเตรียมสินค้าภายในร้านอยู่ 3 คน
จากนั้นคนร้ายได้เดินมายังพนักงาน และบอกให้ทุกคนรีบออกไปจากร้าน จากนั้นคนร้ายได้ใช้น้ำมันที่บรรจุอยู่ในขวด ราดไปยังชั้นวางสินค้า จากนั้นคนร้ายอีกคน ได้ใช้ไฟแช็คจุดที่ไม้พันผ้า เพื่อให้เกิดไฟ และเพื่อง่ายต่อการวางเพลิง คนร้ายได้จุดไฟที่ชั้นวางสิ้นค้า จนเกิดเพลิงไหม้อย่างหนัก ก่อนที่คนร้ายจะหลบหนีไป
สำหรับการก่อเหตุ ทั้ง 17 จุดในครั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคง คาดว่าในแต่ละจุดมีคนร้ายที่เข้าก่อเหตุประมาณ 4-5 คน โดยแบ่งเป็น คนร้ายเฝ้าดูต้นทางทั้งในที่เกิดเหตุ และ ตามเส้นทาง คนร้ายที่เข้าก่อเหตุ โดยทั้ง 17 จุด ทั้ง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ มีคนร้ายก่อเหตุคาดว่า ไม่ต่ำกว่า 70 คน เพราะคนร้ายใช้ช่วงเวลาเดียวกันในการก่อเหตุ
