พี่ชาย "น้องอาย" เศร้าครอบครัวทำใจไม่ได้ เผยลางบอกเหตุก่อนเสียชีวิต

จากกรณีอุบัติเหตุรถทัวร์เฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์ จนทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย และเสียชีวิต 1 ราย บริเวณสามแยกหน้าคณะเภสัชศาสตร์ ม.ขอนแก่น เมื่อวันที่ 10 ส.ค.ที่ผ่านมา ทราบชื่อผู้เสียชีวิตคือ “น้องอาย” นศพ.อรุณนภา วัฒนพานิช นักศึกษาชั้นปีที่ 2 คณะแพทยศาสตร์ ส่งผลให้โลกโซเชียลต่างแสดงความเสียใจและแห่ไว้อาลัย “น้องอาย”

ล่าสุด (11 ส.ค.65) นายวีรวัฒน์ ยุกติรัตน์ อายุ 29 ปี พี่ชายผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่าวันนี้ได้มาติดตามความคืบหน้าของคดี และอยากให้ทางมหาวิทยาลัย คณะอาจารย์ เข้ามาพูดคุยกันเพื่อหาทางออก และแสดงความรับผิดชอบ และหาทางป้องกัน ไม่ให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นซ้ำรอยเหมือนกับที่เกิดขึ้นกับน้องสาวอีก

นายวีรวัฒน์ ยุกติรัตน์ กล่าวว่า  ในวันที่น้องสาวเสียชีวิต วันนั้นอยู่ดีๆ แม่ก็อยากเก็บของน้อง ที่เป็นพวกเสื้อผ้าไปบริจาค  มีทั้งเสื้อผ้าตอนวัยเด็ก เสื้อสมัยอนุบาล วัยประถม แม่บอกว่าเซฟรูปน้องไว้  ซึ่งปกติแกชอบถ่ายรูปอยู่แล้วแต่จะไม่ค่อยมาดูย้อนหลังแบบนี้  คือคุณแม่มาย้อนดูภาพน้องที่เคยถ่ายไว้  แม่ก็บอกอีกว่าก่อนหน้านี้แม่จะไปส่งน้องสาวคนโต ที่ จ.ลำปางคุณ ซึ่งช่วงวันที่เก็บของในห้องน้องคนที่เสียชีวิตก็เกิดไฟดับขึ้นแต่แม่ก็ไม่ได้คิดอะไรมากจนกระทั่งเกิดเหตุสลดดังกล่าวขึ้น

ส่วนเรื่องคดีความ เท่าที่คุยกับทางครอบครัว ก็ติดใจในเรื่องของอุบัติเหตุที่เกิดในรั้วมหาวิทยาลัยและคู่กรณีก็เป็นบุคลากรของทางคณะ ที่สังกัดในมหาวิทยาลัยด้วยทำให้ติดใจในเรื่องของการเกิดอุบัติเหตุอย่างไร   วันนี้จึงเข้ามาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ สภ.เมืองขอนแก่น ก็ได้สอบถามถึงการสอบปากคำเบื้องต้นกับทางคู่กรณี  โดยครอบครัวได้ปรึกษากันว่า คู่กรณีที่เป็นบุคลากรและสังกัดในคณะ จะมีเรื่องของการเยียวยาและความรับผิดชอบ อย่างไร

เท่าที่ทราบคือในช่วงเกิดเหตุช่วงเช้า  น้องกำลังจะเดินทางไปเรียน  ก็ไปกับเพื่อนที่เป็นรูมเมทเรียนอยู่ที่คณะแพทย์ทั้ง 2 คน  ระหว่างที่กำลังจะไปเรียน ช่วงบริเวณที่เกิดเหตุเป็นทางสามแยกพอดี  ลักษณะของการเดินทางคือน้องจอดรอรถตรงทางที่เป็นตัวที  อยู่ตรงกลางแล้วจะเลี้ยวขวาไปทางคณะแพทย์ ส่วนรถของคู่กรณีจะมาทางจากคณะสถาปัตย์ เพื่อที่จะเลี้ยวขวาไปทางคณะพยาบาล    เหตุการณ์คือระหว่างนั้น ช่วงเช้าจะมีรถเยอะมาก ก็จะมีเจ้าหน้าที่จราจรด้วย จังหวะที่รถกำลังไหลไปตอนนั้นน้องยังไม่ถึงที่เกิดเหตุ    พอรถเริ่มไหลไปจนเกือบหมด  หลังจากนั้นน้องก็ขับมาถึงที่เกิดเหตุมาจอดรอเพื่อจะเลี้ยวขวา ระหว่างนั้นรถบัสก็ตามมาพอดีอาจจะไม่ทันได้เห็นก็เลยชนกับน้อง

เหมือนมาย้อนดูภาพน้องที่เค้าถ่ายไว้ ตอนไปส่งน้องที่มหาวิทยาลัย มีช่วงที่แบบก่อนหน้านี้ เค้าจะไปส่งน้องสาวคนโตที่ลำปางครับ คือคุณแม่จะไปส่ง ขับรถไปส่ง ช่วงวันที่เก็บของเนี่ยเค้าบอกว่าไฟดับ ไฟห้องน้องเขามันดับ มันดับแบบริบหรี่ แกบอกก็ไม่ได้คิดอะไร 

เบื้องต้นอยากให้ทางมหาวิทยาลัยออกมาพูดคุยกับทางครอบครัวซึ่งก็ได้มีการพูดคุยกับทางคณะอาจารย์บ้างแล้วทั้ง2 คณะ คือคณะแพทยศาสตร์และคณะพยาบาลเบื้องต้นก็มีการแสดงความเสียใจกันแล้ว  แต่ว่าต้องดูข้อมูลต่อว่าทางนั้นจะมีความรับผิดชอบอย่างไรออกมาบ้าง  ก็อาจจะมีการพูดคุย แต่คงให้ทางพิธีกรรมน้องเสร็จเรียบร้อยก่อน   หลังจากนั้นจะมีการนัดมาพูดคุยกันอีกตนั้งหนึ่ง แต่อาจจะเป็นเรื่องของคดีทางแพ่ง

“ผมก็เป็นนักศึกษาของมหาวิทยาลัยนี้เหมือนกัน คือเห็นเหตุการณ์ลักษณะนี้มานานแล้ว จึงเกิดความสงสัยว่าที่ผ่านมามันเกิดจากอะไรกันแน่ เกิดจากพฤติกรรมของคนขับ หรือเกิดจากการออกแบบถนนหนทางภายในมหาวิทยาลัย เพราะว่าจริงๆพื้นที่ในมหาวิทยาลัยควรจะเป็นพื้นที่ปลอดภัยสำหรับนักศึกษา. แล้วช่วงเกิดเหตุก็เป็นช่วงที่น้องกำลังจะไปเรียนด้วย. พวกเราก็สะเทือนใจในจุดนี้ว่าน้องเป็นเด็กตั้งใจ และเท่าที่ทราบมาจุดบริเวณที่เกิดเหตุในวันก่อนหน้านั้นก็เกิดเหตุการณ์มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นไม่ต่ำกว่า 3 ครั้งในจุดเดียวกันจุดเดิมด้วย ก็อาจจะเป็นรถล้มเฉี่ยวชนอุบัติเหตุเล็กน้อย อาจไม่ถึงขั้นกับเสียชีวิต ส่วนพื้นที่บริเวณอื่นๆตั้งแต่วงเวียนคณะมนุษยศาสตร์ ก็พบเห็นบ่อย จึงอยากรู้ว่ามีการออกแบบถนนที่ไม่ค่อยปลอดภัยหรือเปล่า ก็ต้องศึกษากันต่อไป เบื้องต้นเราก็รู้สึกว่าเหตุการณ์แบบนี้ไม่ควรจะเกิดในมหาวิทยาลัย”