
26 ธันวาคม 2568 สถาบันพระปกเกล้า เปิดเผยผลสำรวจ เรื่อง “เสียงในหัวประชาชนกับการเมืองช่วงเปลี่ยนผ่าน” โดย รองศาสตราจารย์ ดร.อิสระ เสรีวัฒนวุฒิ เลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า ในฐานะประธานศูนย์ KPI Poll มอบนโยบายสำคัญในการทำ KPI Poll ให้เป็นโพลเชิงวิชาการที่ออกแบบมาเพื่อสะท้อนความจริงทางการเมืองด้วยความ “เป็นกลาง เป็นจริง เป็นประโยชน์” มีมาตรฐานวิชาการและความแม่นยำ ไม่มุ่งเน้นให้เกิดการชี้นำการเมือง แต่จัดทำเพื่อ “ฟัง”การเมืองจากเสียงของประชาชน
โดยให้ข้อมูลจาก KPI Poll เป็นฐานความรู้สำคัญสำหรับนักการเมือง พรรคการเมือง นักวิชาการ และสาธารณชนในการทำความเข้าใจภูมิทัศน์ความรู้สึกและความคาดหวังของประชาชนอย่างรอบด้าน เพื่อทำหน้าที่เป็น “คลังสมองทางประชาธิปไตย” ของสังคมไทยอย่างแท้จริง
การแถลงผลการสำรวจ KPI Poll ครั้งที่ 2 ที่ศูนย์ฯ ได้ทำการสำรวจ ระหว่างวันที่ 30 พ.ย. - 10 ธ.ค. 2568 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป กระจายตามภูมิภาคทั่วประเทศ จำนวน 2,016 ตัวอย่าง โดยมีบทสรุปสำคัญจากผลสำรวจ ดังนี้
1. รัฐบาลยังมีฐาน แต่การเมืองไทยกำลังแตกเป็นหลายรสนิยม
• ประชาชนร้อยละ 42.6 "ไม่ค่อยพอใจ " ส่วน ประชาชนร้อยละ 28.1 “พึงพอใจ” ต่อการทำงานของรัฐบาลชุดที่ผ่านมา สะท้อนว่ารัฐบาลยังคงมีฐานความพึงพอใจในระดับหนึ่ง แม้เสียงไม่พอใจจะยังเป็นเสียงส่วนใหญ่
➡ ประชาชนเน้น “การจับต้องได้ของผลงาน” โดยเฉพาะเรื่องชีวิตความเป็นอยู่ในขณะนั้น (มีภัยพิบัติ และปัญหาชายแดนที่ยังไม่คลี่คลาย)
2. มิติภูมิภาค: อีสานคือฐานหลัก เมืองใหญ่ยังต้องพิสูจน์
• อีสาน (10.8%) ยังคงเป็นพื้นที่ที่มีความพึงพอใจสูงสุด
• ภาคกลาง (5.4%) และภาคใต้ (5.3%) อยู่ในระดับใกล้เคียงกัน
➡ รัฐบาลมีความได้เปรียบในพื้นที่ที่นโยบาย “เข้าถึงชีวิตจริง” แต่ในหัวเมืองและภาคใต้ โจทย์ไม่ใช่เรื่องอุดมการณ์ หากคือการสร้างผลลัพธ์ที่ “ตอบโจทย์บริบทเฉพาะพื้นที่” มากขึ้น
3. มิติช่วงอายุ: รุ่นใหญ่หนุน เสาหลักเศรษฐกิจยังลังเล
• 56 ปีขึ้นไป (10.6%) พึงพอใจรัฐบาลสูงสุด
• 46–55 ปี (7%) ยังเป็นแรงหนุนสำคัญ และ 36–45 ปี (4%) ต่ำสุดในกลุ่มหลัก
➡ รัฐบาล “สื่อสารได้ดี” กับคนรุ่นใหญ่ แต่ยังต้องสร้างความเชื่อมั่นกับคนวัยทำงาน ซึ่งเป็นกลุ่มที่เผชิญแรงกดดันค่าครองชีพและเศรษฐกิจโดยตรงมากที่สุด
4. การเมืองเชิงพื้นที่: 3 บุคลิก 3 พื้นที่
• รสนิยมการเมืองไม่ได้รวมศูนย์ แต่กระจายตามภูมิศาสตร์อย่างชัดเจน
• ภาคเหนือ และ กรุงเทพฯ อยากฟัง “ณัฐพงษ์”: ความหวังต่อการเปลี่ยนแปลง
• ภาคใต้ และ ภาคกลาง อยากฟัง “อภิสิทธิ์”: มาตรฐาน วุฒิภาวะ และวาทศิลป์
• ภาคอีสาน อยากฟัง ใครก็ได้ และ “อนุทิน”: ยังไม่มีใครโดดเด่น เปิดพื้นที่ รอฟังผลงาน
➡ เชิงพื้นที่ไม่ใช่การแบ่งขั้วแบบแข็ง แต่คือการสะท้อนว่า “ประชาชนแต่ละพื้นที่คาดหวังผู้นำไม่เหมือนกัน”
5. การเมืองเชิงช่วงอายุ: เวทีเดียว หลายความหวัง
• 18–35 ปี อยากฟัง “ณัฐพงษ์” มากที่สุด➡พูดภาษาเดียวกัน หวังความเปลี่ยนแปลง
• 36–55 ปี อยากฟัง “อนุทิน” มากที่สุด➡มองหาความสมดุล ไม่สุดโต่งเกินไป
• 56 ปีขึ้นไป อยากฟัง “อภิสิทธิ์” มากที่สุด➡ประสบการณ์ ความน่าเชื่อถือ
➡ ดีเบตทางการเมืองในวันนี้ ไม่ใช่เวทีตัดสินแพ้–ชนะ แต่เป็นเวทีสะท้อน “โจทย์ชีวิตของแต่ละเจเนอเรชัน”
📍 บทสรุปและข้อเสนอแนะจากการแถลงผล KPI Poll ครั้งที่ 2
ก่อนเข้าสู่การเลือกตั้งครั้งใหม่ ผลโพลสะท้อนว่า การเมืองไทยกำลังเดินเข้าสู่ยุคที่ประชาชนคิดต่างอย่างมีเหตุผล และเลือกฟังในแบบที่ตอบโจทย์ชีวิตของตนเอง ประชาชนไม่ได้ปฏิเสธการเมือง แต่ปฏิเสธ “การเมืองที่ไม่ตอบชีวิตจริง” ผู้นำหรือพรรคการเมืองที่ต้องการได้เปรียบต้อง
✔️ สามารถเชื่อมโยงนโยบายกับชีวิตประจำวันได้
✔️วางยุทธศาสตร์การสื่อสารที่มีความต่างกันตามรุ่นและพื้นที่
✔️ใช้เวทีดีเบตเป็นพื้นที่สร้างความเชื่อมั่น ไม่ใช่เพียงการโจมตี
📊 KPI Poll – คลังความคิดจากเสียงประชาชน
เพื่อประชาธิปไตยที่ตั้งอยู่บนความจริง ไม่ใช่ความรู้สึก
รายละเอียดเพิ่มเติมติดตามได้ที่ https://kpi.ac.th/wp-content/uploads/2025/12/รายละเอียดผล-KPI-Poll_02-แถลงครั้งที่สอง-สมบูรณ์.pdf
#KPIPoll #KPI #สถาบันพระปกเกล้า
https://kpipoll.kpi.ac.th/