“ทนายบิลลี่” มุดมุ้งเพื่อไทย หยอดเป็นสถาบันการเมือง ปัดขัดแย้ง ก้าวไกล

10 พฤศจิกายน 2565 ที่พรรคเพื่อไทย นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรค  นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด ประธานคณะกรรมการประสานงานด้านการเมืองพื้นที่ กทม. และแกนนำกรรมการบริหารพรรค ร่วมกันแถลงเปิดตัว นายจิรวัฒน์ อรัณยกานนท์ หรือ ทนายบิลลี่ เข้าสมัครเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย หลังลาออกจากพรรคก้าวไกล เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา

นายแพทย์ชลน่าน ได้กล่าวต้อนรับ นายนายจิรวัฒน์ และขอบคุณที่ตัดสินใจเข้าเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย ซึ่งพรรคต้องการคนที่มีความรู้ ความสามารถ เข้าถึง เข้าใจประชาชนในพื้นที่อยู่แล้ว และนายจิรวัฒน์ ส่วนตัวเคยทำงานร่วมกันในสภาฯ เห็นว่า เป็น ส.ส. ที่ไฟแรง มีบทบาทโดดเด่นในสภาฯ

เชื่อจะเป็นกำลังสำคัญให้พรรคไปสู่เป้าหมายแลนสไลด์ ส่วนจะเป็นว่าที่ ส.ส. หรือไม่นั้น พรรคจะต้องดำเนินการตามขั้นตอน เพื่อให้ได้ผู้สมัครที่เข้าถึง เข้าใจ บอกกล่าวประชาชนและรับข้อเสนอแนะจากประชาชนกลับมายังพรรค เพื่อให้ได้รับความเชื่อมั่นจากประชาชน

ขณะที่พื้นที่ กทม. เป็นพื้นที่การแข่งขันสูง ตัวผู้สมัครของพรรคต้องสื่อสาร เข้าถึงประชาชน ต้องมีเครือข่ายทำงานในพื้นที่ได้อย่างเข้มแข็ง รวมถึงต้องมีกระแสตอบรับจากประชาชน ซึ่งพรรคมั่นใจว่า ถ้าได้บุคลากรที่มีความรู้ ความสามารถ จะสามารถตอบสนองกับวัตถุประสงค์ของพรรค ในการนำพาประเทศชาติออกจากวิกฤต นำประชาชนไปสู่อนาคตที่ดี มีความหวังได้

ด้านนายจิรวัฒน์ ได้กล่าวขอบคุณพรรคเพื่อไทย ในการต้อนรับอย่างอบอุ่น ก่อนขอบคุณพรรคอนาคตใหม่ และพรรคก้าวไกล ที่ให้โอกาสทำงานการเมือง โดยเฉพาะบทบาทในสภาผู้แทนราษฎร มีโอกาสในการร่วมอภิปรายไม่ไว้วางใจ และการมีส่วนร่วมกับการพิจาณาแก้ไขรัฐธรรมนูญ

สำหรับวันนี้ (10 พ.ย.) ตนเข้ามาสมัครเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย หลังจากนี้คงต้องเข้าสู่กระบวนการคัดสรรตามระเบียบพรรค ถึงความเป็นไปได้ในการเป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคต่อไป อีกทั้งยังสนใจช่วยพรรคด้านกฎหมายที่ตนมีประสบการณ์
 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :

• "ทนายบิลลี่"ขอลาก้าวไกลชี้บ้านใหม่ต้องมีอุดมการณ์ไม่ต่างจากหลังเดิม

• ส.ส.กทม.“ทนายบิลลี่” รับ ไม่ไปต่อกับ"ก้าวไกล"

นอกจากนี้ยังมองว่า พรรคเพื่อไทย เป็นสถาบันการเมืองที่พิสูจน์กับประชาชนมาตลอดหลายสิบปี ท่ามกลางแรงกดดันต่างๆมากมาย พรรคเพื่อไทยในอดีตกับปัจจุบันแตกต่างกัน มีการปรับตัวได้อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะการให้ความสำคัญกับประชาชนคนรากหญ้า 

การลาออกจากพรรคก้าวไกล ตนได้คุยกับผู้ใหญ่ในพรรคแล้ว มองว่า การเปลี่ยนแปลงโยกย้ายเป็นเรื่องปกติ ในการเลือกตั้งครั้งหน้า ต้องยอมรับว่า เป็นเรื่องความนิยมของประชาชน โดยเฉพาะตัวผู้นำ นโยบาย

ทั้งนี้การมาร่วมงานกับพรรคเพื่อไทย จะไม่กระทบกับการทำงานร่วมกับพรรคก้าวไกล และการย้ายพรรค ไม่ใช่เพราะการเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 112 แต่มองว่า ทุกมาตราสามารถแก้ไขได้ แต่ต้องดูองค์ประกอบโดยรวมด้วย หากทุกฝ่ายเห็นตรงกันก็ต้องเป็นไปตามเสียงข้างมาก