"สนธิรัตน์"ย้ำจุดยืนสร้างอนาคตไทยเป็นขั้วที่ 3 หาทางออกให้ประเทศ

9 พฤศจิกายน 2565 "นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์" เลขาธิการพรรคสร้างอนาคตไทย เปิดเผยถึงทิศทางการเมืองหลังการประชุมเอเปค โดยเฉพาะการตัดสินใจของนายกฯในการยุบสภา ว่า อาจจะมีสถานการณ์เกิดขึ้นได้หลายรูปแบบหลังเอเปค เพราะเป็นปลายสมัยของรัฐบาลและปลายสมัยของสภาผู้แทนราษฎร

"เราจะเห็นการเข้าออกของบุคคลสำคัญ หรือการควบรวมระหว่างพรรคการเมือง การเคลื่อนย้ายของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เป็นสิ่งที่อาจนำไปสู่โอกาสของการยุบสภาหลังเอเปค การเคลื่อนย้าย ส.ส. จะเกิดขึ้นทุกพรรคซึ่งเป็นปกติของการเมืองช่วงรอยต่อ"นายสนธิรัตน์ กล่าว 

ส่วนหลายพรรคการเมืองขนาดกลางอยากดึงตัว "พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา" มาร่วมงานนั้น ซึ่งทางพรรคสร้างอนาคตไทย มีเป้าหมายชัดเจนในการเข้ามาเป็นขั้วที่ 3 ทางการเมือง เพื่อเป็นทางเลือกให้กับประชาชน ดังนั้น พรรคยังมีจุดยืนเช่นที่เป็นอยู่ และจะรณรงค์ให้ประชาชนมีทางเลือกใหม่ที่แตกต่างจากขั้วเดิมที่มีอยู่

"พรรคยินดีกับทุกฝ่ายที่จะเข้าสู่การเลือกตั้ง แต่ในจุดยืนของพรรคสร้างอนาคตไทย ยังยืนยันจุดยืนเพื่อเป็นทางเลือก ทางออกในขั้วที่ 3" เลขาธิการพรรค ระบุ

สำหรับท่าที พล.อ.ประยุทธ์ และ "พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ" รองนายกฯ ที่ขณะนี้ดูมีความตรึงเครียดนั้น ส่วนตัวคิดว่า น่าจะคุยได้กันไม่มีอะไร ในการทำงานก็มีคิดต่างกันบ้าง แต่จากที่ฟังนายกฯให้สัมภาษณ์เมื่อวานนี้ (8พ.ย.) คิดว่าไม่มีอะไร

เมื่อถามว่า ช่วงนี้มีผลโพลสำรวจความคิดเห็นออกมาเรื่อยๆ พรรคสร้างอนาคตไทยจะนำมาปรับใช้อย่างไรกับการเลือกตั้ง นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า ผลโพลก็เป็นข้อมูลที่ทางพรรคนำมาใช้ประกอบการทำงานของพรรค ขณะเดียวกันพรรคก็ทำโพลเช่นเดียวกันในประเด็นที่พรรคสนใจ