สภาเดือด! ส่อดันวาระชี้ชะตาโหวตร่าง กม.กัญชา วันนี้

9 พฤศจิกายน 2565 แม้นายชินวรณ์  บุญยเกียรติ  รองประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล หรือวิปรัฐบาล  จะออกมาแถลงผลการประชุมวิปรัฐบาลเมื่อวันที่  7 พ.ย.ที่ผ่านมาว่า  การพิจารณาร่าง พ.ร.บ.กัญชา อาจนำเข้าสู่ที่ประชุมสภาหลังการประชุมเอเปค ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณประวิงเวลาชี้ชะตาร่างกฎหมายนี้ ที่ยังมีความเห็นไม่ลงรอยกันอยู่ของทั้ง ส.ส.ในพรรคร่วมรัฐบาล รวมถึง ส.ส.พรรคฝ่ายค้าน ที่มีต่อพรรคภูมิใจไทย 

แต่อย่างไรก็ตาม หากตรวจดูรายงาน สรุปผลการประชุมวิปรัฐบาล วันจันทร์ที่ 7 พ.ย. 65 กลับพบว่า มีการบรรจุระเบียบวาระร่างพ.ร.บ.กัญชา ไว้ในการประชุมสภาฯ วันนี้ ( 9 พ.ย.65 )  ซึ่งสอดรับกับที่เนชั่นทีวี ได้สอบถามแหล่งข่าวในที่ประชุมสภาฯ ว่า อาจมีการนำร่าง พ.ร.บ.กัญชา เข้าสู่การลงมติ ในวันนี้ (9 พ.ย.65) แต่คงต้องมีการอภิปรายกันอย่างดุเดือดก่อน และแนวโน้มการเช็คเสียงลงมติ ณ ช่วงเช้า เป็นไปอย่างสูสี

เปิดผลสรุปการประชุมสภาผู้แทนราษฎรในวันพุธที่ 9 พ.ย.65  เห็นว่า  วาระ ร่าง พ.ร.บ.กัญชา อยู่ที่วาระ 1.2.3 ร่างพระราชบัญญัติกัญชา-กัญชง ซึ่งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาเสร็จแล้ว มติเห็นชอบตามกรรมาธิการเสียงข้างมาก  เห็นชอบวาระที่สาม และเห็นชอบกับข้อสังเกต

มีรายละเอียดวาระ ดังนี้  1.1 หลังจากจบเรื่องปรึกษาหารือของสมาชิก ที่ประชุมพิจารณาเรื่องที่ที่ประชุมเห็นชอบให้เลื่อนขึ้นมาพิจารณาก่อนดังนี้

1.1.1 พระราชกำหนดผ่อนผันให้กระทรวงการคลังค้ำประกันการชำระหนี้ของสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. 2565 (คณะรัฐมนตรี เป็นผู้เสนอ) มติอนุมัติ พระราชกำหนด

1.1.2 ร่างพระราชบัญญัติการแลกเปลี่ยนข้อมูลเพื่อปฏิบัติตามความตกลงระหว่างประเทศเกี่ยวกับภาษีอากร พ.ศ. .... (คณะรัฐมนตรี เป็นผู้เสนอ) มติรับหลักการและตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญ จำนวน 25 คน (ครม. 5 /ส.ส. 20) กำหนดแปรญัตติ 15 วัน

 1.2 ที่ประชุมพิจารณาเรื่องที่คณะกรรมาธิการพิจารณาเสร็จแล้ว

1.2.1 ร่างพระราชบัญญัติการเข้าชื่อเพื่อถอดถอนสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. .... ซึ่งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติการเข้าชื่อเสนอข้อบัญญัติท้องถิ่น พ.ศ. .... พิจารณาเสร็จแล้ว มติเห็นชอบตามกรรมาธิการเสียงข้างมาก  เห็นชอบวาระที่สาม และเห็นชอบกับข้อสังเกต

1.2.2 ร่างพระราชบัญญัติการขนส่งทางราง พ.ศ. .... ซึ่งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาเสร็จแล้ว มติเห็นชอบตามกรรมาธิการเสียงข้างมาก  เห็นชอบวาระที่สาม และเห็นชอบกับข้อสังเกต

 1.2.3 ร่างพระราชบัญญัติกัญชา กัญชง พ.ศ. .... ซึ่งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาเสร็จแล้ว มติเห็นชอบตามกรรมาธิการเสียงข้างมาก  เห็นชอบวาระที่สาม และเห็นชอบกับข้อสังเกต

2. การประชุมสภาผู้แทนราษฎร ในวันพฤหัสบดีที่ 10 พ.ย. 65

 2.1 หลังจากจบเรื่องปรึกษาหารือของสมาชิก และวาระกระทู้ถามแล้ว ที่ประชุมพิจารณาเรื่องที่ที่ประชุมเห็นชอบให้พิจารณาเป็นเรื่องด่วน ดังนี้

 2.1.1 ญัตติด่วน เรื่อง ปัญหาสำคัญของประเทศที่จำเป็นต้องได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วน

เรื่อง ปัญหาอุทกภัย และปัญหาการกราดยิงที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก จังหวัดหนองบัวลำภู (นายชลน่าน ศรีแก้ว เป็นผู้เสนอ) มติเห็นชอบ ส่งรัฐบาลพิจารณาดำเนินการต่อไป

2.1.2 ญัตติด่วน เรื่อง ขอให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในภาคอีสาน โดยเฉพาะจังหวัดอุบลราชธานี ยโสธร อำนาจเจริญ ศรีสะเกษ อย่างเป็นระบบและยั่งยืน (นายสุทัศน์ เงินหมื่น และนายวุฒิพงษ์ นามบุตร เป็นผู้เสนอ) มติ เห็นชอบ ส่งรัฐบาลพิจารณาดำเนินการต่อไป

2.1.3 ญัตติด่วน เรื่อง ขอให้พิจารณาศึกษาปัญหาการก่อเหตุกราดยิงหมู่ที่จังหวัดหนองบัวลำภู และหาแนวทางแก้ไข (นายสุทัศน์ เงินหมื่น เป็นผู้เสนอ) มติ เห็นชอบ ส่งรัฐบาลพิจารณาดำเนินการต่อไป

2.1.4 ญัตติด่วน เรื่อง ปัญหาน้ำท่วมในจังหวัดศรีสะเกษ โดยขอให้ส่งรัฐบาลแก้ไขปัญหาโดยเร่งด่วน (นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ เป็นผู้เสนอ) มติ เห็นชอบ ส่งรัฐบาลพิจารณาดำเนินการต่อไป

2.1.5 ญัตติด่วน เรื่อง ขอให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่ภาคกลาง โดยขอให้ส่งรัฐบาลแก้ไขปัญหาโดยเร่งด่วนมติ เห็นชอบ ส่งรัฐบาลพิจารณาดำเนินการต่อไป

2.1.6 ญัตติด่วน เรื่อง ขอให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาแก้ไขและเยียวยาปัญหาน้ำท่วม ทั้งระยะสั้นและระยะยาว

2.1.7 ญัตติด่วน เรื่อง ขอให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาการป้องกันและปฏิรูปตำรวจและระบบราชการเพื่อป้องกันการกราดยิงที่เกิดขึ้นลักษณะเดียวกันกับที่จังหวัดหนองบัวลำภู (นายรังสิมันต์ โรม เป็นผู้เสนอ) มติ เห็นชอบ ส่งรัฐบาลพิจารณาดำเนินการต่อไป

 2.1.8 ญัตติด่วน เรื่อง ขอให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาแก้ไขและเยียวยาปัญหาอุทกภัยในพื้นที่ทุ่งรับน้ำลุ่มต่ำเจ้าพระยาตอนล่างและแม่น้ำท่าจีน

 2.1.9 ญัตติด่วน เรื่อง ขอให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาศึกษาถอดบทเรียนจากเหตุกราดยิงที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก จังหวัดหนองบัวลำภู โดยการแก้ปัญหาการบำบัดสารเสพติดสุขภาพจิต ให้มีประสิทธิภาพอย่างเป็นระบบ ครบวงจร ครอบคลุมทุกท้องถิ่น ทุกองค์กร ทั้งภาครัฐ และภาคเอกชน ทั่วประเทศ ลดอันตรายแบบองค์รวม ให้แก่สังคมไทย