"สมคิด"ได้ข่าวมีซื้อเสียงแนะปชช.รับได้แต่อย่าเลือกเพราะเข้าไปถอนทุน

4 พฤศจิกายน 2565 "นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์" ประธานพรรคสร้างอนาคตไทย พร้อมด้วย "นายสนธินัตน์ สนธิจิรวงศ์" เลขาธิการพรรค และ "นายสุพล ฟองงาม" ประธานภาคอีสาน ลงพื้นที่พบปะตัวแทนกลุ่มเกษตรกร ตัวแทนคณะกรรมการกองทุนหมู่บ้าน และตัวแทนผู้นำชุมชน จาก อ.วารินชำราบ และ อ.สว่างวีระวงศ์ จ.อุบลราชธานี ประมาณ 100 คน ณ บ้านสวนพอเพียง ซึ่งประชาชนได้สะท้อนความเดือดร้อนปัญหาปากท้อง โดยเฉพาะต้นทุนปุ๋ยแพง น้ำมัน ยาฆ่าแมลงแพง ไฟแพง สินค้าแพง พร้อมทวงนโยบายปุ๋ยสั่งตัดเพื่อชุมชน โดยการนำเข้าแม่ปุ๋ย

โดย นายสมคิด กล่าวกรณีนโยบายปุ๋ยสั่งตัดว่า อย่าไปโทษนายกรัฐมนตรี เพราะมีงานเยอะ เรื่องแบบนี้ขึ้นอยู่ที่เจ้ากระทรวง ที่จะต้องเป็นผู้รับผิดชอบ แต่วันๆมัวแต่ไปหาเสียง แล้วมีประโยชน์อะไร หากประชาชนทั้งประเทศไม่มีกิน ซึ่งตนทำงานมาโดยตลอดตั้งแต่สมัยอยู่พรรคไทยรักไทย ซึ่งเรื่องจำนำข้าว ไม่ได้เป็นการจำนำเพื่อหาเสียง แต่จำนำเพื่อรักษาเสถียรภาพของราคา การจะเปลี่ยนแปลงให้เกษตรกรทั่วประเทศดีขึ้นได้ อยู่ที่การทำอย่างเอาจริงเอาจัง ช่วยเหลืออย่างเต็มที่ และไม่ใช่แค่รัฐบาล แต่ต้องทำงานร่วมกับสภาผู้แทนราษฎร

"สำหรับอีสานเป็นภาคที่ใหญ่ที่สุดมีประชากรมากกว่า 20 ล้านคน มี ส.ส. 132 คน ถ้ามี ส.ส. มากแล้วยังช่วยพี่น้องไม่ได้ คนอีสานต้องคิดให้ได้ว่าที่ผ่านมามี ส.ส.มากที่สุด แต่ยังช่วยไม่ได้คืออะไร" นายสมคิด กล่าว

อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวให้กำลังใจ "พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา" นายกฯ ในการทำงานอย่างเต็มที่ ในช่วงเวลาที่เหลืออยู่ โดยขอทำให้ดีที่สุด อย่าไปกลัวหรือเกรงใจนักการเมือง อย่าทำเพื่อนายทุนหรือพ่อค้าไม่กี่กลุ่ม และย้ำว่าการเป็นหรือไม่เป็นนายกฯ เป็นเรื่องเล็ก คนเป็นนายกฯ ไม่ง่าย เป็นแล้วต้องช่วยคนได้ มีแต่เสียสละ ถ้าเอาเท่ห์อย่างเดียวไม่ช่วยอะไรเลย ขณะเดียวกันก็อยากให้คนรุ่นใหม่เข้ามาสู่เส้นทางการเมือง โดยไม่ต้องอิงคนรุ่นเก่า และทำให้ดี 

นายสมคิด กล่าวย้ำว่า ทุกคนเลือกเกิดไม่ได้ แต่สร้างอนาคตได้ ถ้าใฝ่ดี รู้การศึกษา สู้งาน ไม่เสเพล หากตนไม่เรียนหนังสือ ไม่สอบชิงทุนรัฐบาล ก็ไม่รู้ว่าจะเป็นอย่างไร เพราะมาจากครอบครัวที่ยากจน จึงอยากให้ทุกคนเห็นคุณค่าการศึกษา ไม่ใช่วิ่งหาแต่เสรีภาพ เพราะถ้าไม่มีความรับผิดชอบ มันก็ไปไม่ได้ 

"ผมได้ข่าวว่าจะมีการจ่ายเงินซื้อเสียง 500 บาท ซึ่งตนเห็นว่าการจ่าย 500 บาท เพื่อให้ได้เข้ามาทำงาน 4 ปี เฉลี่ยแล้วได้วันละ 34 สตางค์ แต่ถ้าเขาจ่าย 1,000 บาท ก็ได้เฉลี่ยวันละ 68 สตางค์ ซื้อกาแฟแก้วหนึ่งยังไม่ได้ ก็ไม่เป็นไร ขอให้จำไว้ รับไว้ แต่ไม่ต้องเลือก เพราะถ้าเขาแจกเงิน แปลว่าไม่มีของฟรี และเขาจะใช้เวลา 4 ปีไปทำอะไรก็ไม่ทราบ" ประธานพรรค ระบุ

เมื่อถามว่า การลงพื้นที่ของพรรคสร้างอนาคตไทย แตกต่างจากพรรคอื่นอย่างไร นายสมคิด กล่าวว่า แตกต่างแน่นอน ขอให้รอดูในวันพรุ่งนี้ (5พ.ย.) ที่จะเปิดนโยบายพรรค

ส่วนกรณีที่สภาผู้แทนราษฎรมีมติให้ทำประชามติในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ พรรคสร้างอนาคตไทยมีนโยบายเรื่องนี้หรือไม่ นายสมคิด ตอบว่า แน่นอน เพื่อทำให้รัฐธรรมนูญสมบูรณ์ขึ้น ตนเคยบอกแล้วว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ไม่ใช่แค่ระบบเลือกตั้ง การได้เปรียบเสียเปรียบไม่ต้องพูด มันซ้ำซากแล้ว แต่จะทำอย่างไรให้สามารถปฏิรูปประเทศไทยได้จริงๆ ปรับโครงสร้างเศรษฐกิจ การเมืองให้ได้จริงๆ ไม่ใช่แค่หาร 100 หาร 500 อันนั้น ไม่เป็นสาระ รู้อยู่แล้วว่าควรหารเท่าไร ควรทำให้เป็นสาระหน่อย ส่วนจะทำอย่างไรเชื่อว่าก็รู้อยู่แล้ว

ด้าน นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า ในการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นขอให้ใช้โอกาสนี้ ไม่เป็นเพียงแค่ไปลงคะแนนเสียงเท่านั้น แต่ถึงเวลาที่จะต้องลุกมาเป็นเจ้านายนักการเมือง เป็นเจ้าของพรรคการเมือง แล้วสั่งให้พรรคทำอย่างที่อยากให้ทำ ดังนั้น ต้องตัดสินใจให้ดี