26 ตุลาคม 2565 "นายสมชาย รังสิวัฒนศักดิ์" นายกสมาคมสันนิบาตแห่งประเทศไทย คนใหม่ ได้ให้สัมภาษณ์พิเศษกับทาง "เนชั่นทีวี" ถึงแนวนโยบายการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น ว่า อีกไม่นานจะมีการเลือกตั้งทั่วไปเกิดขึ้น จึงอยากให้ทุกฝ่ายมองความสำคญของนโยบายการกระจายอำนาจจากรัฐบาลส่วนกลางสู่ท้องถิ่น เนื่องจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีบทบาทในการรับมือต่อวิกฤตต่างๆ ได้ตรงจุดมากกว่ารัฐส่วนกลาง
"รูปแบบการบริหารงานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ไม่ว่าจะเป็น อบต. เทศบาล หรือ อบจ. ในส่วนของ อบจ.จะดูภาพรวมของทั้งจังหวัด เฉพาะสภาพปัญหาในแต่ละพื้นที่ย่อมแตกต่างกัน คนที่สามารถรู้ปัญหาในแต่ละท้องที่นั้น ท้องถิ่นจะรู้ดีกว่าส่วนกลาง อยากฝากถึงรัฐบาลในเรื่องการกระจายอำนาจ ถามว่าถ้าเกิดพื้นที่ในส่วนของตำบล เมือง อำเภอ เศรษฐกิจดี ความเจริญดี ย่อมทำให้เศรษฐกิจของประเทศดีตาม" นายสมชาย กล่าว
สำหรับนโยบายการกระจายอำนาจ เริ่มจากมี พ.ร.บ. เมื่อปี 42 จะมีการจัดสรรงบประมาณเป็นขั้นตอนจนสูงสุดถึง 35% ของงบกลาง แต่ตอนนี้จากปี 42 ถึงปี 65 เกือบ 24 ปี ยอดภาษีจัดสรรตามสัดส่วนที่รัฐบาลกลางให้กับท้องถิ่น อยู่ที่ประมาณ 29% และยังแฝงไว้ด้วยเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ นม อาหารเสริมของโรงเรียนต่างๆ ส่วนกลางอุดหนุนมาให้ท้องถิ่นจริง แต่ท้องถิ่นเปรียบเหมือนเป็นบุรุษไปรษณีย์ หรือเป็นคนกลางในการส่งต่อให้กับโรงเรียน ไม่สามารถเอาไปทำอย่างอื่นได้
ขณะเดียวกัน ในส่วนของเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ คนพิการ ก็ต้องส่งต่อให้กับบุคคลเหล่านั้น จะมีงบประมาณหลายตัวที่แฝงไว้ อยากฝากว่าถ้าต้องการกระจายอำนาจและอยากให้ท้องถิ่นเจริญ เพราะจะมีผลต่อเศรษฐกิจของประเทศ ฉะนั้นปัญหาต่างๆในแต่ละพื้นที่ ความต้องการ ความเดือดร้อนของพ่อแม่พี่น้องประชาชนในแต่ละพื้นที่นั้นย่อมแตกต่างกันไป ต้องให้ท้องถิ่นแต่ละที่คิดและทำ ดูแลแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน
ทั้งนี้ ในส่วนของนโยบายเพื่อการกระจายอำนาจของพรรคการเมืองต่างๆ เมื่อเกิดวิกฤต ก็เป็นส่วนท้องถิ่นที่ต้องเข้ามาช่วยเหลือนั้น ซึ่งตอนหาเสียงทุกพรรค แม้กระทั่งในรัฐธรรมนูญเองก็พูดถึงในหมวดขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจะให้ความอิสระ แต่ในทางปฏิบัติจริงไม่ได้เป็นไปตามที่เขียนไว้ในรัฐธรรมนูญ ฝากพรรคแต่ละพรรค ที่คงจะมีการเลือกตั้งไม่เกิน 6-7 เดือนที่จะถึงนี้ อยากให้เห็นความสำคัญของท้องถิ่น อย่างน้อยพรรคใดที่จะมาเป็นรัฐบาล ก็ต้องอาศัยท้องถิ่นที่จะเข้ามาช่วยดูแล พัฒนาในแต่ละท้องที่
ส่วนปัญหาหนักที่สุดในท้องถิ่นของประเทศไทยขณะนี้ นายสมชาย มองว่า เป็นปัญหาเรื่องของเศรษฐกิจ ตนอยู่ในพื้นที่มีโอกาสพูดคุยกับนายกเทศมนตรีหลายๆแห่ง และได้ทราบว่าในแต่ละพื้นที่ปัญหาเรื่องเศรษฐกิจ การทำมาหากิน การค้าขาย ขณะนี้มีผลกระทบอย่างมากกับประชาชน ต้องฝากถึงพรรคการเมือง หรือแนวโน้มของรัฐบาลชุดปัจจุบันและชุดใหม่ ทำอย่างไรจึงจะกระตุ้นให้เศรษฐกิจให้ดีขึ้น รายได้แต่ละครัวเรือนเพิ่มขึ้น
"ในส่วนปัญหาปริมาณผู้สูงอายุที่เพิ่มขึ้น ผมเคยได้อ่านบทความ สังคมผู้สูงอายุ ส่วนมากจะดูแลหลังจากผู้สูงอายุมีปัญหาแล้ว ทำไมเราไม่ดูแลก่อนในเรื่องสุขภาพ ก่อนที่สุขภาพร่างกายจะไม่ดี เน้นเรื่องอาหาร เน้นเรื่องความเป็นอยู่ในการใช้ชีวิตประจำวัน เปรียบเหมือนก่อนรถจะเสีย ถ้าเราบำรุงรักษาก่อน โอกาสที่รถจะเสียก็น้อยมาก เช่นเดียวกับคน" นายสมชาย กล่าว