svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

ผบ.ทร.คนใหม่ ย้ำไทยต้องมีเรือดำน้ำ ยังไม่ชัดใช้เครื่องจีนหรือเลิกสัญญา

03 ตุลาคม 2565
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

"บิ๊กจ๊อด" ผบ.ทร. คนใหม่ ย้ำยุทธศาสตร์เดิมต้องมีเรือดำน้ำ ยังไม่ชัดใช้เครื่องยนต์จีนหรือยกเลิกสัญญา รอคุยจีนอีกรอบ เล็งซื้อเครื่องบิน - ฮ. เสริมทัพ ถ้ายังไม่มีเรือดำน้ำใช้ เตรียมปัดฝุ่นต่อเรือฟริเกตในไทย

วันนี้ (3 ต.ค.) พลเรือเอก เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) กล่าวถึงความคืบหน้า โครงการเรือดำน้ำ ว่า กองทัพเรือยังยืนยันตามยุทธศาสตร์ และการพัฒนาขีดความสามารถ ที่จำเป็นต้องมีเรือดำน้ำ 3 ลำ เพื่อพัฒนากองทัพเรือไทย ให้เทียบเท่า หรือสามารถดำรงการป้องปรามได้  รวมถึงจะต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคนิค คือ กรมอู่ทหารเรือ ในการพิจารณาข้อมูลทางเทคนิค ของเครื่องขับเคลื่อนกำเนิดไฟฟ้า ซึ่งเป็นปัญหาในปัจจุบัน

 

โดยเราจะใช้กองเรือดำน้ำ ซึ่งเชี่ยวชาญศาสตร์เกี่ยวกับเรือดำน้ำ มาเตรียมกำลังพล และการจัดการในภาพรวม และใช้สำนักงานจัดหายุทโธปกรณ์ ในการบริหารสัญญาและกำหนดแนวทาง เพราะปัจจุบันโครงการจัดซื้อเรือดำน้ำมีความล่าช้า และมีการเจรจากันมาตั้งแต่เดือน เม.ย. 65

 

ดังนั้นก็ต้องมาดูทุกหนทางเลือก ที่มีประโยชน์กับกองทัพเรือ ประเทศชาติและประชาชน ซึ่งคณะกรรมการบริหารโครงการเรือดำน้ำ มีหน้าที่รับผิดชอบพิจารณาข้อมูลต่างๆ ที่มีการส่งต่อกันมาจากปีที่แล้ว (งบ 65) และมารวบรวมแนวทางปฏิบัติว่า โครงการล่าช้าไปถึงปีไหนแล้ว หากจะดำเนินต่อเนื่อง หรือจะยกเลิกสัญญา แต่ละแนวทางจะต้องมีคณะกรรมการด้านใดบ้าง เช่น ด้านกฎหมาย ด้านขั้นตอน และด้านความพร้อม โดยมีเสนาธิการทหารเรือเป็นประธาน จะมีแนวทางพิจารณาและนำเสนอไปยังผู้มีอำนาจ
 

 

 พลเรือเอก เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.)

ส่วนกรอบระยะเวลาชัดเจนเมื่อใดนั้น ต้องดูว่า ถ้าจะเดินต่อโครงการเรือดำน้ำ จะต้องใช้ระยะเวลาเท่าไร และมีผลกระทบด้านใดบ้าง อาจต้องมีการเจรจารอบใหม่กับทางการจีน เพื่อขอตรวจสอบข้อมูลที่ทางการจีนเสนอมา หากกองทัพเรือยังมีข้อสงสัยอยู่ เพื่อนำมาประมวลผล และหาทางเลือกว่าจะยกเลิกสัญญาหรือเดินหน้าต่อ ในการพิจารณาโครงการเรือดำน้ำ

 

เมื่อถามถึงเครื่องยนต์จีนที่เสนอมา จีนไม่เคยใช้ ไทยจะเป็นหนูทดลองหรือไม่ และโอกาสที่จะยกเลิกโครงการมีความเป็นไปได้หรือไม่ พลเรือเอก เชิงชาย กล่าวว่า หากจะแก้สัญญาได้ ผู้ขายต้องเป็นผู้นำเสนอข้อมูลต่อกองทัพเรือ  ซึ่งมีเหตุผลหลัก 2 ประการ คือ การยกเลิกสัญญา คือต้องเป็นของเทียบเท่า หรือของที่ดีกว่า ซึ่งผู้ขายต้องเสนอข้อมูลให้กองทัพเรือเชื่อว่า เป็นไปตามนั้น ถึงจะมีการแก้สัญญาได้ แต่หากยังมีข้อสงสัย อาจจะต้องมีการขอเจรจา และขอข้อมูลเพิ่มเติม หรือส่งเจ้าหน้าที่ไปดูเครื่องยนต์เรือดำน้ำตามที่จีนเสนอมาว่า จะสามารถนำมาใช้ในเรือดำน้ำของกองทัพเรือตามที่เสนอได้หรือไม่ 

 

 

ผบ.ทร.คนใหม่ ย้ำไทยต้องมีเรือดำน้ำ ยังไม่ชัดใช้เครื่องจีนหรือเลิกสัญญา

เมื่อถามต่อว่า ถ้ายกเลิกสัญญา เงินที่จ่ายไปแล้วจะเรียกร้องเรื่อง ความบกพร่องของโครงการได้อย่างไร พลเรือเอก เชิงชาย กล่าวว่า เป็นรายละเอียดที่จะต้องให้คณะกรรมการบริหารโครงการ ไปดูรายละเอียดก่อน เพราะโครงการมีการขยายสัญญาออกไปจากสัญญาเดิมไว้ในปี 67 ปัจจุบันล่าช้ามา และมีการตรวจสอบเรื่องงบประมาณ หากโครงการยืดระยะเวลาออกไปนาน อาจต้องพิจารณาเรื่องของการเสริมสร้างกองทัพ ในช่วงที่ยังไม่สามารถจัดหาเรือดำน้ำเข้ามาในกองทัพได้ ซึ่งเรื่องนี้จะเป็นการทบทวนยุทธศาสตร์ของกองทัพเรือ เพื่อให้เรามีความพร้อมตามยุทธศาสตร์ของกองทัพเรือ 

 

เมื่อถามย้ำว่า หากเรือดำน้ำลำแรกไม่มีโอกาส แล้วลำที่ 2 และ 3 จะเป็นอย่างไร พลเรือเอก เชิงชาย กล่าวว่า ก็ต้องดูว่า เราสามารถพิสูจน์ได้หรือไม่ว่า ถ้าลำแรกดำเนินการต่อจะตอบสนองภารกิจกองทัพเรือได้หรือไม่ พร้อมยืนยันไม่หนักใจที่เข้ามาทำหน้าที่และต้องดูแลเรื่องนี้ เพราะยึดหลักว่า เข้ามาทำงาน มีปัญหาก็ต้องแก้ปัญหา ทำงานเป็นขั้นตอน ตรวจสอบได้ มีความโปร่งใส และให้เกิดความคุ้มค่าของเงินภาษีประชาชนที่ต้องนำไปใช้ ในโครงการตามยุทธศาสตร์ของกองทัพเรือ

 

เมื่อถามว่า ไทยเป็นประเทศเล็กกว่าจีน มีผลต่อการเจรจาต่อรอง  รวมถึงเรื่องความเกรงใจกับจีน และนโยบายรัฐบาล ได้มีการพูดคุยกับนายกรัฐมนตรี และรองนายกรัฐมนตรี แล้วหรือไม่ พลเรือเอก เชิงชาย กล่าวว่า ตั้งแต่เข้ารับหน้าที่ ไม่ได้มีการประสานงานมา แต่ขอย้ำว่า ทุกขั้นตอนทำตามหน้าที่ทำตามสัญญา และทำตามความต้องการของกองทัพเรือ รายละเอียดการเจรจาจะต้องรอขั้นตอนต่อไป  และเมื่อถึงการเจรจาขั้นสุดท้ายก็จะต้องมีการดำเนินการตามกฎมายทุกประการ  ทั้งนี้หากเรายกเลิกสัญญาแต่ยังมีความต้องการเรือดำน้ำอยู่ ก็ต้องไปพิจารณาว่าจะต้องดำเนินการอย่างไรต่อ แต่ตอนนี้ยังไม่สามารถพูดได้ว่า จะยกเลิกสัญญาหรือเดินหน้าต่อ 

 

ส่วนที่มีการเสนอว่า ให้นำเครื่องยนต์ของเยอรมัน มาใส่ในเรือดำน้ำของไทยได้หรือไม่นั้น ก็ยังไม่มีคำตอบจากประเทศที่สาม แต่โดยปกติการต่อเรือดำน้ำ จะต้องเป็นแพ็กเกจ คือทำที่ประเทศที่ต่อเรือดำน้ำเท่านั้น และส่งมอบมาให้ไทย แต่ขณะนี้ยังไม่มีแนวทางที่จะนำเครื่องมาติดตั้งที่ไทย

 

 

ผบ.ทร.คนใหม่ ย้ำไทยต้องมีเรือดำน้ำ ยังไม่ชัดใช้เครื่องจีนหรือเลิกสัญญา

 

 

ส่วนในระหว่างที่รอความชัดเจนเรื่องเรือดำน้ำ จะต้องเสริมสร้างด้วยเรือผิวน้ำ เรือฟริเกต อย่างไร พลเรือเอก เชิงชาย กล่าวว่า เมื่อเรือดำน้ำขยายเวลาออกไป เพราะมีปัญหาเรื่องเครื่องยนต์ อาจต้องพิจารณาทางเลือกเพื่อเสริมสร้างกำลังกองทัพให้เทียบเท่า หรือป้องปรามประเทศรอบบ้านได้ อาจจะเป็นเรือฟริเกต เครื่องบิน หรือเฮลิคอปเตอร์ มาทดแทนในช่วงที่ยังจัดหาเรือดำน้ำไม่ได้ ซึ่งในปีหน้าจะมีนโยบายการศึกษาการจัดสร้างเรือฟริเกตในประเทศ

 

โดยโครงการจัดหาเรือฟริเกตมีการอนุมัติไว้แล้ว แต่รัฐบาลอยากให้มีการดำเนินการในประเทศ ดังนั้นในปี 66 จะมีแนวทางในการศึกษา จัดหา และดูความเป็นไปได้ ซึ่งหากจะต่อเรือในประเทศ จะต้องมีบริษัทต่อเรือจากต่างประเทศเข้ามาร่วมกับบริษัทในประเทศ และเสนอแนวทางให้กองทัพเรือพิจารณาว่ามีแนวทางอย่างไร และหนทางเลือกไหนดีที่สุด เพราะถ้าเรื่องเรือดำน้ำยังไม่แน่นอน อาจจะต้องมีการเสริมสร้างเรือรบขนาดใหญ่เติมเข้ามาในกองทัพ โดยจะต้องเป็นเรือที่มีขีดความสามารถในการปราบเรือดำน้ำ และมีขีดอำนาจรบ เทียบเคียงกับประเทศเพื่อนบ้าน 

 

ขณะที่เรือช้าง ซึ่งเป็นเรือพี่เลี้ยงของเรือดำน้ำนั้น ถือเป็นโครงการเรืออเนกประสงค์ยกพลขึ้นบก สามารถสนับสนุนการช่วยเหลือเรือดำน้ำได้ด้วย  ซึ่งภารกิจหลักของเรือช้าง จะใช้ในปฏิบัติการสะเทินน้ำสะเทินบก ลาดตระเวนตรวจการ การรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล และช่วยประชาชนในช่วงที่เกิดภัยพิบัติขนาดใหญ่ ซึ่งเรือขนาดเล็กไม่สามารถเข้าไปในพื้นที่ได้ โดยเรือช้างสามารถบรรทุกเฮลิคอปเตอร์ได้ 3 ลำ ดังนั้นการที่บอกว่า สนับสนุนเรือดำน้ำ เป็นแค่ภารกิจส่วนหนึ่งที่วางไว้ ให้สนับสนุนกำลังพลเรือดำน้ำ และส่งกำลังบำรุง แต่ขณะที่ยังไม่มีเรือดำน้ำ ก็จะสามารถนำไปใช้ในภารกิจอื่นที่กองทัพเรือมอบหมายได้
 

logoline