svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

"กกต."แจงกมธ.ย้ำแนวทางหาเสียงผู้สมัครส.ส.ช่วยปชช.ได้ต้องทำแบบนิรนาม

28 กันยายน 2565
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

"รองเลขาฯ กกต."แจง กมธ.กิจการสภา ปมข้อสงสัยหาเสียงช่วง 180 วัน ชี้ ส.ส.ช่วยประชาชนประสบภัยพิบัติได้ แต่ควรทำแบบนิรนาม ไม่เสี่ยงผิด ได้บุญเยอะกว่า ย้ำ แบ่งเขตไม่ชัดเจน กกต. ไม่ผิด ชี้กฎหมายอยู่ที่ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณา

28 กันยายน 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะกรรมาธิการ (กมธ.) กิจการสภาผู้แทนราษฎร ได้พิจารณาประเด็นสำคัญ คือ แนวทางการหาเสียงเลือกตั้งของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ในช่วงระยะเวลา 180 วัน ก่อนวันครบอายุสภาผู้แทนราษฎร โดยเชิญ เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม

 

"กกต."แจงกมธ.ย้ำแนวทางหาเสียงผู้สมัครส.ส.ช่วยปชช.ได้ต้องทำแบบนิรนาม

 

โดย ร.ต.อ.ชนินทร์ น้อยเล็ก รองเลขาฯ กกต. เข้าชี้แจงแทน ว่า เรื่องการเข้าร่วมงานบุญหรืองานต่างๆ นั้น ผู้สมัคร และ ส.ส. สามารถดำเนินชีวิตได้ตามปกติ แต่ต้องแบ่งแยกให้ชัดเจน ว่าไปภารกิจก็คือไปภารกิจ ไปหาเสียงก็คือหาเสียง ถ้าใช้โอกาสไปงานเพื่อไปหาเสียง ก็เข้าข่ายสุ่มเสี่ยงต่อการถูกร้องเรียน หรือเป็นความผิดได้ เช่น หากมีผู้เชิญไปทอดผ้าบังสุกุล ก็สามารถไปทอดผ้าได้ แต่ต้องไปให้มีการประกาศว่าเป็นผู้สมัครพรรคใดขึ้นทอดผ้า ถือเป็นการใช้โอกาสในทางที่ผิด

 

"งานศพจัดได้แน่นอน แต่งานบวช งานแต่ง ถ้าหากต้องจัด ก็ขอให้ระวังเพราะอาจเข้าข่ายการจัดเลี้ยงหรือมีมหรสพรื่นเริงได้ และขอให้จัดในวงแคบที่สุด เพื่อความปลอดภัย ให้มีเฉพาะญาติสนิทมิตรสหาย หากจำเป็นต้องจัดอย่างใหญ่โตจริงๆ ก็ควรให้เลยช่วงเลือกตั้งไปแล้วเพื่อให้หมดปัญหาไป" รองเลขาฯ กกต. ระบุ

สำหรับเรื่องป้ายหาเสียงนั้น กำหนดขนาด 1 แผ่นไม้อัด ขนาด 125×220 ซม. โดยประมาณ ส่วนใบประกาศขนาด A3 เป็นไปตามระเบียบเดิม ยกเว้นป้ายประจำอาคารศูนย์เลือกตั้ง ตามขนาดประมาณ 4×7 เมตร ป้ายติดยานพาหนะหรือป้ายติดรถโฆษณาหาเสียงไม่จำกัดขนาด แต่ต้องเป็นไปตาม พ.ร.บ.ขนส่งทางบก คือ ให้มีความมั่นคงแข็งแรงปลอดภัย ส่วนป้ายบนเวทีหาเสียงเป็นไปตามขนาดเวที ไม่จำกัดขนาด และต้องคำนวณเป็นค่าใช้จ่ายทั้งหมด

 

จากนั้น กมธ.ได้ซักถามทาง กกต. ในประเด็นต่างๆ เช่น การบริจาคสิ่งของช่วยเหลือประชาชนในช่วงเกิดภัยพิบัติสามารถทำได้หรือไม่ และข้อความบนป้ายหาเสียงควรมีเนื้อหาสาระอย่างไร

 

"กกต."แจงกมธ.ย้ำแนวทางหาเสียงผู้สมัครส.ส.ช่วยปชช.ได้ต้องทำแบบนิรนาม

 

โดย "นายนิกร จำนง" ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคชาติไทยพัฒนา ในฐานะกมธ. ให้ความเห็นว่า ถือเป็นครั้งแรกที่ประสบเรื่องแบบนี้ ตั้งแต่ตนอยู่ในการเลือกตั้งมา ไม่เคยเจอระยะคาบเกี่ยว 180 วัน ขณะที่กฎหมายเลือกตั้งยังค้างคาอยู่ในสภาเช่นนี้ ส่วนเรื่องค่าใช้จ่ายที่ใช้ในการเลือกตั้ง ก็ยังไม่ได้เคาะว่าเป็น 1.5 ล้านบาทหรือเท่าใด เพราะการกำหนด 180 วัน จะอยู่ในกรณีสภาอยู่ครบวาระ

 

อย่างไรก็ดี แต่หากมีการยุบสภาเกิดขึ้นก่อนหน้า กฎดังกล่าวจะเริ่มนับตั้งแต่ตอนไหน และในเมื่อผ่านความผิด เริ่มนับตั้งแต่มีการประกาศกฤษฎีกา แต่หากมีการส่งมอบเงินหรือสิ่งของกันในวันนี้ (28ก.ย.) แล้วต่อไปเกิดการยุบสภา อยู่ไม่ครบเต็มวาระตามที่ กกต. กำหนดไว้ 180 วัน แล้วความผิดที่เกิดขึ้นในวันนี้จะยังคงอยู่หรือไม่

ด้าน "นายสุขุมพงศ์ โง่นคำ" คณะทำงานด้านกฎหมาย พรรคเพื่อไทย สอบถามถึงแนวทางที่ กกต. ออกมาในช่วง 180 วัน ก่อนมีพระราชกฤษฎีกา ซึ่งมีการระบุว่ายังไม่ครบองค์ประกอบ ดังนั้น จึงไม่มีความผิด ถ้าเช่นนั้น จะมีข้อห้ามไว้ทำไม เหตุใดไม่รอประกาศกฤษฎีกาก่อน

 

โดย ร.ต.อ.ชนินทร์ ได้ชี้แจงประเด็นที่กมธ.ซักถาม ในเรื่องของการใช้งบประมาณหาเสียง ให้ถือตามเกณฑ์เดิมไปก่อน เพราะในช่วงแรกคาดว่าคงไม่มีใครใช้ไปถึง 1.5 ล้านบาททันที คงจะเป็นการทยอยใช้ จึงได้ออกประกาศเป็นแนวทางไว้ก่อน หากไม่ออกประกาศออกมาก็จะมีคำถามอีกว่าทำอะไรได้บ้าง

 

ทั้งนี้ หากมีการยุบสภาก่อนครบวาระ หากมีการกระทำผิดแนวทางในเวลานี้ จะมีความผิดหรือไม่นั้น ซึ่งกรณีนี้คงต้องเป็นความความเห็นทางกฎหมาย เกี่ยวกับฐานความผิด ขณะที่กระทำมีข้อพิจารณาอีกแบบหนึ่ง ต้องหารือกันอีกหลายรอบในเรื่องทฤษฎีทางกฎหมาย แต่หากกระทำความผิดไปแล้วก็ต้องรับผลกระทบที่จะเกิดขึ้น

 

"แนวทางไม่ใช่กฎระเบียบ ไม่มีข้อผูกพัน เพียงแต่กำหนดไว้เป็นแนวทางให้เข้าใจ เพื่อให้ระเบียบเกิดความชัดเจนมากขึ้น จึงตัองยกตัวอย่างเพื่อให้เห็นเกิดเป็นภาพ ว่าอะไรทำได้ไม่ได้" ร.ต.อ.ชนินทร์ ระบุ

 

สำหรับการหาเสียงทางออนไลน์ หากมีค่าใช้จ่ายก็ต้องคิดรวมด้วย แต่หากไม่ต้องมีค่าใช้จ่าย ก็ไม่ต้องนำมาคิด ในกรณีมีแฟนคลับมาช่วยหาเสียงทางอิเล็กทรอนิกส์ หากใช้งบประมาณเกิน 10,000 บาท ต้องมาแจ้งผู้สมัครฯ ให้นำมาคิดรวมด้วย

 

ส่วนข้อความบนป้ายห้ามมีการใส่ร้ายป้ายสี หรือข้อความเท็จหรือการสัญญาว่าจะให้ ซึ่งหากมีเรื่องร้องเรียนก็จะอยู่ที่ศาลวินิจฉัย และเมื่อมีเหตุภัยพิบัติ สมาชิกจะช่วยประชาชนนั้น ต้องเข้าใจก่อนว่าการหาเสียง คือ การค้านโยบายและตัวตนของผู้สมัครเพื่อให้เกิดความนิยม จึงต้องมีกฎหมายกำหนดว่าห้ามการนำสิ่งของหรือเงินไปมอบให้ 

 

"หากสงสารประชาชนจริงๆ จะต้องบริจาคให้ได้ ท่านก็บริจาคโดยที่ไม่แสดงตัวตน ถ้าอย่างนั้นจะได้บุญเยอะกว่า เคยแนะนำคนอื่นไปเยอะเรื่องนี้ เขาก็บอกไม่ได้ ต้องแสดงตัวตนให้ได้ ก็จะเข้าข่ายความผิด คนเงินเยอะก็จะได้เปรียบ ทำนอกเขตได้ไหม ถ้าท่านไปแอบทำ ไม่มีใครรู้เห็น ก็ไม่มีใครว่า ท่านได้บุญล้วนๆ แต่ถ้าทำแล้วมาโพสต์เฟซบุ๊กแบบนี้ มันก็เป็นการหาเสียงอย่างหนึ่ง" ร.ต.อ.ชนินทร์ กล่าว

 

นอกจากนี้ ปัญหาที่กฎหมายเลือกตั้งยังค้างคา และเขตเลือกตั้งที่แบ่งใหม่ยังไม่ชัดเจนนั้น ตอนนี้เรื่องอยู่ที่ศาลรัฐธรรมนูญกำลังพิจารณา จะช้าเร็วก็อยู่ที่ศาล และการหาเสียงในเขตเลือกตั้งที่ยังไม่ชัดเจน เรียนไปแล้วว่า เพราะกฎหมายเลือกตั้งยังไม่ผ่าน ไม่ใช่ความผิดของ กกต. ซึ่ง กกต. อยู่บนพื้นฐานของความไม่ชัดเจนเท่ากัน

 

"กกต. ก็ยิ่งหนักกว่า เพราะโดนสื่อมวลชนด่าทุกวันว่าไม่ชัดเจน ก็กฎหมายยังไม่ออก จึงไม่สามารถแบ่งเขตได้ แต่เพื่อให้ผู้สมัครที่อยากหาเสียงดำเนินการไปก่อนได้ จึงต้องใช้ระเบียบยึดตามเขตเลือกตั้งเดิมไปก่อน" ร.ต.อ.ชนินทร์ กล่าว


 

logoline