svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

"คนละขั้ว"แต่อยู่ร่วมกันได้-สัจธรรมการเมืองไทย

13 กันยายน 2565
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

การปรากฏกายของ "คุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์" ในงาน "สะบัดชัย เพื่อไทยมาเหนือ" เมื่อช่วงปลายสัปดาห์ก่อน โดยขนครอบครัว "ชินวัตร" ไปเยือน จ.เชียงใหม่ ถิ่นกำเนิด "ทักษิณ ชินวัตร" เพื่อให้กำลังใจ "อุ๊งอิ๊งค์ แพทองธาร" ในการขอแลนด์สไลด์เพื่อไทย ได้กลับมาจัดตั้งรัฐบาลครั้งหน้า

ซึ่งการปรากฏตัวของ "คุณหญิงอ้อ" ครั้งนี้ ทำให้บรรยากาศการเมือง โดยเฉพาะคำว่า "รอมชอม" เริ่มปรากฏให้เห็น พร้อมกับกระแสข่าว "ผู้กองธรรมนัส" เตรียมตบเท้าหวนคืนเพื่อไทย จากก่อนหน้าถูกพลังประชารัฐมีมติขับออก จนต้องไปตั้งพรรคใหม่ อย่าง เศรษฐกิจไทย 

 

โดยก่อนหน้านี้ "ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า" ตกเป็นประเด็นให้ถูกพูดถึง เพราะมีข่าวเตรียมกลับมาช่วยงานเพื่อไทย ในการเดินสายใต้ดิน เพื่อทำพรรคเพื่อไทยกลับมาเป็นรัฐบาล แต่สุดท้ายไปไม่ถึงฝั่ง เนื่องจากไม่สะดุดตาโดนใจ "คุณหญิงอ้อ" ผนวกกับต้องเผชิญ 4 ด่าน อรหันต์ ที่เป็นขวากหนาม อย่าง

 

1.บรราดาสายตรง "นายใหญ่-นายหญิง-ทายาท"

 

2.กลุ่มนักรบห้องแอร์

 

3.กลุ่มเครือข่าย ส.ส.

 

4.กลุ่มส.ส.อีสาน

 

 

จน "ผู้กองธรรมนัส" ต้องเบนเข็มกลับมาพึ่งบารมีพี่ใหญ่ 3ป.  อย่าง "บิ๊กป้อม" พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หลังก้าวเข้าสู่รักษาราชการแทนนายกฯ ช่วง "บิ๊กตู่" หยุดปฏิบัติหน้าที่เป็นการชั่วคราว จนกว่าจะมีคำวินิจฉัยเกี่ยวกับประเด็นคุณสมบัติ 8 ปี จนสร้างแรงกระเพื่อมภายใน พปชร.

 

การ "เปลี่ยนโปร-ย้ายค่าย" ในการเมืองไทย นับว่าไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่ เพราะเปรียบเสมือนดั่งแม่เหล็ก ที่อยู่คนละขั้ว แต่ก็ดูดได้อย่างสนิทแนบแน่น

 

เพราะหากย้อนกลับไปในอดีต ที่กลุ่มคนละขั้วแต่สุดท้ายมาลงเอยกัน ก็มีให้เห็น อย่าง "จตุพร พรหมพันธุ์" ประธาน นปช. และ "นิติธร ล้ำเหลือ" แกนนำ คปท. ซึ่งทั้งคู่มีจุดยืนในการเมืองภาคประชาชนต่างกันสิ้นเชิง หรือถ้าเปรียบเป็นนักชก คือ อยู่มุมแดงและมุมเหลือง

 

สุดท้ายเมื่อขั้วสีเสื้อสลาย ทั้ง "ทนายนกเขา-ตู่" จึงหันกลับมาร่วมกันแบบสมานฉันท์ ขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ พร้อมสนับสนุนให้มีการตั้งรัฐบาลแห่งชาติขึ้น

 

หรือหากย้อนกลับไปอีก อย่าง "แรมโบ้อีสาน" สุภรณ์ อัตถาวงศ์ หรือชื่อใหม่ "เสกสกล" ครั้งหนึ่งก็เคยเป็นหัวหมู่ทะลวงฟันในนามคนเสื้อแดง สมัยปี 2553 ภายหลังจบการชุมนุม และถูก คสช. ควบคุมตัว

 

โดยเมื่อวันที่ 30 พ.ค. 57 "แรมโบ้อีสาน" พร้อมมารดา ได้เข้าสักการะ "คุณย่าโม" ณ ลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี จ.นครราชสีมา พร้อมกล่าวคำปฏิญาณ "จะเลิกเล่นการเมือง เลิกยุ่งเกี่ยวกับการเมืองตลอดชีวิต" รวมถึงได้ลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย

 

แต่จนแล้วจนรอด เมื่อวันที่ 19 ก.ค. 61 "แรมโบ้อีสาน" ได้มาขอถอนคำสาบาน กลับมาโลดแล่นบนถนนการเมืองอีกครั้ง โดยร่วมกับกลุ่มสามมิตร เพื่อมาช่วยงานพรรคพลังประชารัฐ ในการสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ เวลาต่อมา

 

หรือตัวอย่างที่เห็นเด่นชัดอีกราย อย่าง "บุญจง วงศ์ไตรรัตน์" อดีตรองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และอดีต รมช.มหาดไทย สมัยรัฐบาล "อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ" ที่จุดเริ่มต้นทางการเมือง มาจากการเป็น ส.ส.พรรคไทยรักไทย และพรรคพลังประชาชน ซึ่งมีบทบาทการรวบรวมคนเสื้อแดงอีสาน ก่อนจะไปสนิทสนมกับ "เนวิน ชิดชอบ" แล้วย้ายขั้วไปร่วมงานกับภูมิใจไทย

 

จนการเลือกตั้งเมื่อปี 62 "บุญจง" ได้หวนกลับสู่การเมืองอีกครั้งในนามพรรคพลังประชารัฐ ก่อนสอบตก และกลับมาสมัครเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยอีกครั้ง ช่วงเดือน พ.ค. 65  

 

ทั้งหมดเป็นเพียงฉากทัศน์ ที่พอสะท้อนให้เห็นภาพการเมืองไทย ว่าอะไรๆ ก็เปลี่ยนแปลงและเป็นไปได้ ขึ้นอยู่กับห้วงเวลาและสถานการณ์

 

 

 

 

logoline