จับตา1เดือน"พี่ป้อม"ถอดสมการ"น้องตู่"วัดใจปรับครม.
เชื่อว่าหลายคนต่างโฟกัส โดยเฉพาะทิศทางการเมืองต่อจากนี้ จะเป็นเช่นไรต่อไป หลัง พล.อ.ประยุทธ์ ถูกสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่เป็นการชั่วคราว จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยปม 8 ปี วาระการดำรงตำแหน่งนายกฯ
25 สิงหาคม 2565 รศ.ดร.โอฬาร ถิ่นบางเตียว อาจารย์ประจำภาควิชารัฐศาสตร์ คณะรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา เปิดเผยกับ "เนชั่นทีวี" ว่า จากคำสั่งของศาลรัฐธรรมนูญ ให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หยุดปฏิบัติหน้าที่เป็นการชั่วคราว จนกว่าจะมีคำวินิจฉัยเกี่ยวประเด็นการดำรงตำแหน่ง 8 ปีนั้น ถือเป็นการถอดสมการทางการเมือง เพื่อให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ มาปฏิบัติหน้าที่รักษาราชการแทน
ทั้งนี้ แม้ พล.อ.ประวิตร จะเป็นรักษาการ แต่ก็ถือว่ามีอำนาจทำได้ทุกอย่าง หากเป็นเรื่องใหญ่ๆ ไม่ทำกัน แต่ก็ขึ้นอยู่กับมารยาท ซึ่งในทางการเมือง ถือว่าไม่มีอะไรแน่นอน ดังนั้น ต้องภาวนาให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาให้แล้วเสร็จภายใน 1 เดือน แต่สิ่งสำคัญต้องดูท่าทีของ พล.อ.ประวิตร ตลอดช่วง 1 เดือนนี้ จะมีการขยับอะไรบ้าง โดยเฉพาะอาจเห็นการปรับ ครม. ซึ่งสะท้อนว่าทั้ง 2 คน มีปัญหาแน่ หรือพล.อ.ประยุทธ์ ยอมรับเพราะไปต่อไม่ได้
อาจารย์โอฬาร ฉายภาพว่า หากเป็นเรื่องสำคัญและเกี่ยวข้องกับ พล.อ.ประยุทธ์ ก็สะท้อนถึงสัมพันธภาพ ระหว่าง พล.อ.ประวิตร และพล.อ.ประยุทธ์ มีความคลอนแคลน อีกทั้ง เป็นการตอกย้ำว่าชนชั้นนำ ไม่ต้องการ พล.อ.ประยุทธ์ เพราะไม่สามารถขับเคลื่อนทางการเมืองได้ จึงให้ พล.อ.ประวิตร เข้ามาดำเนินการในเรื่องนี้
อย่างไรก็ตาม ถ้ามองในเชิงสังคมรัฐศาสตร์ เหมือนทำให้รู้สึก "หนีเสือปะจระเข้" โดยเฉพาะเมื่อพล.อ.ประวิตร มาหน้าที่รักษาการ ก็จะถูกฝ่ายค้านรวมถึงภาคประชาสังคมกดดัน หรือสมมติ พล.อ.ประยุทธ์ ได้กลับมา ก็ต้องตัดสินใจอย่างใดอย่างหนึ่ง เพราะ พล.อ.ประยุทธ์ ก็เปรียบเหมือนทางตัน ถึงจะผ่านด่านแรก อย่างการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาแล้วก็ตาม
"ผมเชื่อว่าทีมยุทธศาสตร์ของ พล.อ.ประวิตร ได้มองไว้หลายขั้น ด่านแรก แก้รัฐธรรมนูญผ่านไปแล้ว ก้าวที่สอง คือ ศาล ให้พล.อ.ประยุทธ์ หยุดปฏิบัติหน้าที่ เพื่อดึงออกจากสมการ แล้วเข้าสู่การเลือกนายกฯใหม่ ด้วยกระบวนการตามรายชื่อ แล้วตั้ง ครม. แล้วให้คุณอนุทิน เข้ามาเพียงรับช่วงต่อที่เหลือ เช่น ก.ย. รู้ผล และช่วงเดือน ต.ค. ถึง พ.ย. แล้วเข้าสู่กระบวนการยุบสภา" อาจารย์โอฬาร ระบุ
นักวิชาการด้านรัฐศาสตร์ ยืนยันว่า สุดท้ายแม้ผลคำวินิจฉัยออกมาเช่นไร โดยเฉพาะหาก พล.อ.ประยุทธ์ ได้กลับมาทำหน้าที่ต่อ เพราะไม่ถึง 8 ปี นายกฯ ตามมาตรา 158 ก็ไม่มีปัญหาอะไรที่จะส่งผลต่อภาพลักษณ์การเมืองในประเทศและระหว่างประเทศ