svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ต่างประเทศ

สื่อกัมพูชาไม่แผ่ว ตีข่าวทัวร์รักชาติ ขนคนไปปราสาทตาเมือนธม

สื่อกัมพูชา "ขะแมร์ ไทม์ส" ยังคงเสนอข่าวประเด็นขัดแย้งชายแดนไทย-กัมพูชา อย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดเป็นเรื่องรถบัส 23 คัน ขนทัวร์รักชาติไปที่ปราสาทตาเมือนธม

21 กรกฎาคม 2568 ขะแมร์ ไทม์ส (Khmer Times) กระบอกเสียงของรัฐบาลกัมพูชา รายงานว่า ไม่กี่วันมานี้ กระแสความรักชาติได้แผ่ขยายทั่วราชอาณาจักรกัมพูชา เมื่อชาวกัมพูชามากกว่า 4,000 คน จากทุกสาขาอาชีพ พากันเดินทางไปยังปราสาทตาเหมือนธม และปราสาทตา กระเบย (ตาควาย) ที่ตั้งอยู่ในจังหวัดอุดดอร์ เมียนเจย (อุดรมีชัย) ของกัมพูชา เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 

โดยคนเหล่านี้ เดินทางมาจากกรุงพนมเปญ พระตะบอง โพธิสัตว์ ตะโบงคมุม บันเตียเมียนเจย ไพลิน และเสียมราฐ โดยมีวัตถุประสงค์ที่ชัดเจน คือการแสดงความรักต่อมาตุภูมิ เกียรติภูมิแห่งบรรพบุรุษ และยืนหยัดต่อต้านการบิดเบือน มรดกและอำนาจอธิปไตยโดยต่างชาติ 

รายงานอ้างว่า การระดมกันมาของชาวกัมพูชา เป็นไปตามสัญชาติญาณ และโดยสันติ ซึ่งเป็นเครื่องเตือนใจอันทรงพลังว่า ความรักชาติในกัมพูชาไม่ได้ถูกกำหนด โดยคำสั่งทางการเมืองหรือการโฆษณาชวนเชื่อ แต่หยั่งรากลึกอยู่ในจิตใจของประชาชนทั้งเด็กและผู้ใหญ่ จากเมืองใหญ่และชุมชนชนบท ที่ต่างเดินทางไปยังสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ไม่ใช่ในฐานะนักท่องเที่ยว แต่ในฐานะบุตรธิดาที่ชอบธรรมของแผ่นดิน ไม่ใช่เพื่อยั่วยุ แต่เพื่อสวดมนต์ เพื่อรำลึก และเพื่อประกาศว่า นี่คือกัมพูชา และมรดกนี้เป็นของเรา

สื่อกัมพูชาไม่แผ่ว ตีข่าวทัวร์รักชาติ ขนคนไปปราสาทตาเมือนธม

รายงานยังโจมตีฝ่ายทหารไทยด้วยว่า ในขณะที่ชาวกัมพูชากำลังสร้างประวัติศาสตร์ ด้วยความสามัคคีและศักดิ์ศรี กองทัพไทย กลับใช้เรื่องเล่าเท็จที่น่าอับอาย โดยเมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้กล่าวอย่างไม่ละอายว่า ปราสาทตาเมือนธมและปราสาทตา กระเบยของกัมพูชา ที่มีที่ตั้งชัดเจนในดินแดนของกัมพูชา เป็น "ของประเทศไทย" ทั้งยังกล้าอ้างด้วยว่า "ยินดีต้อนรับ" ชาวกัมพูชา ให้มาเยี่ยมชมปราสาทเหล่านี้ ในฐานะนักท่องเที่ยวภายใต้การกำกับดูแลของทหารไทย

ขะแมร์ ไทม์ส ระบุว่า ขอชี้แจงให้ชัดเจนว่า ชาวกัมพูชาไม่จำเป็นต้องขออนุญาตจากนายพลไทยในการเหยียบย่างบนแผ่นดินของตนเอง ปราสาทเหล่านี้ ได้แก่ ตาเมือนธม ตากระเบย และมรดกทางวัฒนธรรมอันยาวนานของเทือกเขาดงรัก ล้วนเป็นสมบัติของกัมพูชาทั้งในด้านประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม ศาสนา และกฎหมาย กัมพูชายังยินดีต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวไทยสู่ดินแดนของเรา แต่ต้องอยู่ภายใต้กฎหมายกัมพูชา และด้วยความเคารพอย่างสูงสุดต่ออำนาจอธิปไตยของกัมพูชา

กล่าวหาไทยเป็นโจรผู้ป่าวร้องแสดงความเป็นเจ้าของ 
คำกล่าวอ้างของกองทัพไทยไม่เพียงแต่ไม่ซื่อสัตย์เท่านั้น แต่ยังเป็นการเสแสร้งอย่างน่าขัน มันคือพฤติกรรมของโจรที่ถูกจับได้คาหนังคาเขา ซึ่งบัดนี้กำลังพยายามเขียนเรื่องราวขึ้นใหม่ โดยเรียกตัวเองว่าเป็นเจ้าของประวัติศาสตร์ ที่ไม่อาจลบล้างได้ด้วยคำประกาศที่ถูกสลักลงบนหิน บนรากฐานของตาเมือนธมและตากระเบย ซึ่งจารึกโบราณของเขมร ตั้งตระหง่านเป็นหลักฐานอันเป็นนิรันดร์ของมรดกอันชอบธรรมของอารยธรรมของเรา

กลยุทธ์ของไทยนั้นมั่นคงเสมอมา นั่นคือ ปฏิเสธ บิดเบือน และยึดครอง แต่ไม่ว่าพวกเขาจะตั้งด่านตรวจ หรือส่งทหารไปมากเพียงใด พวกเขาก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงความจริงได้ ปราสาทเหล่านี้คือผลงานสร้างสรรค์ของจักรวรรดิเขมร ตั้งอยู่บนผืนแผ่นดินกัมพูชา และเป็นของชาวกัมพูชา การพยายามสร้างภาพตนเองเป็น "เจ้าบ้าน" นั้นทั้งน่าอัปยศและน่าอับอายในระดับนานาชาติ

ถ้ากองทัพและรัฐบาลไทย เชื่ออย่างแท้จริงว่า ตาเมือนธม ตาเมือนโต๊ด ตากระเบย หรือแม้แต่พื้นที่โดยรอบมอมเบย เป็นของพวกเขา ก็ควรยกเคสนี้เข้าสู่ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) ซึ่งเป็นศาลเดียวกับที่ตัดสินอย่างชัดเจน ให้กัมพูชาชนะคดีปราสาทพระวิหาร กัมพูชาพร้อมที่จะปกป้องอธิปไตยภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศ และจะเคารพคำตัดสินของศาล ประเทศไทยจะทำเช่นนั้นหรือไม่ หรือจะยังคงปกปิดอยู่เบื้องหลังเรื่องเล่าที่กุขึ้นมา และการข่มขู่ทางทหารต่อไป "อย่าขี้ขลาด จงไปศาล ไม่ใช่การโฆษณาชวนเชื่อ"

อ้างยืนหยัดอธิปไตยอย่างภาคภูมิใจและสันติ 
กระบอกเสียงของรัฐแห่งนี้ อ้างว่า กัมพูชาทำต่างจากการยั่วยุและการกล่าวอ้างเท็จของไทย การกระทำของกัมพูชาเป็นไปอย่างสันติ ถูกต้องตามกฎหมาย และสง่างาม ได้เคลื่อนย้ายพลเมืองอย่างเป็นระเบียบ เคารพสิ่งแวดล้อม และรักษาความสงบและเอกภาพ ไม่มีใครข้ามเข้าไปในดินแดนไทย ไม่มีใครรบกวนความสงบสุข ประชาชนของเราเพียงแต่ไปแสดงความเคารพต่อประวัติศาสตร์และแสดงความภาคภูมิใจในความเป็นเขมร

ประชาคมระหว่างประเทศควรตระหนักถึงความแตกต่างอย่างชัดเจน ในด้านหนึ่ง ประชาชนผู้มีวินัยและรักชาติ ได้แสดงออกถึงอัตลักษณ์ประจำชาติผ่านการปรากฏตัวอย่างสันติ แต่อีกด้านหนึ่ง กองทัพผู้สิ้นหวังที่ยึดติดกับคำกล่าวอ้างอันเป็นเท็จ ได้หวาดกลัวความจริงที่ว่า ประวัติศาสตร์และมรดกไม่ได้เอื้อประโยชน์แก่พวกเขา

อ้างกัมพูชาจะไม่ยอมคุกเข่า 
รายงานระบุว่า จิตวิญญาณที่ชาวกัมพูชาแสดงออกในสัปดาห์นี้ ไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่เป็นพลังที่เปี่ยมล้น เราเป็นประเทศที่สงบสุข แต่ไม่เคยยอมจำนน เราแสวงหาการเจรจา ไม่ใช่ความขัดแย้ง แต่เราจะไม่ยอมให้ประเทศเพื่อนบ้านมาแย่งชิงวัฒนธรรมและดินแดนของเราไปเพื่อประโยชน์ทางการเมือง 

ในช่วงท้าย ได้มีการชื่นชมเยาวชนชาวกัมพูชาที่เดินทางไปยังตาเมือนธม ตากระเบย ตลอดจนพระสงฆ์ที่สวดมนต์ใต้ศิลาศักดิ์สิทธิ์ ชาวบ้านที่เปิดบ้านและหัวใจของพวกเขาว่า เป็นผู้รักชาติ ที่แบกรับไฟแห่งบรรพบุรุษ และคือแนวหน้าของอำนาจอธิปไตย 

ก่อนจะแว้งกลับมาหาไทยว่า สำหรับผู้ที่แสวงหาสิ่งที่ไม่ใช่ของตน ผู้ปลอมแปลงมรดกและกุแผนที่ขึ้นมา เราขอกล่าวดังนี้ : คุณอาจหลอกตัวเองได้ แต่คุณไม่สามารถหลอกโลกได้ ประวัติศาสตร์รู้ความจริง กัมพูชาจดจำ และประชาชนของเราจะไม่ยอมให้ "โจรเรียกตัวเองว่าเจ้าของ" 

.

https://www.khmertimeskh.com/501720601/cambodians-stand-united-in-patriotism-as-thailand-shamelessly-claims-what-isnt-theirs/