"ทรัมป์" เดือด ออกคำสั่งจับทุกคนใน LA ที่ปิดหน้าก่อจลาจล

9 มิถุนายน 2568 นครลอส แองเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐฯ กำลังลุกเป็นไฟ หลังเผชิญเหตุจลาจล ขณะที่ความตึงเครียดกำลังลามไปที่นครซานฟรานซิสโก โดยมีจุดเริ่มต้นจากนโยบายกวาดล้างผู้อพยพของ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ 

ภาพที่เผยแพร่ได้แสดงให้เห็น ผู้ก่อจลาจลวางกับดักที่อันตรายต่อเจ้าหน้าที่ในลอส แองเจลิส และใช้ระเบิดเพลิง "โมโลตอฟ ค็อกเทล" (Molotov cocktails) ดอกไม้ไฟ และวัตถุระเบิดในการตอบโต้เจ้าหน้าที่ ขณะที่ความตึงเครียดทวีความรุนแรงขึ้น เมื่อคืนวันอาทิตย์ ( 8 มิ.ย.2568)  ตามเวลาท้องถิ่น หลังเกิดการจลาจลติดต่อกันหลายวัน 

ในระหว่างการจลาจล มีตำรวจลอส แองเจลิส หรือ LAPD ติดอยู่ใต้สะพานลอยทางด่วนสาย 101 ( 101 Freeway) ในขณะพยายามดับไฟที่ลุกลามเข้าใส่รถตำรวจทางหลวงหลายคันที่เสียหาย และถูกโจมตีอย่างต่อเนื่อง ทั้งจากวัตถุระเบิดและก้อนหิน ทางการได้พยายามควบคุมฝูงชน แต่ความรุนแรงได้ลุกลามไปถึงนครซานฟรานซิสโก เมื่อผู้ก่อจลาจลได้สร้างความเสียหายให้แก่อาคารหลายหลัง และปะทะกับตำรวจปราบจลาจล

ทางการประกาศว่า พื้นที่ใจกลางเมืองลอส แองเจลิสทั้งหมดเป็นพื้นที่ "ชุมนุมโดยผิดกฎหมาย" และสั่งให้ทุกคนที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียง "ออกจากพื้นที่ทันที" ขณะที่ LAPD ระบุว่า "ผู้ก่อความไม่สงบได้แยกย้ายกันเข้ามา และกระจายกันอยู่ทั่วบริเวณใจกลางเมือง ให้ประชาชน สถานประกอบการ และนักท่องเที่ยวที่มาเยือนให้ระมัดระวัง

เจ้าหน้าที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง และศุลกากรสหรัฐฯ หรือ ICE, LAPD และทหารกองกำลังรักษาดินแดน 2,000 นาย ได้ใช้กระสุนยาง และปืนแสง เข้าควบคุมฝูงชนที่มีประมาณ 6,000 คน โดยมีหน่วยนาวิกโยธิน 500 นาย ตั้งแถวรอสนับสนุน

หนึ่งในภาพที่น่ากลัวของการประท้วงคือ การที่รถแท็กซี่ไร้คนขับ Waymo อย่างน้อย 5 คันถูกจุดไฟเผาและถูกทำลาย ส่งผลให้ต้องปิดถนนลอสแอง เจลิส ในเส้นทางจากทางเหนือของอาร์คาเดีย และทางใต้ของอลาเมดา อย่างไม่มีกำหนด ท่ามกลางความกังวลด้านความปลอดภัยเกี่ยวกับแบตเตอรี่ลิเธียมที่ลุกไหม้ เนื่องจากแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนที่เผาไหม้ จะปล่อยก๊าซพิษ รวมถึงไฮโดรเจนฟลูออไรด์ ที่เป็นอันตราย

ผู้ประท้วงได้ขึ้นไปโบกธงชาติเม็กซิโกอยู่บนหลังคารถที่ถูกทุบทำลาย เพื่อเฉลิมฉลอง พร้อมกับร้องตะโกนว่า "เผา เผา เผา" ขณะที่ ผู้สันทัดกรณีด้านยานยนต์ระบุ รถแท็กซีที่ถูกทำลายมีมูลค่าคันละ 150,000 ดอลลาร์ 

นอกจากนี้ มีนักข่าวหญิงชาวออสเตรเลียที่เข้าไปทำข่าวถูกยิงด้วยกระสุนยางได้รับบาดเจ็บ 1 คน
เธอคือ "ลอเรน โทมาซี" ผู้สื่อข่าว 9News ในเครือ CNN ที่ถูกกระสุนยางซึ่งยิงจากตำรวจ ที่ยืนอยู่ข้างตำรวจบนหลังม้า

ทรัมป์ ได้ออกคำสั่งให้จับกุมทุกคนที่ปิดหน้าปิดตา ส่วน "ทอม โฮแมน" ผู้อำนวยการ ICE ที่ได้รับฉายาว่า "ซาร์แห่งพรมแดน" (Border Czar) ได้ขู่ว่าจะจับกุม "แคเรน บาสส์" นายกเทศมนตรีนครลอส แองเจลิส และ "เกวิน นิวซัม" ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย ถ้าพวกเขาเข้าแทรกแซงการทำงานของ ICE ที่เข้ากวาดล้างผู้อพยพตามนโยบายของ "ทรัมป์"