
ศาลอุทธรณ์มีคำตัดสินเมื่อวันพฤหัสบดี (29 พฤษภาคม) ตามคำร้องขอของรัฐบาลภายใต้การนำของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ให้ระงับคำสั่งของศาลการค้าระหว่างประเทศ (CIT) เมื่อวันพุธเป็นการชั่วคราว และศาลอุทธรณ์สั่งให้สองฝ่ายส่งคำชี้แจงเป็นลายลักษณ์อักษรเกี่ยวกับการยับยั้งมาตรการภาษีศุลกากรของทรัมป์ในช่วงต้นเดือนมิถุนายน
เมื่อวันพุธศาล CIT มีคำตัดสินว่า ประธานาธิบดีทรัมป์ไม่มีอำนาจภายใต้กฎหมายอำนาจฉุกเฉินทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศในการกำหนดมาตรการภาษีศุลกากร และสั่งให้ระงับการบังคับใช้มาตรการเก็บภาษีนำเข้า 10% ในวงกว้างกับเกือบทุกประเทศทั่วโลกที่ทรัมป์ประกาศในวันที่ 2 เมษายน รวมทั้งภาษีตอบโต้ในอัตราสูงกว่าสำหรับสินค้าจากคู่ค้ารายใหญ่ ตลอดจนระงับมาตรการภาษี 20% กับเม็กซิโก แคนาดา และจีน ที่บังคับใช้ก่อนหน้านั้นเพื่อกดดันให้ปราบปรามเรื่องยาเสพติดเฟนทานิลและผู้อพยพ
แต่รัฐบาลทรัมป์ยื่นอุทธรณ์ทันที และศาลอุทธรณ์มีคำตัดสินระงับคำสั่งของศาล CIT ภายในเวลาไม่ถึง 24 ชม.อย่างไรก็ตามยิ่งเพิ่มความสับสนและความไม่แน่นอนเกี่ยวกับนโยบายภาษีและนโยบายการค้าของทรัมป์ ท่ามกลางความกังวลว่าการต่อสู้ทางกฎหมายจะยืดเยื้อ
ทำเนียบขาวแถลงก่อนมีคำตัดสินของศาลอุทธรณ์ว่า อเมริกาจะไม่สามารถดำเนินการใด ๆ ได้ หากการเจรจาทางการทูตหรือการค้าของประธานาธิบดีทรัมป์หรือประธานาธิบดีคนใดถูกขัดขวางโดยผู้พิพากษานักเคลื่อนไหว
ต่อทรัมป์โพสต์ร่ายยาวในทรูธ โซเชียล ขานรับคำตัดสินของศาลอุทธรณ์ และพยายามชี้ให้เห็นว่าเขาตกเป็นเป้าของระบบยุติธรรมที่มีอคติ พร้อมทั้ะระบุด้วยว่า เขาหวังว่าศาลฎีกาสหรัฐฯ จะคว่ำการตัดสินใจของศาล CIT ที่จะคุกคามประเทศด้วยความรวดเร็วและความเด็ดเดี่ยว
นอกจากนี้ปีเตอร์ นาร์วาร์โร ที่ปรึกษาการค้าของทรัมป์ บอกด้วยว่า ถึงแม้หากรัฐบาลแพ้คดี ก็ยังสามารถบังคับใช้มาตรการภาษีอื่น ๆ ได้โดยอาศัยอำนาจของกฎหมายฉบับอื่น
ในการขึ้นภาษีรถยนต์ เหล็ก และอะลูมิเนียม ทรัมป์อ้างประเด็นความมั่นคงเพื่อบังคับใช้มาตรา 232 ของกฎหมายขยายการค้าฉบับปี 2505 และทรัมป์สามารถขยายการเก็บภาษีนำเข้าภายใต้กฎหมายดังกล่าวให้ครอบคุมสินค้าอื่น ๆ เช่น เซมิคอนดักเตอร์ และไม้แปรรูป
ทรัมป์ยังสามารถใช้มาตรา 301 ของกฎหมายการค้าฉบับปี 2517 ซึ่งเขาเคยใช้ในภารทำสงครามภาษีกับจีนในรัฐบาลสมัยแรก และมาตรา 338 ของกฎหมายการค้าฉบับปี 2473 ที่ไม่ได้ใช้มานานหลายสิบปี และอนุญาตให้ประธานาธิบดีขึ้นภาษีได้สูงถึง 50% สำหรับสินค้านำเข้าจากประเทศที่เลือกปฏิบัติต่อสหรัฐฯ