
อีลอน มัสก์ มหาเศรษฐีที่รวยที่สุดของโลก โพสต์ใน X เมื่อวันพุธ (28 พฤษภาคม) ประกาศลาออกจากรัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ หลังดำรงตำแหน่งผู้กำกับดูแลสำนักงานประสิทธิภาพรัฐบาล หรือ ดอจ DOGE ที่มีเป้าหมายตัดรายจ่ายและลดขนาดของรัฐบาลกลางในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา
เขาระบุว่า กรอบเวลาทำงานในฐานะที่ปรึกษาพิเศษของรัฐบาลถึงกำหนดสิ้นสุดแล้ว และขอบคุณประธานาธิบดีทรัมป์ ที่ให้โอกาสเขามีบบาทตัดรายจ่ายที่สิ้นเปลืองของรัฐบาล แต่ภารกิจของดอจจะยังเข้มแข็งขึ้นเพราะกลายเป็นวิถีปกติของรัฐบาลแล้ว
ทรัมป์แต่งตั้งมัสก์ให้เป็นลูกจ้างพิเศษของรัฐบาลที่อนุญาตให้ทำงาน 130 วันต่อปี และจะครบกำหนดในสิ้นเดือนพฤษภาคม
เดิมมัสก์ตั้งเป้าว่าดอจจะตัดลดรายจ่ายของรัฐบาลกลางให้ได้อย่างน้อย 2 ล้านล้านดอลลาร์ แต่ต่อมาลดเป้าหมายลงครึ่งหนึ่ง ก่อนลดลงอีกเป็น 150,000 ล้านดอลลาร์ และจากนโยบายของดอจทำให้มีการปลดหรือจ้างออกพนักงานราว 260,000 คน จากทั้งหมด 2.3 ล้านคน และในบางกรณีศาลยับยั้งการปลดหรือสั่งให้พนักงานบางคนกลับเข้าทำงานได้ตามเดิม
กระแสความไม่พอใจในวงกว้างทำให้เกิดการรณรงค์บอยคอตต์เทสลา การประท้วงด้านนอกโชว์รูม และการทำลายรถยนต์ โชว์รูมและสถานีชาร์จของเทสลา รวมถึงยอดขายและมูลค่าหุ้นของเทสลาตกลงอย่างมาก จนในที่สุดมัสก์ประกาศเมื่อเดือนเมษายนว่า เขาจะลดเวลาทำงานในดอจ
การประกาศถอนตัวจากรัฐบาลล่าสุดมีขึ้นหลังจากช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา เขาได้ลดชั่วโมงการทำงานเพื่อหันไปให้ความสำคัญกับการบริหารธุรกิจ ซึ่งรวมถึงเทสลาและสเปซเอ็กซ์ เพื่อคลายความกังวลของนักลงทุน
การถอนตัวของมัสก์ยังมีขึ้นเพียงวันเดียวหลังจากเพิ่งให้สัมภาษณ์สื่อแสดงความผิดหวังกับร่างกฎหมายงบประมาณของทรัมป์ ที่จะลดภาษีแก่ประชาชนและธุรกิจหลายล้านล้านดอลลาร์ และเพิ่มงบประมาณด้านการทหาร ทำให้ยอดขาดุลงบประมาณจะยิ่งสูงขึ้น และทำลายงานที่ดอจกำลังทำอยู่
เมื่อวันพุธทรัมป์เผชิญคำถามของสื่อเกี่ยวกับความเห็นนี้ของมัสก์ และกล่าวยอมรับว่า เขาไม่ค่อยพอใจบางส่วนของร่างงบประมาณที่ผ่านการเห็นชอบของสภาผู้แทนราษฎรแล้ว แต่กำลังมีการเจรจา และยังต้องรอโหวตในวุฒิสภา และสภาผู้แทนราษฎรอีกครั้งก่อนจะมีการลงนามบังคับใช้