ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ โพสต์ในทรูธ โซเชียล ในวันเสาร์ (17 พฤษภาคม)ว่า เขาจะโทรศัพท์หาประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย ในเวลา 10.00 น.ของวันจันทร์ (19 พฤษภาคม) ตามเวลาท้องถิ่น ตามด้วยการพูดคุยกับประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน และผู้นำบางชาติในองค์การนาโต และหวังว่าจะเป็นวันที่ได้ผลลัพธ์ เกิดการหยุดยิง และสงครามที่รุนแรงมากและไม่ควรเกิดขึ้นจะถึงจุดสิ้นสุด
ท่าทีของผู้นำสหรัฐฯ มีขึ้นหลังจากการเจรจาสันติภาพโดยตรงระหว่างรัสเซียและยูเครนครั้งแรกในรอบ 3 ปี ที่นครอิสตันบุลของตุรกีเมื่อวันศุกร์ (16 พฤษภาคม) ไม่มีความคืบหน้าสำคัญ และไม่อาจบรรลุข้อตกลงหยุดยิง การเจรจาเสนอโดยประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย แต่เขาปฏิเสธคำเชิญของประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน ที่บอกว่า พร้อมพบกับผู้นำรัสเซียที่อิสตันบุล และส่งคณะเจ้าหน้าที่ระดับล่างของรัสเซียเข้าร่วมการเจรจา ทำให้เซเลนสกีโจมตีว่า ปูตินไม่ได้จริงจังที่จะยุติสงคราม
และเมื่อปูตินไม่ไปร่วมเจรจา ประธานาธิบดีทรัมป์ ที่เดิมเปรยว่าอาจแวะไปร่วมเจรจา หากปูตินเข้าร่วมขณะอยู่ระหว่างเยือน 3 ชาติตะวันออกกลาง จึงเปลี่ยนใจไม่ไปอิสตันบุล และบินกลับประเทศหลังเสร็จสิ้นการเยือนสหรัฐอาหรับเอมิเรสต์เป็นแห่งสุดท้าย
ในวันเสาร์ทำเนียบเครมลินของรัสเซีย ยืนยันว่า รัสเซียกำลังเตรียมการสำหรับการพูดคุยโทรศัพท์ระหว่างปูตินกับทรัมป์ในวันจันทร์
การเจรจาบรรลุข้อตกลงเพียงการแลกเปลี่ยนเชลยสงครามฝ่ายละ 1,000 คน ซึ่งที่ผ่านมาก็มีการแลกเปลี่ยนเชลยสงครามเป็นระยะ ๆ อยู่แล้ว และการเห็นพ้องต้องกันว่า ควรมีการเจรจาระหว่างประธานาธิบดีเซเลนสกีและประธานาธิบดีปูติน รวมทั้งสองฝ่ายจะเสนอวิสัยทัศน์ของแต่ละฝ่ายเกี่ยวกับแผนหยุดยิง
ทำเนียบเครมลิน บอกด้วยว่า จำเป็นต้องมีการแลกเปลี่ยนเชลยสงครามเสร็จสิ้นก่อนกำหนดการเจรจารอบต่อไป และหัวหน้าฝ่ายข่าวกรองกองทัพของยูเครน บอกว่า การแลกเปลี่ยนเชลยอาจเกิดขึ้นได้อย่างเร็วในสัปดาห์หน้า
นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยูเครน เผยภายหลังการเจรจาว่า รัสเซียยื่นข้อเรียกร้องใหม่ที่ไม่อาจยอมรับได้ ซึ่งรวมถึง ต้องการให้ยูเครนถอนทหารออกจากพื้นที่บางส่วนในรัสเซีย เพื่อแลกกับการหยุดยิง ขณะเดียวกันฝ่ายูเครน ย้ำข้อเรียกร้องที่ต้องการให้มีการหยุดยิงอย่างเต็มรูปแบบและไม่มีเงื่อนไขนาน 30 วัน
แต่ในวันเสาร์โดรนของรัสเซียโจมตีรถโดยสารในแคว้นซูมีของยูเครน ทำให้มีผู้เสียชีวิต 9 คน และผู้บาดเจ็บ 7 คน และประธานาธิบดีเซเลนสกีเรียกร้องให้เพิ่มมาตรการคว่ำบาตรต่อรัสเซียเพื่อกดดันให้ยุติการเข่นฆ่าพลเรือน