svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ต่างประเทศ

ทรัมปอ้างสัมพันธ์การค้ากับจีนรีเซ็ต หลังพูดคุยที่สวิส

การพูดคุยเรื่องภาษีระหว่างผู้แทนสหรัฐฯ และสหรัฐฯ ในวันแรกเมื่อวันเสาร์จบลง โดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ อ้างว่า มีความคืบหน้าอย่างยิ่ง และเป็นการรีเซ็ตความสัมพันธ์การค้า

การเจรจาการค้าระหว่างคณะผู้แทนสหรัฐฯ นำโดยสกอตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลัง และผู้แทนจีน นำโดยเหอ ลี่เฟิง รองนายกรัฐมนตรีจีน ที่นครเจนีวาของสวิตเซอร์แลนด์ ในวันแรกเมื่อวันเสาร์ (10 พฤษภาคม) จบลงหลังใช้เวลากว่า 10 ชม. และสองฝ่ายเตรียมเจรจาต่อในวันนี้ เพื่อหาทางคลี่คลายสงครามการค้า ที่สหรัฐฯ ประกาศภาษีศุลกากรกับสินค้าจีนสูงถึง145% และจีนตอบโต้ด้วยการขึ้นภาษี 125%

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ โพสต์ในทรูธ โซเชียลเมื่อค่ำวันเสาร์ว่า การพูดคุยมีความคืบหน้าอย่างมาก พูดคุยหลายเรื่อง และตกลงกันในหลายประเด็น และการเจรจารีเซ็ตทั้งหมดดำเนินด้วยบรรยากาศเป็นมิตรและสร้างสรรค์ โดยสองฝ่ายอย่างเห็นการเปิดตลาดของจีนให้กับธุรกิจอเมริกันเพื่อประโยชน์ของทั้งจีนและสหรัฐฯ

ขณะที่ยังไม่มีผู้แทนฝ่ายใดออกมาแสดงความเห็นต่อความคืบหน้าของการเจรจา ท่ามกลางความคาดหวังว่าจะช่วยสร้างเสถียรภาพให้กับตลาดโลก ที่ผันผวนอย่างหนักจากสงครามการค้าระหว่างสองมหาอำนาจ

ก่อนหน้านี้เบสเซนต์เผยกับสื่อแล้วว่า การหารือรอบนี้จะเป็นการคลี่คลายความตึงเครียด มากกว่าจะบรรลุขอตกลงการค้าครั้งใหญ่

ขณะที่ประธานาธิบดีทรัมป์ โพสต์ในทรูธ โซเชียลเมื่อวันศุกรว่า อาจจะลดภาษีให้จีนเหลือ 80% ซึ่งเป็นตัวเลขที่น่าจะเหมาะสม แต่ก็ขึ้นอยู่กับเบสเซนต์จะเจรจา พร้อมกับย้ำว่า จีนควรเปิดตลาดให้สหรัฐฯ ซึ่งจะส่งผลดีต่อทั้งสองฝ่าย

แต่โฆษกทำเนียบขาว ชี้แจงในวันเดียวกันว่า สหรัฐฯ จะไม่ลดภาษีเพียงฝ่ายเดียว และจีนควรยอมลดภาษีลงด้วยเช่นกัน

การที่ทรัมป์ย้ำหลายครั้งเรื่องการเจรจากับจีนและจะลดภาษีให้จีน บ่งชี้ว่า เริ่มตระหนักถึงความเป็นจริงทางเศรษฐกิจว่า การใช้กำแพงภาษีบีบให้จีนเปิดตลาด เพื่อหวังลดยอดขาดดุลการค้ามหาศาลกับจีน ไม่ได้มีอำนาจมากมายอย่างที่เขาคิด จีนโต้กลับด้วยเกมตาต่อตา ฟันต่อฟัน อย่างไม่เกรงกลัว  

การยกระดับสงครามการค้าของทรัมป์ทำให้ตลาดหุ้นร่วงหนักและสูญเสียหลายล้านล้านดอลลาร์ ผู้ค้าปลีกสหรัฐฯ เตือนอาจขาดแคลนสินค้า และผู้บริโภคชาวอเมริกันกังวลราคาสินค้าแพงขึ้นและขาดแคลนสินค้า ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในเศรษฐกิจสหรัฐฯ

นักวิเคราะห์ เชื่อว่า ทรัมป์ไม่ได้วางแผนที่ดีมากพอ และเชื่อว่า ไม่ได้ตั้งใจขึ้นภาษีจนสร้างความยุ่งเหยิงขนาดนี้ แต่จีนเตรียมพร้อมมาแล้วเพื่อรับมือกับสงครามการค้ารอบนี้ หลังมีบทเรียนจากรัฐบาลสมัยแรกของทรัมป์ จึงมั่นใจว่า ชาวจีนพร้อมจะต้านทานผลกระทบจากจากสงครามการค้ามากกว่าชาวอเมริกัน และหลังจากประเมินความเด็ดเดี่ยวของจีนต่ำเกินไป รัฐบาลทรัมป์ตระหนักแล้วว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ ต้องพึ่งพาจีนมากแค่ไหน ส่วนจีนอาจแสวงหาตลาดอื่น แต่ก็ยังทดแทนตลาดสหรัฐฯ ไม่ได้ ทำให้ถึงเวลาที่สองฝ่ายจะต้องหันหน้าเจรจากัน