ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ตอบคำถามสื่อเกี่ยวกับพระสันตะปาปาองค์ใหม่ที่เป็นชาวอเมริกันองค์แรกเมื่อวันพฤหัสบดีว่า “การมีโป๊ปจากอเมริกาเป็นเกียรติอย่างสูงยิ่ง และอดีตประธานาธิบดีโจ ไบเดน ซึ่งเป็นประธานาธิบดีคาทอลิกคนแรกของสหรัฐฯ โพสต์ถวายพระพรแด่โป๊ปเลโอที่ 14 และขอพรให้พระองค์ประสบความสำเร็จ นอกจากนี้อดีตประธานาธิบดีบารัค โอบามา โพสต์ว่า เป็นวันประวัติศาสตร์สำหรับสหรัฐฯ และทั้งเขาและมิเชล ภรรยา จะสวดอธิษฐานแด่พระองค์ในการเริ่มทรงงานเพื่อปกครองคริสตจักรและเป็นแบบอย่างแก่ผู้คนมากมายโดยไม่แบ่งแยกความศรัทธา
สหรัฐฯ เป็นประเทศที่มีประชากรเป็นชาวคริสต์นิกายคาทอลิกมากเป็นอันดับ 4 ของโลก และอดีตผู้นำสหรัฐฯ ล้วนแสดงความยินดีกับที่พระคาร์ดินัลโรเบิร์ต ฟรานซิส เพรวอสต์ ชาวอเมริกัน ที่ถือสัญชาติทั้งสหรัฐฯ และเปรู ได้รับเลือกเป็นพระสันตะปาปาองค์ที่ 267 เมื่อคืนวันพฤหัสบดี และมีพระนามใหม่ว่า พระสันตะปาปาเลโอที่ 14
นอกจากนี้นายกรัฐมนตรีแอนโทนี แอลบานีส ของออสเตรเลีย แถลงแสดงความยินดีแด่โป๊ปองค์ใหม่ และบอกว่าเป็นช่วงเวลาแห่งความสุขและความหวังแก่ชาวคาทอลิกทั่วโลก และหวังว่าพระองค์จะนำพาสันติภาพและความยุติธรรมในสังคมสำหรับมวลมนุษยชาติ นอกจากนี้รัฐบาลปรารถนาที่จะสานต่อความสัมพันธ์ระหว่างออสเตรเลียและคริสตจักรภายใต้การนำของโป๊ปเลโอที่ 14 พร้อมกับเชิญพระองค์เสด็จเยือนออสเตรเลียที่มีประชากรชาวคริสต์เกือบ 6 ล้านคน เพื่อเข้าร่วมพิธีมหาสนิทศักด์สิทธิ์นานาชาติ 2028 (International Eucharist Congress 2028) ที่ออสเตรเลียเป็นเจ้าภาพ
และประธานาธิบดีเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์ ของฟิลิปปินส์ ออกแถลงการณ์แสดงความยินดีกับโป๊ปองค์ใหม่ และแสดงความหวังว่าพระองค์จะยังคงทำให้คริสตจักรเข้าถึงคนยากจนและผู้ด้อยโอกาสมากยิ่งขึ้น และเฟอร์ดินานด์ มาร์ติน จี โรมวลเดซ ประธานสภาผู้แทนราษฎรฟิลิปปินส์ เรียกร้องให้พระองค์นำทางศาสนิกชนสู่สันติภาพ การเยียวยา และการฟื้นคืนศรัทธา
ฟิลิปปินส์มีประชากรชาวคริสต์โรมันคาทอลิกมากที่สุดในเอเชีย หรือเกือบ 80% จากประชากร 100 ล้านคน และมากเป็นอันดับ 3 ของโลก
นอกจากนี้ไมเคิล ไทรอัส คุนคาห์โยโน เอกอัครราชทูตอินโดนีเซียประจำนครรัฐวาติกัน แสดงความยินดีที่โป๊ปองค์ใหม่ส่งสัญญาณสานต่อจิตวิญญาณของโป๊ปฟรานซิส ที่สิ้นพระชนม์เมื่อเดือนเมษายน และได้รับยกย่องเรื่องการให้ความสำคัญกับความยุติธรรมในสังคมและกลุ่มคนชายขอบ
อินโดนีเซียมีประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิม และมีเพียง 3.1% เป็นชาวคาทอลิก และโป๊ปฟรานซิสเคยเสด็จเยือนอินโดนีเซียเมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้ว ระหว่างการเสด็จเยือนต่างประเทศนาน 12 วัน ยาวนานที่สุดตลอดการดำรงตำแหน่งประมุขแห่งคริสตจักร
ขณะเดียวกันอาร์คบิชอพแห่งยอร์ค สตีเฟน คอทเทรลล์ ซึ่งเป็นรักษาการประมุขคริสตจักรแห่งอังกฤษ ออกแถลงการณ์ระบุว่า ในฐานะชาวคริสต์นิกายแองกลิกัน ขอขอบพระทัยโป๊ปองค์ใหม่แห่งคริสตจักรโรมันคาทอลิก ที่เรียกร้องให้ชาวคริสต์เป็นผู้สร้างสะพานเชื่อมการแบ่งแยกในโลก และการแบ่งแยกระหว่างคริสตจักร
และโรนัลด์ เอส เลาเดอร์ ประธานสภาศาสนายิวโลก ระบุว่า ปรารถนาที่จะได้กระชับความสัมพันธ์กับคริสตจักรภายใต้การนำของโป๊ปเลโอที่ 14 และในช่วงวิกฤตของโลกเวลานี้ ความสัมพันธ์นี้มีความสำคัญยิ่งขึ้น