
แหล่งข่าวในอิสราเอล เผยว่า คณะรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงลงมติเมื่อวันอาทิตย์ (4 พฤษภาคม) อนุมัติแผนใหม่ของสงครามในฉนวนกาซา ที่รวมถึงขยายปฏิบัติการทางทหาร, ยึดครองพื้นที่ทั้งหมด, ย้ายชาวปาเลสไตน์ออกไปจากฉนวนกาซาตอนใต้ ระหว่างการโจมตีฮามาสอย่างหนักหน่วง
นอกจากนี้กองทัพจะควบคุมการลำเลียงอาหารและสิ่งของจำเป็นอื่น ๆ เข้าสู่ฉนวนกาซาเพื่อแจกจ่ายแก่ชาวปาเลสไตน์ โดยจะตั้งเขตมนุษยธรรมในภาคใต้ของกาซาเพื่อเป็นฐานสำหรับการจัดสรรความช่วยเหลือ
แต่เครือข่ายองค์กรด้านมนุษยธรรม Humanitarian Country Team (HCT) ที่รวมถึงสหประชาชาติ เปิดเผยว่า อิสราเอลต้องการให้องค์กรบรรเทาทุกข์ขออนุมัติจากอิสราเอลจึงจะจัดส่งความช่วยเหลือเข้าสู่ฉนวนกาซาได้ โดยต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขที่กองทัพอิสราเอลกำหนด เมื่อรัฐบาลตกลงเปิดจุดผ่านแดนอีกครั้ง
HTC ระบุว่าแผนของอิสราเอลอันตราย และละเมิดหลักการด้านมนุษยธรรมขั้นพื้นฐาน โดยมีเจตนาควบคุมสิ่งของจำเป็นต่อชีวิตเพื่อใช้เป็นแรงกดดัน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของยุทธวิธี และบอกด้วยว่า ยูเอ็นจะไม่เข้าร่วมกับแผนของอิสราเอล เพราะไม่สอดคล้องกับหลักมนุษยธรรมในโลก
ส่วนฮามาสออกแถลงการณ์ในวันจันทร์ (5 พฤษภาคม) ประณามแผนของอิสราเอล โดยระบุว่า คัดค้านการใช้สิ่งของช่วยเหลือเป็นเครื่องมือแบล็กเมลทางการเมือง และสนับสนุนจุดยืนของยูเอ็นที่คัดค้านการกระทำที่ละเมิดหลักการด้านมนุษยธรรม และอิสราเอลจะต้องรับผิดชอบทั้งหมดสำหรับหายนะด้านมนุษยธรรมในฉนวนกาซา
แต่รัฐบาลอิสราเอลปฏิเสธคำอ้างจากกลุ่มบรรเทาทุกข์ที่บอกว่า เกิดภาวะอดอยากในฉนวนกาซา แม้ปิดกั้นจุดผ่านแดนที่ลำเลียงสิ่งของบรรเทาทุกข์เข้าสู่ฉนวนกาซาตั้งแต่วันที่ 2 มีนาคม หรือ 16 วัน ก่อนกองทัพยกระดับการทำสงครามกับฮามาสระลอกใหม่
มติของคณะรัฐมนตรีเมื่อวานมีขึ้นไม่กี่ชั่วโมงหลังจากกองทัพเรียกทหารกองทุนหลายหมื่นคน และเตรียมขยายปฏิบัติการสู้รบในพื้นที่ใหม่ และมุ่งทำลายโครงสร้างพื้นฐานทั้งหมดทั้งหมดทั้งที่อยูบนดินและใต้ดิน
ขณะที่ครอบครัวตัวประกันและผู้สูญหายของอิสราเอล ระบุในแถลงการณ์ที่เผยแพร่ในวันนี้ว่า แผนของรัฐบาลจะเป็นอันตรายต่อชีวิตของตัวประกันที่ยังคงถูกกักขังในฉนวนกาซา